“แม้ว” ลามปาม “ป๋าเปรม” ไม่ยอมหยุด อ้างแก่แล้วยังเที่ยวเดินสายด่าตน ยังตาขาวไม่กล้ารับคำท้า “กษิต” โต้กันออกทีวี เฉไฉขุดเรื่องเก่าตอนเป็นทูตอเมริกามาโจมตี อ้างได้เหมืองทองที่แอฟริกา มีทองหลายแสนล้าน ทำลิ่วล้อตาลุกวาว บอกถ้าอยากให้กลับมาแก้ปัญหาประเทศก็ให้ไปตาม พร้อมปลุกคนทำมาหากินมาร่วมม็อบ ถ้าสำเร็จกลับมาจะเนรมิตให้ทุกอย่าง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น.วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีและโทษจำคุกอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวศรัยปลุกระดมคนเสื้อแดงผ่านระบบวิดีโอลิงก์ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง โดยยังคงกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่อง
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนยอมให้ข้ามได้ เพราะโดนข้ามไปเยอะแล้ว และคนที่ข้ามไปคือคนที่มีความสัมพันธ์ดี ปรารถนาดีมาก่อน อย่างไรก็ตามตนส่งคนไปคุยกับกลุ่มพี่น้องที่หน้าทำเนียบ ซึ่งบางคนก็บอกว่ามาเพราะต้องการเห็นอนาคตที่ดีของลูกหลาน บางคนมาเพราะเห็นว่าบ้านเมือง มีสองมาตรฐาน บางคนมาเพราะสามารถถอนตัวจากยาเสพติดได้ตอนที่ตนเป็นนายกฯ นอกจากนี้ที่วันนี้ฝนตกอากาศเย็นลงมาหน่อยพี่น้องที่อยู่ทั้งวันอาจจะแฉะก็ระวังสุขภาพด้วย เพราะวันนี้เราอยู่กันด้วยใจจริงๆ
พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างอีกว่า คนที่คนมาชุมนุมที่นี่เพราะบ้านเมืองไม่ปกติ ซึ่งมีคนมาบอกตนว่าละครหลังข่าวช่อง 7 และ 3 เรทติ้งตกไปเยอะหลังจากมีการชุมนุม แต่โลกนี้คือละครแต่ว่าละครที่เราถูกเขาเล่นมันเป็นละครทำให้ชีวิตเราเลวร้ายลง เราจึงมาบอกเขาว่าเลิกเล่นละครแบบนี้เถอะ เพราะวันนี้เราอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทย
อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหนีคุกกล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนออกมาพูดแล้ว หลายคนก็ปฏิเสธกันใหญ่ พล.อ.เปรมก็บอกว่าไม่มีอะไรตน แต่จะมีหรือไม่ไม่รู้ รู้แต่ว่า พล.อ.เปรมอายุก็มากแล้วแต่ก็ยังแต่งเครื่องแบบไปตามเหล่าทัพต่างๆ เพื่อไปด่าตน(สมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็บอกว่าไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติ ทั้งที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็บอกแล้วว่า กล้าทำก็กล้ารับ เพียงแต่เป็นนายกฯ แล้วทำไม่เป็น ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่ตนเห็นด้วยกับนายสนธิ หรือไม่ก็ไปถามนายสุริยะใส กตะศิลาดูว่าใครอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ที่ พล.อ.เปรมบอกว่าประเทศไทยโชคดีที่ได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ นั้น โชคดีหรือไม่ดีตนไม่รู้ แต่นายอภิสิทธิ์โชคร้ายที่ได้นายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายครั้งใหญ่คือปิดสนามบิน ซึ่งต่างประเทศรังเกียจ
