“สนธิ” ถาม “ฮุนเซน” ให้ที่ซุกหัว “นช.แม้ว”!? - จวก “เทพเทือก” ส่อเกี้ยเซี้ยนักโทษหนีคดี

“สนธิ” ถาม “ฮุนเซน” ให้ “นช.แม้ว” พักที่บ้าน แถมรับเงิน 20 ล้านดอลล์ ซื้ออาวุธส่งป้อนแก๊งป่วนชาติก่อเหตุนองเลือดในไทย จริงหรือไม่ ชี้ พิรุธช่วงนี้ ผู้นำเขมรอารมณ์เกรี้ยวกราดเป็นพิเศษ เหตุปะทะที่ชายแดนเป็นการจงใจ จริงหรือไม่ พร้อมถาม “เทพเทือก” เตรียมเจรจานักโทษหนีคดี แอบจับมือกันลับหลัง เตรียมผ่าน กม.ปรองดองฯ ใช่หรือไม่

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ถ่ายทอดสดทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน จากเวทีชั่วคราว ลานจอดรถหน้าบ้านเจ้าพระยา ช่วงเวลา 20.30-22.00 น.วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2552 นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย ต่อหน้าพ่อยกแม่ยกที่มาร่วมรายการหลายร้อยคนเช่นเคย



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

“พ่อแม่พี่น้องครับ มีซีดีแจกฟรี “กษิต ซัดแม้วรักแผ่นดินท้าชนผ่านสื่อต่างประเทศ” ช่วยเอาซีดีแจกพี่น้องได้ตามสัญญาครับ ฟรี (เขาบอกเอาไว้แจกหลังจากที่ผมพูดเสร็จนะครับ)

พี่น้อง เมื่อเช้านี้ใครได้ดู Good Morning Thailand บ้าง ผมต้องกราบขอประทานโทษ ขออภัยพี่น้องที่พูดจาหยาบคาย ที่ปล่อยเหี้ยออกมา 3 ตัว ผมต้องกราบขอโทษในคำพูดนั้น เพราะว่าผมรับไม่ได้จริงๆ ที่เอาเด็กอายุ 10 ขวบ มาเต้นรูดเสา เพราะว่าผมทนไม่ไหวจริงๆ และผมคิดว่าสังคมไทยมันไม่ไหวแล้ว ณ วันนี้

พี่น้องครับ เราทักทายขณะนี้มีรายการถ่ายทอดสดไปที่ท่าฉลอม สมุทรสาครนะครับ (พี่อยู่ไกลถึงท่าฉลอม แต่พี่ไม่ตรอมเพราะรักพยอมยามยาก ออกทะเลจะหาปลามาฝาก แม่คุณขวัญใจคนยาก รับของฝากจากพี่ได้ไหม) โอเคครับ พี่น้องพอแล้วๆ ฝากเพลงนี้ให้พ่อแม่พี่น้องที่ท่าฉลอม สมุทรสาคร เดิมทีขอร้องให้ผมไป เนื่องจากว่า 4 แกนนำไปหมด ขาดผมเพียงคนเดียว ผมบอกว่าอยากไป แล้วผมจะทำยังไงกับพี่น้องที่นี่ ก็เลยต้องขอเอาไว้ เขาเลยถ่ายทอดสดมาครับพี่น้องครับ

พี่น้องครับ วันนี้ จะเอาเรื่องราวต่างๆ มาสรุปให้ฟังนิดหนึ่ง ว่า ขณะนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะสรุปอะไรทั้งสิ้น ขอฝากถามไปยังกรุงพนมเปญ ที่ท่านนายกฯ สมเด็จเดโช ฮุนเซน อยู่ จะฝากเรียนถามท่านในฐานะสื่อมวลชนคนหนึ่ง ขอถามท่านว่า จริงหรือไม่ว่าขณะนี้ นช.ทักษิณ ชินวัตร พำนักอยู่ที่บ้านท่านฮุนเซน ณ กรุงพนมเปญ ถ้าจริง กระทรวงการต่างประเทศกำลังทำจดหมายโดยด่วนไปหาท่าน เพื่อขอให้ท่านส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามที่มีสนธิสัญญากัน นอกจากนั้นแล้ว อยากจะกราบเรียนถามท่านอีกว่า ข่าวว่า เมื่อเช้านี้ นช.ทักษิณ มาถึงกรุงพนมเปญ เวลา 11.00 น.และมีข่าวว่า มีคนให้เงินท่านประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเอาเงินนั้นมาซื้ออาวุธ ไม่ทราบว่า ท่านนายกฯ สมเด็จเดโชฮุน เซน จะว่าอย่างไร

และอาวุธที่ซื้อนั้น ทราบมาว่า ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ ส่วนหนึ่งจะถูกลักลอบข้ามชายแดนไทยตรงพรมแดน เพื่อมามอบให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เอาเข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทย เพื่อก่อให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นมา ไม่ทราบว่า สมเด็จเดโช ฮุนเซน ท่านทราบเรื่องนี้หรือไม่

