“อภิสิทธิ์” มอบนโยบายกระทรวงการต่างประเทศ ลั่นทุ่มเททำงานสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาชาติ ยอมรับรัฐบาลทำงานลำบากเหตุยังมีความแตกแยกภายใน วอนประชาชนมีส่วนร่วมไม่เอาเปรียบประเทศอื่น ย้ำเน้นเจรจาปัญหาประเทศเพื่อนบ้าน ให้สมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พร้อมขอร้องทูตต่างประเทศเปิดใจกว้างทำความเข้าใจปัญหา ก่อนรายงานกลับประเทศ
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายด้านการต่างประเทศในศววรรษที่ 21 โดยมีใจความสำคัญว่า นโยบายด้านการต่างประเทศจะต้องยึดหลักคำนึงถึงประโยชน์ของคนในประเทศ โดยไม่เอาเปรียบคนในประเทศอื่นๆ ซึ่งทุกประเทศมีความเชื่อมโยงถึงกัน โดยไทยจะมีบทบาทมากในเวทีโลก อีกทั้งจะแสดงความเชื่อมั่นให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีความมั่นคง หากมีความสามัคคีก็จะสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ ที่ผ่านมาไทยมีรัฐบาลที่ขาดประสิทธิภาพ แม้ว่าจะอ้างว่ามีความชอบธรรม แต่ไม่มีโอกาสทำงานเนื่องจากสังคมมีความแตกแยก
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า เมื่อตนเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว รัฐบาลมีความมั่นคงและทุ่มเททำงานหนัก สร้างความเชื่อมั่นต่อนานาชาติ ว่าประเทศไทยมีความปกติ พร้อมก้าวไปข้างหน้า โดยยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และจริงใจ ยึดหลักตามกรอบกฎหมาย แม้ว่าขณะนี้จะมีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น ทุกประเทศจะต้องช่วยกันประคับประคอง และแก้ปัญหานี้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อให้ไทยผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจโลกไปให้ได้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น รัฐบาลไทยจะยึดหลักการเจรจา โดยยึดถือผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ใน 2 สัปดาห์หน้าไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+ 3 ที่พัทยา เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของไทยในการเป็นเจ้าภาพอาเซียน และแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของอาเซียนที่เป็นปึกแผ่น มีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า นโยบายการต่างประเทศที่ดีที่สุดต้องสร้างความมั่นคงภายในประเทศก่อน จึงออกไปสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และนำความต้องการของประชาชนในประเทศเจรจาโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับนโยบายการต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนอยากขอร้องทูตานุทูตของแต่ละประเทศที่อยู่ในประเทศไทยขอให้เปิดใจกว้าง ทำความเข้าใจถึงปัญหาของไทยอย่างแท้จริง เพราะมีความสลับซับซ้อนก่อนเขียนรายงานกลับประเทศ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี จะทำให้นโยบายด้านการต่างประเทศ ทำให้คนไทยมีความภูมิใจและรู้สึกเป็นประโยชน์ต่อเวทีโลก