“แล้ววันนี้ที่พูดออกมาก็คงเห็นแล้วว่า มันบ้า รัฐมนตรีต่างประเทศสติไม่ดี แล้วมาบอกผมว่าไปเจอกันเวทีไหนก็ได้ โถ พี่น้องครับ เวลาเรามีลูกน้องคนหนึ่งเนี่ย ถ้ามันไม่รักดีและมันไม่อยู่กับเราแล้วนี่ โบราณเขาใช้คำว่ายังไงนะครับ ตัดหางปล่อยวัด” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอย่างมีอารมณ์
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้บอกว่าจะรับคำท้าของนายกษิตในการออกทีวีตอบโต้กันหรือไม่ หลังจากที่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 มี.ค.นายกษิตได้ออกมาแถลงตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณที่กล่าวผ่านวิดีโอลิงก์เมื่อวันก่อนกล่าวหาว่านายกษิตเคยรับเงินจากเขาและไม่พอใจเรื่องการเลื่อนตำแหน่งจึงออกมาต่อต้านและท้าให้นายกษิตตามไปเอาพาสปอร์ตคืน ซึ่งนายกษิตได้ตอบโต้ว่าเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นเงินที่ให้ตามปกติ เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศไปที่สถานทูตไทยก็มักจะให้เงินไว้ใช้ ซึ่งตนก็เอาไปช่วยเหลือคนไทยทุกบาททุกสตางค์ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณท้าให้ไปเอาพาสปอร์ตนั้น นายกษิตได้บอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณแจ้งสถานที่ด้วย หรือไม่ก็ส่งไปรษณีย์มาคืนพร้อมบัตรประชาชนคนไทย ซึ่งในการกล่าวผ่านวิดีโอลิงก์ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ตอบในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงนายกษิตเพิ่มเติมเพียงว่า ให้ไปถามนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดู เพราะรู้ดีว่าตอนที่นายกษิตเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกา มีคนบริจาคเงินเข้ากองทุนสึนามิในสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงได้ขอหลักฐานว่าใครบริจาคเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าไม่มี เพราะเอาไปจัดการเอง โดยอ้างว่าเอาไปช่วยคนไทย นอกจากนี้ตอนเป็นทูตที่เยอรมนี ก็รีบกลับมาไทย โดยที่ยังไม่มีคำสั่ง เพราะอยากกลับมาทำงาน เป็นหน้าห้องตนที่ทำเนียบ ซึ่งตนก็ไม่ได้ใช้
พ.ต.ท.ทักษิณได้ตอบโต้ กรณีพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณมาปราศรัยกับคนเสื้อแดงที่ชุมนุมที่ กทม.และต่างจังหวัดเพราะมีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ 1.ทำลายสถาบัน 2.ทำเพื่อตัวเอง และ 3.จะเปลี่ยนการปกครอง
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ความวุ่นวายทั้งหมดเริ่มต้นที่ประชาธิปัตย์ที่ไม่ทำการเมืองตามกฎเกณฑ์ เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะโดยการให้ประชาชนลงคะแนนได้จึงใช้วิธีการเกาะท็อปบูต เกาะพันธมิตรฯ เกาะนายเนวินใช่หรือไม่ และคราวที่ ปชป.ชนะเลือกตั้งขาวสะอาดและทำให้นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ สมัยแรกนั้น เป็นเพราะนายชวนบอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและต่อต้านการปฏิวัติ ต่อต้านเผด็จการซึ่งเป็นจุดยืนที่ถูกต้อง ประชาชนถึงเลือกขึ้นมา แต่ตอนเป็นรอบ 2 เพราะมีงูเห่า ต่างจากรอบแรกที่ยึดอุดมการณ์ ดังนั้นต้องบอกนายอภิสิทธิ์ว่าต้องเลียนแบบที่นายชวนชนะเลือกตั้งสมัยแรก ไม่ใช่เลียนแบบด้วยการมีงูเห่า เพราะนายชวนไม่คิดเกาะท็อปบูตและเล่นการเมืองนอกสภาแบบนายอภิสิทธิ์