ก็อยากจะถามต่อ ว่าจริงหรือไม่จริง ว่า ดีทีวีนั้นไปเปิดสำนักงานอยู่ที่พนมเปญเรียบร้อยแล้ว

พี่น้องครับ รู้สึกผิดสังเกตไหมว่า นายกฯ ฮุนเซน 1-2 วันนี้ มีอารมณ์กราดเกรี้ยวกับประเทศไทยมาก หลายๆ อย่างมันไม่ใช่เรื่องเหตุบังเอิญ พี่น้อง หลายๆ อย่างมันเป็นเรื่องการจงใจ

พี่น้องครับ จริงหรือเปล่าว่าจงใจให้ก่อเหตุ ให้มีเรื่องราวขึ้นที่พรมแดน เพื่อทหารไทยกองทัพภาค 2 จะได้ไปตรึงกำลังอยู่ที่นั่น รวมตลอดไปจนถึงกองกำลังบูรพาของกองทัพภาค 1 ก็ต้องไปตรึงกำลังแถวอรัญประเทศด้วย เพื่อรอให้เหตุวันที่ 8-9-10 เกิดขึ้นมาในกรุงเทพมหานคร พี่น้องเข้าใจหรือยัง

พี่น้องครับ เกมอันนี้เป็นเกมลับลวงพราง น่าเสียดายที่คนที่เคยสนิทกับเรา และเราคิดว่าเขายังเป็นเพื่อนอยู่ คือ ท่าน ส.ส.บุญยอด ตกหลุมพรางไปบอกว่า นช.ทักษิณ นั้นบินไปที่สเปน เพื่อไปเจอผู้ใหญ่คนหนึ่งที่หาทางไกล่เกลี่ยประนีประนอม ซึ่งเป็นข้อมูลที่เท็จ พี่น้อง วันนี้พรรคประชาธิปัตย์บางคนตกหลุมพราง กลายเป็นเครื่องมือของกระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอมครับ พี่น้อง

พี่น้องครับ เรามีนักโทษชายที่หนีคุกหนีตะราง หนีออกไปอยู่นอกประเทศ โทรศัพท์ ทำวิดีโอลิงก์เข้ามาปลุกปั่นประชาชน จาบจ้วง ทำลายประธานองคมนตรี กระทบคราดไปจนถึงสถาบันกษัตริย์ แล้วทำไมเราต้องไปเจรจาด้วย มันไม่ใช่เรื่องของคนที่มีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน แล้วมานั่งถกเถียงกันบนโต๊ะ แต่มันเป็นเรื่องความผิดของคนบางคนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาตัดสินไปจนเห็นดำเห็นแดงเรียบร้อยแล้ว

ผมอยากจะพูดถึงท่านรองนายกฯ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ผมอยากจะกราบเรียนท่านว่า นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของผมและท่าน ท่านให้เหตุผลของการเจรจา ว่า เพื่อความปลอดภัยของชาติบ้านเมือง เพราะชาติบ้านเมืองกำลังเจอวิกฤตเศรษฐกิจ พี่น้องครับ วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกเจอกันหมด แต่โลกทั้งโลกเจอแค่วิกฤตเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยเจอทั้งวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตจริยธรรม ท่านรองนายกฯ สุเทพ บอกอยากให้ประเทศไทยนั้นปลอดภัย ถ้าท่านอยากให้ประเทศไทยนั้นปลอดภัยท่านต้องดำเนินการตามกฎหมายซิครับ ถ้าท่านไม่ดำเนินการตามกฎหมายและท่านจะมีกฎหมาย ทำหน้าที่รักษากฎหมายไปทำไมพี่น้อง การที่ท่านบอกว่า ท่านจะไปเจรจากับ นช.ทักษิณ ที่ไหนก็ได้ ท่านพูดเช่นนี้เท่ากับท่านเอาส้นตีนท่านเหยียบหัวใจท่านรัฐมนตรี กษิต ภิรมย์ ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านรัฐมนตรี กษิต ภิรมย์ เป็นคนที่มีจริยธรรมและศีลธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 1 คนในประวัติศาสตร์ที่หาได้ยากมาก ที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่มีจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม ที่สำคัญที่สุดครับท่านรองนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ ท่านเป็นคนกล้าหาญ ท่านไม่ได้แอบจับมือกับใครลึกๆ ลับๆ ท่านไม่ได้แอบส่งคนไปติดต่อ ท่านไม่ได้บอกว่า เฮ้ยป่วนให้เยอะๆ นะ พอป่วนเยอะๆ แล้วผมจะเสนอเจรจาเอง พี่น้องเข้าใจหรือยัง

