ทีมโฆษกรัฐบาล “สัญจร” เดินสายรับฟังปัญหาชาวเมืองพัทยา พบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อปัญหาสังคม รับปากจะเสนอต่อรัฐบาลเพื่อหาทางเยียวยากันต่อไป พร้อมเรียกร้องให้ช่วยกันเป็นเจ้เาภาพต้อนรับผู้นำสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 บวก 6 กลางเดือนนี้
วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่ารายงานว่า ในวันที่สองของการเดินทางตามโครงการ “โฆษกสัญจร” ของทีมคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี ประกอบด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร นายศุภรักษ์ ควรหา และนายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะสื่อมวลชน เดินทางมายังตลาดน้ำสี่ภาค เมืองพัทยา พบปะประชาชน ณ ลานอเนกประสงค์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนในพื้นที่ประสบความเดือดร้อน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และตัวแทนนายกเมืองพัทยาเป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่สะท้อนความเดือดร้อนและเสนอแนะแนวทาวการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ มีประชาชนซึ่งเป็นตัวแทนจากหลายหมู่บ้านเข้าร่วมประมาณกว่า 300 คน
ด้าน นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สะท้อนปัญหาในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยอยากให้รัฐบาลดูแลปัญหาคนตกงาน ยาเสพติด ขยะมูลฝอย โจรผู้ร้าย และปัญหาสำคัญที่ทางจังหวัดยกเป็นวาระแห่งชาติคือปัญหาน้ำ ซึ่งเวลานี้ทางจังหวัดตั้งงบกว่า 3 พันล้านในการแก้ไขปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานโฆษกฯได้รับปากจะนำเรื่องนี้ไปสะท้อนให้กับรัฐบาลเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งรัฐบาลนี้เห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ได้ ในภาวะที่ไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุดรัฐบาลได้แจกเช็คช่วยชาติให้กับประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลออกเช็คช่วยชาติให้กับประชาชน ส่วนเรื่องเบี้ยยังชีพและโครงการต้นกล้าอาชีพรัฐบาลเดินไปเรียบร้อย
นอกจากนี้ ทีมงานโฆษกรัฐบาล ยังได้ขอความร่วมมือพี่น้องชาวเมืองพัทธยา จังหวัดชลบุรี ร่วมกันต้อนรับผู้นำในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 บวก 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย.นี้ ที่เมืองพัทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังและสะท้อนความคิดเห็น ส่วนใหญ่สนใจนโยบายรัฐบาลในโครงการเช็คกู้ชาติ ซึ่งสงสัยว่าประชาชนที่ไม่มีบัตรประกันสังคม ไม่มีเงินเดือน รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร และขอให้ยืดเวลาการลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพของคนชรา พร้อมทั้งถามความชัดเจนรัฐบาลเรื่องโครงการเอื้ออาทรจะดำเนินการต่อหรือไม่ รวมถึงเงินตอบแทน อสม.
วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่ารายงานว่า ในวันที่สองของการเดินทางตามโครงการ “โฆษกสัญจร” ของทีมคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี ประกอบด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร นายศุภรักษ์ ควรหา และนายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะสื่อมวลชน เดินทางมายังตลาดน้ำสี่ภาค เมืองพัทยา พบปะประชาชน ณ ลานอเนกประสงค์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนในพื้นที่ประสบความเดือดร้อน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และตัวแทนนายกเมืองพัทยาเป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่สะท้อนความเดือดร้อนและเสนอแนะแนวทาวการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ มีประชาชนซึ่งเป็นตัวแทนจากหลายหมู่บ้านเข้าร่วมประมาณกว่า 300 คน
ด้าน นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สะท้อนปัญหาในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยอยากให้รัฐบาลดูแลปัญหาคนตกงาน ยาเสพติด ขยะมูลฝอย โจรผู้ร้าย และปัญหาสำคัญที่ทางจังหวัดยกเป็นวาระแห่งชาติคือปัญหาน้ำ ซึ่งเวลานี้ทางจังหวัดตั้งงบกว่า 3 พันล้านในการแก้ไขปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานโฆษกฯได้รับปากจะนำเรื่องนี้ไปสะท้อนให้กับรัฐบาลเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งรัฐบาลนี้เห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ได้ ในภาวะที่ไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุดรัฐบาลได้แจกเช็คช่วยชาติให้กับประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลออกเช็คช่วยชาติให้กับประชาชน ส่วนเรื่องเบี้ยยังชีพและโครงการต้นกล้าอาชีพรัฐบาลเดินไปเรียบร้อย
นอกจากนี้ ทีมงานโฆษกรัฐบาล ยังได้ขอความร่วมมือพี่น้องชาวเมืองพัทธยา จังหวัดชลบุรี ร่วมกันต้อนรับผู้นำในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 บวก 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย.นี้ ที่เมืองพัทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังและสะท้อนความคิดเห็น ส่วนใหญ่สนใจนโยบายรัฐบาลในโครงการเช็คกู้ชาติ ซึ่งสงสัยว่าประชาชนที่ไม่มีบัตรประกันสังคม ไม่มีเงินเดือน รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร และขอให้ยืดเวลาการลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพของคนชรา พร้อมทั้งถามความชัดเจนรัฐบาลเรื่องโครงการเอื้ออาทรจะดำเนินการต่อหรือไม่ รวมถึงเงินตอบแทน อสม.