ส่วนข้อหาที่ว่าไม่จงรักภักดี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่เคยมีจิตใจแม้แต่น้อยนิดที่จะทำลายสถาบันหรือทำให้เสียหาย ช่วยคิดนิดหนึ่งเถอะว่าตลอด 6 ปีที่เป็นนายกฯ ตนทำงานรับใช้สถาบันอย่างไรบ้าง แต่วันนี้โดนด่ามากก็ขอพูดหน่อย ด่าอีกก็พูดอีกที่พูดทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจและเทิดทูนสถาบันเหมือนตน และอยากถามว่า ตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา มีครั้งไหนบ้างที่ประเทศมหาอำนาจถึง 3 ประเทศ มาเป็นพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีเดียวกัน เพราะตามปกติใน 1 ปีมีไม่เกิน 2 ประเทศ แต่ในปี 2549 รัสเซียก็มาเยือนเป็นทางการ สหรัฐอเมริกาก็มา รวมทั้งจีน ซึ่งตนเป็นคนกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตให้ผู้นำประเทศเหล่านั้นมาเป็นพระราชอาคันตุกะ เพื่อเป็นพระเกียรติ
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าอยากเปลี่ยนการปกครอง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขอบอกชัดๆ ว่า ตนอยากได้ประชาธิปไตยที่เต็มใบที่แท้จริง ไม่อยากได้ประชาธิปไตยแบบอำมาตยาธิปไตย แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยโดย ประชาชนเพื่อประชาชน ไม่ใช่ถูกแทรกแซงโดยอำมาตย์ เพื่ออำมาตย์ หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลชนชั้นทางเศรษฐกิจหรือนักการเมืองที่แสวงหาประโยชน์ในกรุงเทพฯ เราต้องการประชาธิปไตยที่ทุกคนเกิดมาบนแผ่นดินไทย มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ใช่สีหนึ่งทำอะไรก็ไม่ผิด แต่สีหนึ่งทำแล้วต้องเอาให้ตาย
ส่วนที่ว่า ทำเพื่อตัวเองนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้เสื้อแดงของเราไปไกลเกินกว่าทักษิณแล้ว ทักษิณเป็นตัวเล็กๆ แต่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นสิ่งที่เราหมายปอง ความยุติธรรมในสังคมคือสิ่งที่เราอยากได้รับ เรารับไม่ไหวกับสิ่งที่ทุเรศๆทุกวันนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า มีรัฐมนตรีคนหนึ่งจะโลโก้สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จู่ๆ จะสั่งเปลี่ยน ปรากฏว่าข้าราชการไม่ยอม ลุกขึ้นมาต่อต้าน เห็นไหมว่าคำว่าประชาธิปไตยเข้าไปแล้วทุกแหล่งยกเว้นประชาธิปัตย์ที่ยังไม่สำนึกว่ามันอยู่ในสายเลือดคนไทยไปแล้ว นอกจากนี้รัฐมนตรียังเรียก บก.ข่าวไปคุย บอกว่าห้ามทำข่าวเสื้อแดง เชื่อว่าวิญญาณประชาธิปไตยของสื่อยังอยู่แต่ถูกเจ้าของกดดัน บางคนสามีจะเกษียณโดยไม่ได้ตำแหน่ง ก็มาบีบลูกน้องให้ทำโน่นทำนี่