ผมจะขอเตือนพรรคประชาธิปัตย์เอาไว้ในที่นี้นะ แล้วผมขอพูดถึงสมาชิกคนที่เคยลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องชาวใต้ การเสนอตัวมาเจรจาครั้งนี้ กลิ่นมันทะแม่งๆ ครับพี่น้องครับ ทำไมเราต้องเจรจากับคนที่ถูกพิพากษาจำคุก ทำไมถึงไม่ดำเนินการจัดการไม่ให้มีวิดีโอลิงก์เข้ามา ทำไมไม่ทำเช่นนั้น แต่กลับไปทำทีท่าว่าถ้าหากไม่เจรจาแล้วประเทศไทยจะไม่ปลอดภัย

แสดงว่า นักโทษคนหนึ่งที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก แล้วส่งเงินมาจ้างประชาชนรับเงินรับทองมาเพื่อป่วนประเทศ ก็สามารถทำให้ประเทศไทยนั้นต้องเจรจาได้หรือ พี่น้อง

พี่น้อง เราต้องตั้งเป้าให้ถูกต้องก่อน วันนี้ นช.ทักษิณ ต้องการอะไรพี่น้อง หนึ่ง ต้องการที่จะให้ตัวเองพ้นผิด สอง ต้องการจะได้ทรัพย์สมบัติคืน สาม ต้องการที่จะกลับมีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว ยุทธศาสตร์ที่ตั้งเอาไว้มี 3 ระดับ ระดับแรก คือ ระดับซึ่งจะต้องสู้จนถึงที่สุด และถ้าแพ้ก็ยังถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว แต่ถ้าชนะก็ถูกรางวัลที่ 1 แปลว่าอะไร แปลว่า ถ้าหากมีป่วนเมืองขึ้นมา มีการนองเลือด จะด้วยเหตุใดก็ตาม แล้วเรามีรัฐบาลที่ไม่กล้าตัดสินใจ และเรามีนายทหารบางคนที่บอกว่าวางตัวเป็นกลาง ถ้าวันนี้เขาชนะด้วยวิธีการอย่างนี้ เขาก็ได้กลับคืนมาสู่อำนาจ ยึดประเทศไทยไป นั่นคือ รางวัลที่ 1 ที่เขาได้

แต่ถ้าเขาแพ้ แล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลง เกิดมีการยึดอำนาจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าเขาเล่นเกมรุนแรง เขาก็ถูกเลขท้าย 2 ตัว เพราะว่าเขาสามารถจะอ้างเหตุนี้เพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองได้ทันที เปลี่ยนสถานภาพจากอาชญากรเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง และพร้อมที่จะรับพวกลิ่วล้อที่สนิทกับเขา ไปอยู่กับเขา แล้วก็ไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

ขั้นตอนที่ 2 รองลงมา ก็คือ อะไรพี่น้อง ก็คือ การที่ให้ทุกฝ่ายยอมรับกฎหมายปรองดองแห่งชาติ นั่นก็คือ เมื่อมีกฎหมายนี้ออกมาแล้ว ก็ทำให้เขาพ้นผิดเช่นกัน แต่เขาก็ต้องกลับมาเล่นการเมืองต่อ แต่การที่เขาพ้นผิดแล้วเขากลับมา เขาก็ต้องเหนื่อยหน่อย เพื่อที่จะมาจัดกระบวนทัพเพื่อลงเลือกตั้ง นั่นคือเป้าหมายที่ 2

เป้าหมายสุดท้าย ก็คือ ขอให้ยุบสภาและมีการเลือกตั้งทันที เป้าหมายสุดท้ายนั้น ยังไม่ใช่เป้าหมายที่มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เป้าหมายที่ 2 เป็นเป้าหมายที่สวยสดงดงามที่สุด แต่ถ้า 3 ไม่ได้ 2 ไม่ได้ เขาต้องใช้เป้าหมายที่ 1 พี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว เราต้องแบ่งคนออกเป็นดังต่อไปนี้ หนึ่ง กลุ่มของ นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กรรมการบริหาร 111 คน อยู่กลุ่มหนึ่ง กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ บวกกับทหาร และบวกกับกลุ่มของพรรคภูมิใจไทย และกลุ่มที่ 3 ก็คือ กลุ่มของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราต้องแบ่งกลุ่มนี้ให้ถูกต้อง

