xs
xsm
sm
md
lg

หยั่งสถานการณ์ศึก 2 หน้า รัฐบาลเริ่มขยับเปิดเกมรุก ทักษิณนั่งรอต่อสายเจรจา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
การตัดสินใจ “งดประชุม”คณะรัฐมนตรีของ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องรับหน้าที่”นายกฯรักษาการ”ในเวลานี้ แม้จะถูกคนเสื้อแดงประกาศเป็นวันชัยชนะของคนเสื้อแดง

แต่แท้ที่จริงแล้ว ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของรัฐบาล ที่หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าของคนไทยด้วยกัน มันจึงไม่ใช่เรื่องการเสียหน้าของรัฐบาลแต่อย่างใด

เพียงแต่เวลานี้สิ่งที่รัฐบาล-เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องดำเนินการ ก็คือ ปรับจากกระบวนการตั้งรับมาเป็นฝ่ายรุกได้แล้ว

หลังจากที่ผ่านมา ต้องยอมรับกันว่ารัฐบาล-กองทัพ-ตำรวจ ประเมินศักยภาพ “คนเสื้อแดง” ต่ำกว่าเป้า


ทำให้ ตอนนี้การชุมนุมของเสื้อแดงกำลังสร้างความหนักใจให้กับรัฐบาลไม่ใช่น้อย เพราะมันย่างเข้าสู่วันที่ 7 ของการชุมนุม อันเป็นที่รู้กันว่าหากม็อบไหนยืนระยะได้ 7 วัน นั่นหมายถึง

“ม็อบจุดติด”

เพราะม็อบเสื้อแดงเป็น “ม็อบซ่อนรูป”ปากเรียกร้องระบอบประชาธิปไตย แต่รูปแบบ และเนื้อหาการเคลื่อนไหวเห็นได้ชัดว่า มุ่งหมายปลุกระดมเพื่อการล้มล้าง

“สถาบันองคมนตรี”

อย่างเห็นได้ชัด โดยที่หากรัฐบาลไม่กระทำการใดๆเพื่อหยุดการจาบจ้วง ก้าวร้าว ให้ข้อมูลเท็จเช่นนี้ บ้านเมืองคงหาความสงบสุขอีกต่อไปมิได้ เพราะหลายคนเชื่อว่า ทั้งทักษิณและแกนนำคนเสื้อแดง มุ่งหมายทำลายสิ่งที่สูงกว่านั้น!

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเริ่มออกอาวุธเพื่อ “ตัดกำลัง-ลดทอนศักยภาพ”ของคนเสื้อแดงแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยพุ่งเป้าไปที่ “หัวโจก”คือทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนนำและบงการการชุมนุมเอง ทั้งมาตรการภายในประเทศและต่างประเทศ

ในส่วนของกระบวนการต่างประเทศ ได้ “กษิต ภิรมย์” รมว.ต่างประเทศเป็นหัวหอกใหญ่เคลื่อนไหวจัดการแบบรบกับทักษิณซึ่งๆหน้า

ด้วยการใช้วิธีการทูต ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ กับหลายประเทศที่กระทรวงการต่างประเทศรู้มาว่า ทักษิณถือพาสปอร์ตไทยเข้าไปเดินเพ่นพล่าน โดยขอให้แจ้งเบาะแสการเคลื่อนไหวของทักษิณ และขอความร่วมมือให้ช่วยตะครุบตัวส่งกลับไทย

นอกจากนี้ ยังพบว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็เริ่มขยับบ้างเช่นกันแม้จะช้ากว่าทักษิณหลายก้าว เพราะรู้ดีว่าหากปล่อยไว้เรื่อยๆ ย่อมเป็นการเลี้ยงมวลชนคนเสื้อแดงให้เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนต้องการจะเดินทางมายังหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อฟังเสียงและลีลาของทักษิณสดๆ