“วันนี้ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่จะทำให้ประเทศเคลื่อนไหวข้างหน้าได้ ปัญหาที่มีวันนี้ถ้าเป็นประชาธิปไตยรับฟังกันทุกคน ถ้าร้องเพลงของ ดาเอนโดรฟิน เพลงน้ำเต็มแก้ว ถ้าน้ำเต็มแก้ว มันก็ไม่ฟังกัน ถ้าน้ำไม่เต็มแก้วคือสิ่งที่ดีที่สุด ก็ให้ประชาชนฟังและตัดสินด้วยประชาชน ถ้าประชาธิปัตย์เข้าใจเหตุการณ์ตั้งแต่ 2 เม.ย.49 ก็ไม่วุ่นวายขนาดนี้ เพราะท่านบอยคอตการเลือกตั้ง จึงเป็นช่องให้ พล.สุรยุทธ์เข้ามา” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า สรุปว่าคนรอบวังร่วมกับทหารทำการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ทำให้สถาบันเสียหาย ซึ่งคนรอบวังเหล่านี้ไม่ควรจะทำเป็นภาระต่อไป เจ้านายสถิตย์อยู่ที่สูง เจ้านายไม่ต้องการยุ่งกับการเมืองเลย แต่ว่าคนที่ถวายรับใช้แยกไม่ออกระหว่างการทำหน้าที่หรืออารมณ์ความไม่พอใจ หรือความอยากส่วนตัว เลยทำให้สถาบันเสียหาย
นอกจากในข้อที่บอกว่าตนทำเพื่อเรื่องส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนเจ็บปวดมา 3 ปีถูกแกล้งทุกอย่าง ทำร้ายครอบครัวตนด้วย อายัดทรัพย์ครอบครัว พูดไปก็เหมือนตนคอร์รัปชันเงินตัวเอง แต่ความเจ็บปวดนี้ตนอดทนไม่พูด แต่ที่พูดไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เห็นว่าประเทศกำลังจะดิ่งเหว เพราะเศรษฐกิจมันแย่และแก้โดยรัฐบาลที่ไม่มีเครดิต เพราะปล้นอำนาจจากประชาชนมา วันนี้ถ้าแน่จริงคิดว่าประชาชนสนับสนุนก็ยุบสถาเลือกตั้งใหม่ไม่เห็นมีอะไรเลย ถ้าชนะคนก็ยอมรับทั้งโลก
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า คนเสื้อเหลืองเสื้อแดงคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น แน่นอนว่าเสื้อเหลืองส่วนใหญ่ยกเว้นทหารได้เข้าไปยึดสนามบินและเข้าใจข้อมูลผิดๆ ก็เลยไปรวมตัวกัน แต่ทั้งสองเสื้อสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือรักชาติรักประเทศไทย รักพระเจ้าอยู่หัว อยากเห็นเมืองไทยเจริญ แต่ไม่เข้าใจเรื่องราวที่แท้จริง วันนี้ตนจึงออกมาพูดทีละเรื่อง จนเข้าใจว่าเรื่องจริงของคนทำหน้าที่นายกมา 6 ปี เห็นเรื่องราวต่างๆ และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ดีไม่ดี
“ผมอยากเชิญชวนทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นอดีตเสื้อเหลืองหรือเพื่อนข้าราชการ เป็นผู้ที่อยู่ในทุกศาสนา ถ้าประเทศของเราแข็งแรงเรามีอนาคตที่ดีแน่นอน ประเทศจะแข็งแรงไม่ได้ถ้าไม่เป็นประชาธิปไตยที่แม้จริง เราหลอกคนทั้งโลกมานานแล้วทั้งที่ไม่ใช่”