ทำไมกลุ่มของภูมิใจไทยถึงฉีกหนีออกมา เหตุผลที่ฉีกหนีออกมาก็เพราะว่า จำได้ไหมผมเคยพูดไว้ว่าอย่างไร ถ้าจำได้จะรู้ว่าพูดไม่ผิดอีกแล้ว ที่ฉีกหนีออกมาก็เพราะว่าเขาบอกว่า การที่กลุ่มแรกนั้นมุ่งมั่นที่จะจาบจ้วงทำลายล้างสถาบันกษัตริย์นั้น จะไม่มีวันชนะได้ เขาถึงถอยออกมา มารวมกับทางกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีทหารเป็นคนหนุนหลัง เพราะทหารบางคนเท่านั้นเอง มองว่า การแก้ปัญหานั้น ให้การเมืองมันเดินไปเหมือนเดิม ถึงจะมีการโกงกิน คอร์รัปชันกันพินาศฉิบหายอย่างไรก็ตามไม่สำคัญ ขออย่างเดียวอย่าได้แสดงอาการที่จะจ้องทำร้ายทำลายสถาบันกษัตริย์ นี่คือ เป้าที่เขาตั้งเอาไว้

พอมาถึงตรงนี้ ก็เรียกได้ว่า สีฟ้า ก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ บวกสีน้ำเงิน คือ พรรคภูมิใจไทย และบวกสีเขียว เพราะฉะนั้น ฟ้า น้ำเงิน เขียว รวมตัวกันเพื่อที่จะต่อสู้กับแดง แต่เมื่อต่อสู้กับแดง ก็คือ ฝ่ายเพื่อไทย และฝ่ายคนเสื้อแดง นปช. นปก.ซึ่งทั้งหมดนี้คนอยู่เบื้องหลัง คือ นช.ทักษิณ สิ่งซึ่งสีเขียวต้องการ สีเขียว คือ ผู้ใหญ่เฉพาะผู้ใหญ่บางคนต้องการให้สีเหลืองออกมาปะทะกับสีแดง เพื่อสีเขียวจะได้ออกมาทำตัวเป็นตาอยู่แล้วก็ปราบปรามทั้งคู่ เข้าใจหรือยังพี่น้องที่ผมเคยเตือนพี่น้องเอาไว้ เห็นหรือยัง เมื่อสีเหลืองไม่ออก สีเขียว สีฟ้า และสีน้ำเงิน ต้องเผชิญหน้ากับสีแดงโดยตรง การเผชิญหน้านั้นเผชิญมาตั้งแต่เดือนธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม สีแดงเห็นว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปแล้ว สถานภาพของ นช.แม้ว จะมีแต่เสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ ก็เลยคิดยุทธศาสตร์การรุกฆาต ถ้าเป็นกระดานหมากรุก หมากตานี้ในเดือนเมษายน คือ หมากรุกฆาต วิธีรุกนั้นเขารุกมาตั้งแต่ต้นแล้ว เขารุกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ปลายปีหลังจากการยึดอำนาจ 2549 ตั้งแต่เดือนตุลาคมมาจนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว มีกระบวนการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่หนีไปโดนหมายจับ ทั้งที่ถูกติดคุกไปแล้ว และทั้งที่หลบซ่อนอยู่ เบ็ดเสร็จแล้วแสดงออกในทางสาธารณะเป็นหลักฐานทั้งคำพูด ทั้งข้อเขียน เบ็ดเสร็จแล้ว 14 เรื่อง อ้างอิงได้ตลอดเวลาทุกเรื่องว่าใครพูดอะไร ที่ไหน พูดอย่างไร รวมไปจนถึงแถลงการณ์แดงสยาม ของนายใจ อึ๊งภากรณ์

เพราะฉะนั้นพี่น้องจะเห็นได้ว่า 14 เรื่องที่เขาทำมานั้น เขาไม่สามารถที่จะระดมคนขึ้นมาได้ คนมาเดือนละครั้งแล้วก็หายไป เดือนละครั้งแล้วก็หายไป ในที่สุดยุทธวิธีเขาก็เริ่มเปลี่ยน เขามองว่า การที่เขาปะทะกับสถาบันกษัตริย์โดยตรงนั้น เขาไม่มีวันชนะ เพราะฉะนั้นแล้วเป้าก็เลยถูกเปลี่ยนมาที่องคมนตรี และเมื่อเปลี่ยนมาที่องคมนตรี เขาก็เจาะจงองคมนตรีที่รายล้อมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เริ่มด้วยประธานองคมนตรี สุรยุทธ์ จุลานนท์ และท่าน ชาญชัย ตลอดจนฝ่ายตุลาการภิวัฒน์ ท่าน อักขราทร ประธานศาลปกครอง และท่าน จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วิธีการเขา คือ การแถลงข่าวของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เพื่อจุดพลุ จุดประกายขึ้นมา แล้วก็ออกมากดดันตลอดเวลา กดดันจนกระทั่งในที่สุดเขาใช้ยุทธวิธีแยกองคมนตรีออก วิธีแยกของเขา ก็คือว่า พี่น้องจะสังเกตว่า 2-3 ครั้งที่ผ่านมานี้ เขาจะพูดชัดเลยว่า เขายึดถือการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และยังพี่น้องเชื่อหรือไม่ ยังต้องการองคมนตรีอยู่ เพียงแต่ว่าเขาไม่ต้องการประธานองคมนตรีคนนี้ เห็นไหม นี่คือการแยกเป้าตี เพื่อสร้างความกดดัน ก็เลยเกิดเหตุทำให้ข้าราชบริพารบางคน ผู้ใหญ่บางคนในสำนักราชเลขาธิการ พูดออกมาว่า ถ้า พล.อ.เปรม เป็นปัญหา น่าที่จะให้ พล.อ.เปรม ลาออกไปแล้วตั้งคนใหม่ขึ้นมา เห็นหรือยัง เพราะเขามีเครือข่ายของเขาในสำนักราชเลขาธิการ มีมานานแล้ว และคนๆ นี้ก็รับใช้เขามานานแล้วด้วย พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่ายุทธวิธีนี้ คือ ยุทธวิธีการซึมลึก