จึงเตรียมขอความร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนานคมแห่งชาติ หรือ กทช.ในการจัดการกับวิทยุชุมชนโดยเฉพาะจัดระเบียบการเผยแพร่สัญญาณวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล เช่นคลื่น 92.75, 94.75, 107.5 อันมี ชินวัฒน์ หาญบุญพาด แกนนำกลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงเป็นโต้โผ โดยอ้างเรื่องความมั่นคงเป็นหลักในการจัดระเบียบ

ขณะเดียวกันก็ประสานอย่างไม่เป็นทางการให้ “คนใกล้ชิด”ผู้ถูกพาดพิงออกมาปกป้องและเคลื่อนไหวเพื่อชนกับเสื้อแดงแบบเต็มตัว เพราะรู้ดีว่า คนที่ถูกพาดพิงไม่สามารถออกมาชนได้ โดยเฉพาะ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

อันเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของ “กลุ่มลูกป๋า” ที่นำโดยสมาคมชาวสงขลา “กลุ่มคนรักป๋า” อันมีแกนนำคือ วิรัตน์ ทองใบเพชร นายกสมาคมชาวสงขลาเป็นโต้โผในการปกป้องป๋าเปรมฯ

หากถอดสายสัมพันธ์ของแกนนำเคลื่อนไหวปกป้องป๋าเปรม ฯก็จะพบว่ามีสายสัมพันธ์ทางอ้อมกับพลเอกเปรม อาทิ”วิรัตน์ ทองใบเพชร”ก่อนหน้านี้เป็นหน้าห้องของ บัญญัติ จันทร์เสนะ สมัยดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทยในรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และเป็นที่รู้กันว่าบัญญัติ คืออดีตผู้ว่าฯสงขลา สายตรงพลเอกเปรม

นอกจากนี้ก็พบว่า “กลุ่มลูกป๋า”ก็ไม่อยู่นิ่งเริ่มขยับกันแล้ว ทั้งลูกป๋าฯระดับชาวบ้านคือที่สงขลาและนครราชสีมา และลูกป๋าฯที่เป็น “ทหาร-นักธุรกิจ-บุคคลระดับสูง” ชั้นแนวหน้าที่เป็นระดับชนชั้นนำที่ให้ความเคารพป๋าเปรมฯ ที่จะออกมาเคลื่อนไหวปกป้องป๋าฯทั้งแบบบนดิน-ใต้ดิน เพื่อหวังล้มเวทีเสื้อแดงให้พับกลับบ้านโดยเร็วที่สุด หลังมีข่าวว่าลูกป๋าฯ ซีกชนชั้นนำหารือกันผ่านโทรศัพท์หลายครั้งและประเมินแล้วว่าหากไม่ทำอะไรสักอย่าง

“ป๋าช้ำที่สุดในชีวิต”แน่นอน

ขณะที่สุเทพ ผู้จัดการรัฐบาล จับอาการได้ว่ากำลังหาทางออกอยู่หลังจากอภิสิทธิ์ให้ไฟเขียวก่อนบินไปอังกฤษว่า หากต้องใช้มาตรการเด็ดขาดจัดการกับทักษิณ-เสื้อแดงที่ชุมนุมเกินขอบเขต ก็ต้องจัดการ


เพียงแต่ระยะนี้ รัฐบาลยังไม่ทำอะไรส่วนหนึ่ง เพราะกำลังประเมินกำลังของคนเสื้อแดงว่า หลังวันสงกรานต์หากไม่เกิดเหตุรุนแรง การชุมนุมน่าจะลดทอนพลังลงไป และผสมกับการพยายามสั่งให้ทุกจังหวัดสกัดไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหวังตัดกำลัง ที่สำคัญรัฐบาล-ตำรวจ-ทหารก็มีภาพหลอน 7 ตุลาทมิฬ กำกับอยู่ทุกการตัดสินใจ จึงทำให้รัฐบาลยังต้องเงื้อง่ารอไปเช่นนี้เรื่อยๆ ก่อน