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า วันที่ตนเป็นนายกฯ ตอนท้ายๆ ตอนที่อำมาตยาธิปไตยเริ่มแทรกแซงแล้ว ตนไม่มีอำนาจทำงานบางอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งที่ประชาชนเลือกมาถล่มทลาย แล้วอย่างนี้ประเทศจะอยู่อย่างไร ที่อเมริกา ขนาดจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ชนะอัลกอร์แค่ 2 พันคะแนน เขายอมให้ทำหน้าที่เต็มที่ แต่ของเราปรากฏว่าของเราได้มาก มีปัญหา แต่ได้น้อยไม่เป็นไร วันนี้ทุกฝ่ายต้องกลับมาหัวหน้าเข้าหากัน ยึดประชาธิปไตยเป็นตัวหลัก ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประมุข ยึดตรงนี้เป็นหลัก อำมาตย์อย่าทำตัวเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ อย่ามาแทรกแซงระบบ ถ้านายกฯ ปกครองข้าราชการไม่ได้ จะไปเมืองนอกทีก็ยอมให้ทหารของบประมาณที แล้วมันจะอยู่อย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้อยากจะบอกกับผู้นำทุกศาสนา ครู ช่วยสอนให้ประชาชนและเด็กๆด้วยว่าวัฒนธรรมที่ดียังอยู่ ยังไม่เปลี่ยน ให้รู้จักสำนึกบุญคุณกับผู้มีพระคุณ วันนี้เราเห็นคนเนรคุณแล้วได้ดี อย่าคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันเพี้ยนไปเพราะว่าการแทรกแซงระบบ ถ้าทุกอย่างเป็นตามกติกาวัฒนธรรมที่ดีก็ยังอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจว่า ไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว จีดีพีติดลบ 4 % หรือหายไป 4 แสนล้าน เพราะมีการยึดสนามบินและนักท่องเที่ยวหายไป การส่งออกลดลงซึ่งส่วนหนึ่งมาจากปิดสนามบิน แต่ปีนี้ไตรมาสที่หนึ่งติดลบแน่นอน เพราะส่งออกลบไปแล้ว โชคดีได้นำมันช่วย แต่นำเข้าลดลงอย่างรุนแรง และการส่งออกลดอย่างต่อเนื่อง และสภาอุตสาหกรรมออกมาบอกว่ากำลังการผลิตลดลง เท่ากับว่าวันนี้ย้อนไปเท่ากับปี 40 และยังจะไปต่อ คนชั้นกลาง คนรากหญ้าจะโดนหนักที่สุด
“ก็เลยอยากแนะนำรัฐบาลว่าระบบทุนนิยมแปลว่าคุณมีทุนถึงจะทำมาหากินได้ แต่วันนี้ประชาชนขาดทุนทุกระดับ ธนาคารไม่ปล่อยกู้ ขอให้รัฐบาลไปจัดการระบบเงินกู้ให้ประชาชน ให้ทุกระดับ ตั้งแต่ครัวเรือน สินค้าโอท็อป รถเข็นขายไก่ย่าง มันปิ้ง ข้าวโพดต้ม และเอสเอ็มอี ส่วนภาคธุรกิจขนาดใหญ่ธนาคารปล่อยกู้อยู่แล้ว ถ้าปล่อยกู้ตรงนี้ไม่ได้พี่น้องจะลำบากมากกว่านี้ คนจะตกงานมากกว่านี้ วันนี้พี่น้องตกงานเยอะแล้ว ถ้าไม่ปล่อยเงินกู้ลงในระบบ และที่เขาบอกว่าอัตราการตกงานของคนไทยถึงสิ้นปีนี้จะถึงสองล้านคน ตอนผมเป็นนายกอัตราการว่างงานเหลือแค่ 1.6 % ภาษาเศรษฐศาสตร์บอกว่าการว่างงานต่ำกว่า 2% เหมือนไม่มีคนตกงาน เพราะฉะนั้นเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตอนผมอยู่ถือว่าไม่มีอัตราการตกงาน นี่ยังไม่นับการจ้างงานคนต่างด้าวจากเพื่อนบ้านอีกสองล้านคน จึงขอให้รัฐบาลรีบสร้างงานให้มาก
“นอกจากนี้ขอให้พี่น้องที่ตกงานมารวมกันที่นี่แล้วเราบอกว่าให้เอาประชาธิปไตยคืนมา เมื่อได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว ได้ผู้นำที่มีกึ๋นแก้ได้แน่นอน” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