เสื้อเหลืองออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะที่ท่านเป็นประธานองคมนตรี และการกล่าวหาของพวกเสื้อแดง ไม่เคยมีปรากฏเลยแม้แต่นิดเดียวว่า พล.อ.เปรม ท่านไปเกี่ยวข้องตรงไหน แต่จำเป็นที่จะต้องเล่นงาน พล.อ.เปรม ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง กระบวนการนี้เพิ่งจะเปลี่ยนทิศในการโจมตี เปลี่ยนเป้าในการยิง ในระยะเวลาแค่ 1-2 เดือนนี้เอง และในระยะเวลาแค่ 10 วันที่ผ่านมานี้ ปืนทุกกระบอก หันไปหา พล.อ.เปรม แต่ผู้เดียว นั่นคือ ยุทธวิธี ที่น่าสนใจ คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ท่านออกมาพูดว่า ทหารเป็นกลางในเรื่องนี้ หมายความว่า คุณจะด่า พล.อ.เปรม คุณจะด่าประธานองคมนตรี เชิญคุณทำตามสบาย เพราะทหารจะเป็นกลาง พี่น้องอ่านเกมออกหรือยัง ต้องอ่านให้ออกนะ

พรรคประชาธิปัตย์บางคน ไม่ใช่นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก และอาจจะจำเป็นต้องตัดสินใจในเร็วๆ นี้ เพราะถ้าไม่ตัดสินใจในเร็วๆ นี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องสูญพันธุ์อย่างแน่นอน

คนบางคนในพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า ยังอยากจะมีอำนาจต่อไป กลุ่มสีน้ำเงินของพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีแผลอยู่ เรื่องเกี่ยวกับการถูกห้ามเล่นการเมือง ก็เห็นด้วยกับกฎหมายปรองดองแห่งชาติ ก็จะเริ่มมากดดันพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นแล้ว คำพูดที่บอกว่า ต้องไปเจรจา แล้วก็บอกว่า คุณสุเทพ บอกว่า อย่างไรต้องไม่ให้ผิดกฎหมาย พูดอีกก็ถูกอีก เพราะว่าถ้า ส.ส.ยอมรับกฎหมายปรองดองแห่งชาติ มันก็ไม่ผิดกฎหมาย ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง เข้าใจหรือยัง

นี่คือ เกมที่วางกันเอาไว้ เพราะฉะนั้นพี่น้องอย่าไปหลงกล พี่น้องต้องเข้าใจ ว่าเรื่องราวมันถูกพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน แม้กระทั่งมีการปล่อยข่าวจนกระทั่ง คุณบุญยอด ต้องไปพูดออกทีวี ว่า ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชาย ได้บินไปสเปน เพื่อเจอผู้ใหญ่ทางการทูต ซึ่งเป็นอดีตทูต อายุ 79 ปี เป็นญาติเขา ชื่อ คุณอรชุน พูดในทำนองที่ว่าเพื่อที่จะให้เป็นคนที่ไกล่เกลี่ย สร้างบรรยากาศของการเจรจาและการไกล่เกลี่ยกันขึ้นมา กระทืบจริยธรรม เตะศีลธรรม และถุยน้ำลายใส่คุณธรรมของชาติบ้านเมือง โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น น่าเสียดายคุณบุญยอด มาก แต่ผมยังมองคุณบุญยอดในแง่ดีอยู่ว่า คุณบุญยอดนั้น รับงานมาโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะนั่นคือ การลับ ลวง พราง ของการที่บอกว่า นช.ทักษิณ เดินทางไปสเปน เช็กมาหมดแล้วไม่ได้ไป อยู่ที่พนมเปญครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน รวมทั้งคุณบุญยอด ก็ตกเป็นเครื่องมือของพรรคประชาธิปัตย์บางส่วนเช่นกัน