ด้านกลุ่ม”เสื้อแดง”จะพบได้ชัดว่านับวันจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเร่งปิดเกม ให้จบโดยเร็ว เพราะรู้ดีว่าธรรมชาติของม็อบ หากยืดเยื้อย่อมไม่เป็นผลดีต่อการชุมนุมที่มวลชนจะอ่อนล้า

ตอนนี้แกนนำเสื้อแดง กำลังหารือย่างหนักว่า ทุกวันของการชุมนุมต้องมีสิ่งที่สามารถเรียกแขกได้

คือ ต้องมีลูกเล่นใหม่ๆมาสร้างแรงดึงดูดให้คนร่วมชุมนุมโดยไม่ใช่หวังพึ่งแค่วีดีโอลิงค์ของทักษิณ เพราะคนเสื้อแดงก็รู้ดีว่า หากทักษิณพูดทุกวันแต่ ไม่มีอะไรใหม่ สื่อก็จะลดพื้นที่การเสนอข่าวของทักษิณและเสื้อแดง อันจะทำให้การชุมนุมลดทอนความน่าสนใจลงไป จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมลดน้อยลง

ทว่าแผนการทั้งหมดในสัปดาห์แรกของคนเสื้อแดงยังเป็นบันไดขั้นที่ 1 ของแผนตากสินคือ

สร้างมวลชน-ทำลายอำนาจรัฐ-ดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม

เท่านั้น ซึ่งหากเสื้อแดงยืนระยะเช่นนี้ไปได้เรื่อยๆ บันไดขั้นที่ 2- 3- 4 ต้องเกิดขึ้นแน่นอน นั่นก็คือการไปถึง “จุดแตกหัก”ที่แกนนำประกาศไว้คือ

“ล้มอำมาตยาธิปไตย”

ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ดำเนินการแม้การปลุกเร้าจะกระทำทุกค่ำคืน ก็เพราะแกนนำหลายคนก็คิดหนักไม่ใช่น้อย หากคิดทำจริง โดยยังไม่ชัดเจนว่าจะล้มแบบไหน เพราะ นั่นหมายถึงเสี่ยงต่อการถูกจับกุม และตั้งข้อหาหนักซึ่งแกนนำเสื้อแดงย่อมรู้ดีว่าการสู้รบกับบ้านสี่เสาฯ ของแกนนำ นปช. และระหว่างป๋าเปรมกับทักษิณนั่นต่างกัน

เพราะทักษิณไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว มีแต่ต้องเดินหน้าลูกเดียว แต่หากแกนนำคิดก่อการจริง นั่นหมายถึงอาจถึงขั้น

“ไม่มีแผ่นดินอยู่”เช่นเดียวกับทักษิณ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การเคลื่อนไหวของ “เพื่อไทย-นปช.-คนเสื้อแดง” เห็นชัดว่าเข้าสู่แผนขั้นที่ 2 แล้วก็คือ ขยายแนวร่วมจากเมืองสู่ชนบท ด้วยการจับมือกันสามฝ่ายดังกล่าว โดยให้ส.ส.และคนเพื่อไทย ขนคนมาชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางและหน้าที่ว่าการอำเภอทุกจังหวัดทั่วประเทศ

ที่ทำแล้วหลายจังหวัดเมื่อ 30 มีนาคมที่ผ่านมา หลังแกนนำเสื้อแดงกรุงเทพฯจัดการสั่งให้แกนนำเสื้อแดงต่างจังหวัด ขนคนออกมาชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดทันที เพื่อกดดันทางการ หากมีการสลายการชุมนุมที่กรุงเทพฯก็จะให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศลุกฮือทำ”อารยะขัดขืน”เช่นปิดล้อมสถานที่ราชการ แต่เมื่อไม่มีเหตุรุนแรงเวลานี้ก็พบว่าหลายแห่งสลายตัวไปแล้ว