**อ้างได้เหมืองทองค่าหลายแสนล้าน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนกำลังทำมาหากินอยู่ ตอนนี้มีคนให้ไปขุดทองที่แอฟริกา ได้เหมืองทองมา มีทองอยู่หลายแสนล้านบาท ก็ถ้าปัญหาที่ประเทศไม่มีใครแก้ หรือแก้ไม่ได้ ก็ตามตนมาก็แล้วกัน ตนจะมาแก้ แต่ถ้ามีคนแก้แล้วไม่ต้องห่วงตน แต่ไม่ใช่ไม่ห่วงพี่น้อง ห่วงมาก เดี๋ยวจะหาว่าทำเพื่อตัวเองอีก แต่วันนี้ตนเดินทางมากเห็นประเทศต่างๆ เขาเนรมิตอะไรมาเยอะ ก็อยากเนรมติให้เมืองไทยบ้าง ตนคิดว่ามันง่าย อย่างเช่นเนรมิตรถไฟฟ้า 10 สาย เนรมิตรถไฟไปหัวเมืองใหญ่ เนรมิตน้ำเพื่อการเกษตร เนรมิตการศึกษาเพื่อนาคตลูกหลาน มันใช้เงินมาก แต่มันถ้าหาเงินเป็นมันไม่มากเลย เพราะเงินเอาอนาคตมาใช้ได้ ไม่ต้องเอาของปู่ย่าตายายมาใช้ ตนเป็นนายกฯ ยังสัมผัสโลกอินเตอร์ยังไม่มากเท่าตอนนี้ อาจเป็นเพราะทั้งภาวะจำเป็นและมีเวลา ได้คุยกับผู้นำประเทศ นักธุรกิจใหญ่ๆ ตอนนี้ที่ตะวันออกกลาง บริษัทใหญ่ๆ ทางตะวันตกไปใม่รอดก็มาที่นี่ ก็รู้ว่าการเจรจา สนุกมาก ถ้าผมมีเวลาจะทำให้มันไปเลย
**ปลุกคนทำมาหากินร่วมชุมนุม-ชนะแล้วจะกลับมาลุยให้
อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ตนเจ็บมาเยอะจากการเป็นนายก แต่ความสำนึกอยากตอบแทนบุญคุณกับพี่น้องมันยิ่งใหญ่กว่าเสียอีก ทำให้คิดว่าเหนื่อยก็เหนื่อย แต่ถ้าพี่น้องบอกว่ากลับมาทำงานตนก็ยอมเหนื่อยตอนยุ 60 ปี เพราะตนยังพอมีแฮงอยู่ (พูดเป็นภาษาอีสาน) และตนมั่นใจว่าประเทศทั้งหลายที่แซงเราไปแล้ว ถ้าเรามีประชาธิปไตยจริงๆ เราจะแซงคืนเรียบ
“บางคนไปขโมยของเขามา แล้วมานั่งกินอยู่ พอเจ้าของเขามาตาม ก็บอกมึงอย่ากวนกูจะกิน เพราะฉะนั้นไอ้คนที่ไปตามก็ต้องบอกว่า ก็มึงเอาของกูไป กูจะเอาคืน เพราะฉะนั้นพี่น้องไม่ต้องเหนียมแล้ว วันนี้ต้องออกมาพูด
เราต้องมาระดมพลังกัน แสดงพลังกันให้เต็มที่ ให้ชัดๆ ไม่ต้องเหนียม ไม่ต้องเกรงใจใครอีกแล้ว ขอรบกวนหน่อยคนทำมาหากิน นี่ ตอนนี้อะ ทำมาหากินอะไรก็ไม่ค่อยออกอยู่แล้วนะ มาช่วยกันชุมนุมกันดีกว่า แล้วมาเอาทีเดียว ผมกลับไป ผมจะลุยให้ทันทีเลย ที่ผมพูดนี่ผมจะไปเนรมิตให้ดู” พ.ต.ท.ทักษิณปลุกระดม
ส่วนกรณีที่มีการพ่นสีข้างกำแพงทำเนียบรัฐบาลจุดที่มีการชุมนุมกันด้วยข้อความที่หมิ่นเหม่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าเป็นการป้ายสีว่าคนเสื้อแดงไม่จงรักภักดี เว็บหมิ่นพระบรมราชานุภาพก็เหมือนกัน หาว่าพวกเราทำ มันเป็นแผนประทุษกรรม ซึ่งตนเรียนมา รู้เรื่องนี้ดี พวกเราไม่เคยคิดหมิ่น เราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราต้องการตัดพวกที่ชอบอ้างทั้งหลายออกไป เพราะเราต้องการให้ตกอยู่กับประชาชนอย่างแท้จริง
หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณปราศรัยเสร็จ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ได้พูดต่อ โดยตอนหนึ่งได้กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นเจ้าของเหมืองทองที่แอฟริกามูลค่าหลายแสนล้านบาทว่า ตอนนี้สร้อยพระที่ห้อยคอตนอยู่เป็นแค่เชือกร่ม ถ้าเปลี่ยนเป็นทองคำหนักสัก 2 บาทก็น่าจะดี แล้วบอกว่าตนแค่พูดเล่น