พี่น้องเริ่มเห็นหรือยังว่า การพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.เปรม นั้นต้องขจัด พล.อ.เปรม เสียก่อน ทำไม พล.อ.อนุพงษ์ ถึงไม่ออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ก็เพราะว่า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ชอบ พล.อ.เปรม และมีข่าวมาว่า การโยกย้ายแต่งตั้งเดือนเมษายนนี้ พล.อ.อนุพงษ์ อาจจะต้องถูกเลื่อนไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็เลยปล่อยให้กระบวนการเล่นงาน พล.อ.เปรม ให้น่วม เพื่อที่จะเป็นข้อต่อรองว่าตัวเองนั้นยังจะต้องนั่งอยู่ที่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก พี่น้องเข้าใจหรือยัง เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชดำเนิน ต้องเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ ข้างบนดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใต้ดินวิ่งจับมือเจรจากันตลอดเวลา มีการเจรจากันตลอดเวลาว่า ถ้าอย่างนี้ ถ้าจะยุติ ต้องการอะไร ทางโน้นก็เสนอมาอย่างนี้ แต่บนหน้าฉากทำแข็งขัน ทำรุนแรง ถึงกับมีคนตั้งทฤษฎีขึ้นมา ว่า การเล่นแรงครั้งนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดว่า เฮ้ยคุณต้องเล่นแรงนะ ผมจะได้มีเหตุหาเรื่องว่าควรต้องเจรจาเพื่อให้บ้านเมืองสงบ พี่น้องเข้าใจหรือยัง

ทหารบางคน ไม่ใช่ทหารทั้งหมด ทหารส่วนใหญ่ยังรักพระเจ้าอยู่หัว จงรักภักดี และต้องการจะออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะประธานองคมตนรี แต่ทว่ามีเฉพาะหัวบางคนเท่านั้นเอง ที่เป็นห่วงสถานภาพของตัวเอง เป็นห่วงสถานภาพของตัวเอง และก็ชอบเล่นการเมืองทุกประเภทเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด โดยเอาประเทศชาติและประชาชนแลก

พี่น้องครับ ถ้าจะเกิดการนองเลือดในที่สุด จะกลายเป็นประชาชนเสื้อแดงนั้นต้องตายเป็นร้อยเป็นพัน เพื่อแลกกับชัยชนะของคนบางคนที่วางแผนอยู่เบื้องหลัง หรือถ้าต้องตายเป็นร้อยเป็นพันแล้วไม่ชนะ เพื่อแลกกับคนบางคนจะได้ลี้ภัยทางการเมือง เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าใครตาย ขอให้กูรอดเท่านั้นเอง

พี่น้องเข้าใจแล้วใช่ไหม การเมือง ณ วันนี้ เพราะฉะนั้นพี่น้องจับตาดูให้ดีๆ กระแสจะเจรจา กระแสจะนั่งคุยกัน เริ่มมาแล้ว แล้วคอยดูสิ ก็จะมีการตอบโต้กลับมาอย่างรุนแรงว่าผมไม่เจรจา เพื่อทำให้ดูแข็งขัน พี่น้องเข้าใจหรือยัง เพื่อทำให้ดูแข็งขัน แล้วก็ระดมคนมามากขึ้นๆ แล้วในที่สุดเขาต้องการให้สังคมบีบ ว่า เฮ้ย เดี๋ยวมันจะนองเลือด เจรจากันเถอะ เข้าใจหรือยังพี่น้อง

พี่น้องครับ จะเจรจาหรือไม่เจรจา (ไม่เจรจา) ที่เราไม่เจรจาไม่ใช่เพราะว่าเราดื้อ แต่เราไม่เจรจากับคนที่ผิด ใครทำอะไรผิดต้องรับโทษ รับทัณฑ์ไป ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง จะมาเจรจาเพื่อยกโทษกัน ไม่มีผิด ย่อมเป็นไปไม่ได้พี่น้อง และนี่คือ จุดยืนและอุดมการณ์ที่เราสู้มาตลอดใช่ไหม และนี่คือเหตุผลว่าทำไมสีเขียวบางคนถึงเกลียดพวกเรา เพราะเขามองว่า ถ้าเขาปราบสีแดงเขาปราบง่าย แต่สีเหลืองเขาปราบไม่ได้ เพราะสีเหลืองมันดื้อ ที่มันดื้อไม่ใช่เพราะมันดื้อหัวชนฝา ที่มันดื้อเพราะว่ามันยึดถือเอาธรรมนำหน้า