แต่ก็ยังมีการนัดรวมตัวกันตลอดทุกวันในระยะนี้ ด้วยรูปแบบที่ส.ส.และคนเพื่อไทยจะขนประชาชนมาที่หน้าศาลากลางจังหวัด หรือหน้าสำนักงานเลือกตั้ง เพื่อมารวมตัวกันรอฟังวีดีโอลิงค์จากทักษิณ และการปราศรัยของแกนนำคนเสื้อแดงทุกคืนผ่านจอทีวีขนาดใหญ่ที่จะเปิดช่องดีทีวีในระหว่างการชุมนุม

จนเกิดความรู้สึกปลุกเร้าให้คนเสื้อแดงและประชาชนในพื้นที่สงสารทักษิณ ก่อนจะยกทัพใหญ่เข้ากรุงเทพฯ อันพบว่าตอนนี้หลายแห่งเริ่มทยอยขนคนเข้ามาสมทบกันมากขึ้นแล้วทั้งเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย อยุธยาฯ นครปฐม โดยทำแบบกองกำลังหนุนคือเข้ามาสลับปรับเปลี่ยนคนเสื้อแดงคือปักหลักสัก 1-2 วัน แล้วก็ให้คนเสื้อแดงจากจังหวัดอื่นๆ หมุนเข้ามาสลับปักหลักต่อไป

เพื่อไม่ให้กำลังคนเสื้อแดงลดน้อยถอยลง ขณะที่เมื่อคนเสื้อแดงกลับไปยังจังหวัดแล้ว ก็ยังให้จับกลุ่มกันไว้ต่อเนื่องเพื่อเลี้ยงมวลชนให้อยู่ตัว และรอการเป่านกหวีดใหญ่แตกหักว่าจะเอาอย่างไรกัน และเป็นวันไหน สถานที่ไหน

ขณะที่ในวันที่ 1 เมษายน ก็พบว่าจะมีอดีตส.ส.-รัฐมนตรี ไทยรักไทย พลังประชาชนที่ติดโทษแบนคดียุบพรรค จะออกมาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยกับเสื้อแดงหลายคน หลังจากถูกทักษิณบี้หนักว่าให้เลิกเหนียมได้แล้ว และเมื่อคนเหล่านี้ขึ้นเวที นั่นหมายความว่า ต้องมีการส่งกำลังบำรุงทั้งเงินและส่งคนมาร่วมชุมนุมด้วยแน่นอน อันจะทำให้คนเสื้อแดงย่อมได้ใจหนักมากขึ้น

แต่ทั้งนี้หากดูจากวิธีการรบของทักษิณ ก็จะพบว่า เป็นเรื่องน่าแปลกที่ทักษิณแม้จะประกาศกร้าว ชนกับป๋าเปรม-สุรยุทธ์-อนุพงษ์ เผ่าจินดา-รัฐบาล เต็มกำลัง แต่ไฉนทักษิณจึงยังไม่สั่งลุย ทั้งที่การปลุกเร้าถึงจุดพีคแล้ว

หรือแท้ที่จริงแล้ว ทักษิณยังไม่ต้องการ “แตกหัก”อย่างที่ออกลีลา เพราะอาจประเมินว่าโอกาสชนะแทบไม่มี นอกจากเขย่ากับป๋าเปรม-สุรยุทธ์-อนุพงษ์ เผ่าจินดา-รัฐบาลไปวันๆ และทำได้แค่ล้อมทำเนียบฯ

ไม่เช่นนั้น ก็อาจเป็นได้ว่า ทักษิณกำลังรอ”สาย”จากใครบางคน เพื่อหวังเปิดการเจรจา!
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคุกและกำลังหาทางคืนสู่อำนาจด้วยการปลุกม็อบเสื้อแดงเป็นเครื่องมือ
กำลังโหลดความคิดเห็น