พี่น้องจะเริ่มเห็นได้ชัด เป็นไปได้อย่างไร อาทิตย์ที่แล้ว ท่านรัฐมนตรี กษิต ท่านเพิ่งออกมาปะทะกับ นช.ทักษิณ ผ่านไปยังไม่ทันพ้น 2-3 วัน ลมที่ผายออกมายังไม่ทันหมดกลิ่น รองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่า พร้อมจะบินไปเจรจาทุกเมื่อ ผมว่าท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านกำลังมีปัญหาในเรื่องความน่าเชื่อถือในตัวของท่าน ในขณะนี้ ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องชาวใต้ทุกจังหวัดคิดตามผม แล้วลองคิดดู หวังว่า ท่านรองฯ สุเทพ คงกลับใจได้ เพราะว่าลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้ อาจจะใช้กับคนเสื้อแดงได้ แต่มาใช้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้หรอกครับพี่น้อง ผมฝากให้พี่น้องชาวใต้ทุกจังหวัด พิจารณาเรื่องนี้ให้ดีๆ ว่า เราสู้มาตั้งแต่ต้น เราสู้โดยการเอาธรรมนำหน้า เราสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และราชบัลลังก์ เราสู้จนกระทั่งพี่น้องเราตาย พิการ บาดเจ็บ แล้วจู่ๆ ตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องชาวใต้กลับมาบอกว่า พร้อมจะบินไปเจรจาทุกที่ พี่น้องชาวใต้คิดให้ดีๆ คิดให้ดีๆ ทำไมคำพูดนี้ถึงหลุดออกมา คิดให้ดีๆ พี่น้อง มันเป็นไปได้อย่างไร เหมือนกับตำรวจต้องมาเจรจากับโจร จะยกข้อหาที่โจรปล้นฆ่าไป บอกว่าเอาละกลับมาแล้วไม่ผิด

พี่น้องจำได้หรือเปล่า นช.ทักษิณ เป็นคนพูดเอง บอกเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมา มาเริ่มต้นกันใหม่ คนโน้นโดนฟ้อง คนนั้นโดนฟ้อง ให้เลิกรากันให้หมด แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่ นี่คือ ตัวตนที่แท้จริงพี่น้อง นี่ไม่ใช่การสู้เพื่อประชาธิปไตย เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วทั้งหมดก็ยังกลับมาสู่จุดเดิม ก็คือ ทุกอย่างที่กระทำมาในวันนี้ ทำเพียงเพื่อคนๆ เดียวเท่านั้นเอง

ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเวทีด้วยใครก็ตาม ไม่ว่าจะเอาใครก็ตามมาขึ้นเวที เป้าหมายก็คือ ทำให้ นช.ทักษิณ พ้นผิด เท่านั้นเอง และขั้นตอนต่อไป คือ การเรียกร้องทรัพย์คืน ถ้าสังคมไทยยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ถ้าสังคมไทยยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น อะไรในสังคมมันก็เปลี่ยนได้หมดครับ พ่อแม่พี่น้อง

พี่น้องทำไมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ร้อง ทำไมแกนนำไม่ร้อง ทำไมผมโดนพิพากษาจำคุก 3 คดี 9 ปี ศาลชั้นต้น ผมไม่ร้อง ผมร้องไม่ได้ เพราะผมต้องทำเป็นตัวอย่างให้ นช.ทักษิณ เห็น ว่า ถึงแม้ผมจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในบางกรณี ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากมายนัก แต่ผมก็ยอมรับคำตัดสิน ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง (ใช่)

เพราะฉะนั้นแล้ว การที่บอกว่าผมโดนฟ้อง เขาโดนฟ้อง พันธมิตรฯ แกนนำโดนฟ้อง ไม่เป็นไร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยอมติดคุกถ้ามันต้องติด

พี่น้องครับ การเมืองมาถึงวันนี้ ผมพูดวันนี้ให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวใต้ฟังโดยเฉพาะ พ่อแม่พี่น้องชาวใต้โปรดฟังให้ดีๆ หลักการ อุดมการณ์ของคนใต้ที่ร่วมกันสู้มาตลอด 193 วัน หวังว่า ท่านรองนายกรัฐมนตรี คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เอาส้นตีนมาขยี้หัวใจพวกเรา ถ้าเขายังเดินต่อไป โดยไม่ใส่ใจพี่น้องจะเห็นได้ชัดว่า นี่คือ การเมืองเก่าอย่างชัดเจน คือการสานผลประโยชน์ให้มีอำนาจต่อไป เพื่อทำมาหากินในเรื่องราวต่างๆ

พี่น้องครับ นี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากจะพูดให้พี่น้องฟังวันนี้ พี่น้องดูให้ดีๆ การโจมตีสถาบันกษัตริย์ถูกพลิกผัน เพราะรู้ว่าไม่ได้ผล และกำลังจะทำให้ทหารผู้ใหญ่บางคนเดือดร้อน ถ้าคุณเล่นสถาบันกษัตริย์มาก ผมลำบากนะ ผมอาจจะต้องเล่นงาน อย่าให้ผมต้องออกมาข้างนอก เพราะชีวิตผมสวนสนามรักษาพระองค์อย่างเดียวเท่านั้นเอง แต่ถ้าผมต้องโดนอย่างนี้เรื่อยๆ ผมอาจจะถูกบังคับให้ออก เพราะฉะนั้นคุณเปลี่ยนเป้าได้ไหม คุณก็เลยเปลี่ยนเป้าไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เห็นหรือยัง ทั้งๆ ที่ พล.อ.เปรม ท่านเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านไม่เคยโดนคดีอะไรในชีวิต ท่านมีความซื่อสัตย์สุจริต ลำพังแค่เป็นอดีตนายกฯ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ก็สมควรที่ผู้ใหญ่ในกองทัพบกต้องออกมาปกป้องแล้ว นี่นับประสาอะไร ยังเป็นถึงประธานองคมนตรี ซึ่งโดยสามัญสำนึกย่อมรู้ว่าเป็นประธานที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเป็นประธานที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณจะแยก พล.อ.เปรม ออกมาโจมตีอย่างไรก็ตาม มันก็เท่ากับคุณโจมตีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั่นเอง เพราะฉะนั้นความคิดของการแยกตีนั้นฟังไม่ขึ้นครับพ่อแม่พี่น้อง

เหตุผลที่ต้องแยกตีผมเรียนให้ทราบแล้ว เพราะว่า พล.อ.เปรม มีเรื่องมีราวกับคนบางคน ตั้งแต่สมัยที่ นช.ทักษิณ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ มีเรื่องมีราวในการแต่งตั้งทหาร ที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร พูดออกมาว่า ถ้านายกฯ เซ็นแล้วใครจะกล้าเปลี่ยน เข้าใจหรือยังพี่น้อง ทั้งหมดมันเป็นกระบวนการ โผทหารไป ผู้บัญชาการเหล่าทัพเสนอไปที่รัฐมนตรี กลาโหม รัฐมนตรีกลาโหม สรุปโผทหาร โผทหารรัฐมนตรีกลาโหม ส่งไปให้นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีส่งเข้าสำนักราชเลขาฯ สำนักราชเลขาฯ ต้องส่งต่อไปยังคณะองคมนตรี องคมนตรีในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งตั้งองคมนตรี และประธานองคมนตรี ก็เพื่อให้กรองงานให้พระองค์ท่าน แต่การตัดสินใจสุดท้ายก็ยังคงต้องอยู่ที่พระองค์ท่าน ใช่ ไมใช่ เพราะฉะนั้นแล้ว จะบอกว่า พล.อ.เปรม และ องคมนตรี ไปก้าวก่ายงานหรือไปเพ็ดทูลนั้น ย่อมไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่

องคมนตรีเพียงแต่ทำงานให้รอบคอบ เห็นข้อบกพร่องตรงไหน ถ้ารู้มาว่าทหารคนนี้มีเมียน้อย 4 คน แล้วไม่ยอมรับผิดชอบ เมียน้อยไปนั่งตบตีกันที่กองบัญชาการกองทัพบก องคมนตรีก็มีหน้าที่ออกความเห็นว่า คนๆ นี้ที่กำลังจะขึ้นมาสู่ตำแหน่งใหญ่ มีพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสม ถูก ไม่ถูก นั่นคือ หน้าที่ขององคมนตรี

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ส่งทั้งหมดไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านจะทรงมีพระราชวินิจฉัยเอง ตลอดจนอาจจะออกความเห็นว่า ทหารคนนี้ขึ้นมาอย่างนี้ กระโดดข้ามหัวคนมา 7-8 คน ไม่เหมาะสม อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่กองทัพ แต่ว่าไม่ได้ไปเปลี่ยน เข้าใจหรือยังพี่น้อง เพียงแต่ให้คำแนะนำไปเฉยๆ เท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นการกระทำของประธานองคมนตรีก็เลยไม่เป็นที่พอใจของนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นช.ทักษิณ ชินวัตร นี่ไงพี่น้อง คือ การเปลี่ยนเป้า เปลี่ยนเป้าไปเสีย แล้วจู่ๆ ก็มาบอกว่า ทุกคนทั้งบนเวทีก็บอกว่า เชิดชูการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เดิมทีไม่เอาองคมนตรี วันนี้เปลี่ยนเสียงว่าเอาแล้ว แต่ว่าไม่เอา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ค่อยๆ จัดการกับประธานก่อน แล้วค่อยๆ ไปทีละคนๆ พี่น้อง นี่คือ หลุมพรางกับดักที่เขาวางเอาไว้ ซึ่งเป็นหลุมพรางตื้นๆ พวกเราจึงมีหน้าที่ปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพราะว่าท่านเป็นตัวแทนของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครับ

“ท่าฉลอมกับมหาชัยไปคิดทำไมว่าไกล เชื่อมความรักไว้ดีกว่า บอกเพียงสักคำว่าไม่รักจะหักใจลา ซ่อนตัวตามประสา จะหนีซ่อนหน้าห่างไกล” สวัสดีครับ