xs
xsm
sm
md
lg

“ไข่แม้ว” ตั้งกระทู้หาเรื่อง “มาร์ค” อ้างใช้ 2 มาตรฐานจัดทหารคุมม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“เด็กแม้ว” ตั้งกระทู้หาเรื่อง “มาร์ค” อ้าง 2 มาตรฐาน สั่งทหาร 6 พันนาย ตรวจเข้มเสื้อแดงห้ามร่วมชุมนุมขัด รธน.จี้ให้เลือกข้าง ด้าน “อภิสิทธิ์” ย้ำจุดยืนชัดไม่เลือกข้างฝ่ายใด ยันไม่เคย 2 มาตรฐาน แจงส่งเจ้าหน้าที่คุ้มกันพันธมิตรฯ ชัยภูมิ เพราะอีกฝ่ายข่มขู่ไม่ให้ชุมนุม ขณะที่ “สุเทพ” ย้อนให้คิดเองรัฐบาลไหนกันแน่ทำแตกแยก ปล่อยให้คนทะเลาะกัน แถมทำนักลงทุนหนีหาย

วันนี้ (26 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีถึงการดำเนินการของรัฐบาล ว่า วันนี้ บ้านเมืองวุ่นวาย แบ่งข้าง แบ่งสี แบ่งใจ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ดีต่อบ้านเมือง เพราะหากบ้านเมืองไหนมี 2 มาตรฐานไปไม่รอดแน่ อย่างกระบวนการยุติธรรม พรรคนั้นโดน พรรคนี้ไม่โดน หรือเรื่องงบประมาณที่หมู่บ้านนั้นได้งบประมาณ แต่หมู่บ้านนี้ไม่ได้ หรืออย่างกรณีกลุ่มเสื้อแดง ก็มีคนสั่งห้ามไม่ให้ออกมาชุมนุม ทำไมไม่ให้เขาออกมาในเมื่อเขารักประชาธิปไตย สังคมเป็นแบบนี้บ้านเมืองจะวุ่นวาย ตอนนี้นักลงทุนต่างประเทศไม่กล้าเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะมี 2 มาตรฐานเกิดขึ้น

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ข่าวว่า มีการสั่งให้ทหารมา 6,000 นาย ให้เข้ามาตรวจ ห้ามคนเสื้อแดงเข้ามาชุมนุม ทั้งที่เป็นแค่พนักงานผู้ช่วยเท่านั้น ไม่ทราบว่า นายกฯสั่งหรือไม่ ซึ่งถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าประชาชนสามารรถชุมนุมกันได้อย่างสงบ นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ตำรวจ 1,000 กว่านาย ไปดูแลและอารักขากลุ่มพันธมิตรฯที่จังหวัดชัยภูมิ ตนไม่เคยเห็น แบบนี้เขาเรียกว่า 2 มาตรฐานหรือไม่ หรือแม้แต่การปาไข่มาตรฐานก็ไม่เหมือนกัน อย่าง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ถูกปาไข่ที่ภาคเหนือ ยังไม่ว่าอะไร แต่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ โดนครั้งเดียว สั่งดำเนินคดี ตนก็นั่งปลงสังเวช และประชาชนส่วนใหญ่ก็สงสัยว่า เหตุใดคนปิดสนามบินสุวรรณภูมิกลับไม่มีการดำเนินการอะไร จึงขอถามว่า นายอภิสิทธิ์ มาเป็นนายกฯ 3 เดือน เคยดำเนินการ 2 มาตรฐานหรือไม่ แล้วจะจัดการอย่างไร

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีเรื่อง 2 มาตรฐานแน่นอน ตั้งแต่ตนเข้ามาทำงานจุดยืนชัด ว่า การเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญทำได้ และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลและควบคุมเท่านั้น ส่วนที่บอกว่ามีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาการณ์ให้กับบางกลุ่มหรือไม่นั้น คือ บางกลุ่มประกาศชัดว่าไม่ยอมให้อีกกลุ่มหนึ่งทำการชุมนุม และจะไปปิดล้อมซึ่งเสี่ยงต่อการปะทะกัน ตนจึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่อุดรธานี หรือการชุมนุมที่ทำเนียบก็มีการขว้างระเบิดเข้าไป ตนจึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลเท่านั้น

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลนี้มีมาตรฐานเดียวไม่เคยทำอะไร 2 มาตรฐาน และรักษามาตรฐานนี้อย่างแข็งแรงต่อไป ที่บอกว่า กระบวนการยุติธรรม พรรคนั้นโดนพรรคนี้ไม่โดนนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อยู่ที่พรรคหนึ่งผิดอีกพรรคหนึ่งไม่ผิด เพราะไม่ได้ทำ ส่วนที่ว่าเรื่องปาไข่มีการลงโทษถึงจำคุก แต่นายชวน ไม่เอาเรื่อง แต่ของตนดำเนินคดีทันทีนั้น ตนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทุกคดี การชุมนุมต้องทำโดยสงบ หากทำผิดต้องให้ตำรวจดำเนินคดี ส่วนกรณีเอาคนมาปาไข่และระเบิดปิงปองไปดำเนินคดีนั้น ก็ขอให้ไปพิสูจน์กันในศาล ดังนั้น จึงไม่มีอะไรที่เป็นไปอย่างที่บอกว่ามี 2 มาตรฐาน

ส่วนที่บอกว่าทำให้นักลงทุนหนีหมดโดยอ้างตัวเลขปี 2551 ขอบอกว่าไม่ใช่รัฐบาลนี้ แต่ท่านกำลังว่ารัฐบาลของท่านเอง ส่วนที่บอกนายกฯให้ทหารออกมา 6 พันนายนั้น เรื่องนี้ไม่จริง นายกฯไม่ได้สั่งการให้ทหารออกมาแก้ไขปัญหาแต่อย่างไร แต่ทหารมาตามคำขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเห็นว่าเกินกว่ากำลังก็จะขอทหารมาช่วย

“จำไม่ได้หรือว่าสมัยรัฐบาลท่านก็ขอให้ทหารออกมา ส่วนที่บอกว่ามีคนไปสั่งการให้ไปดูแลพันธมิตรฯท่านพูดไม่จริง ผมสั่งให้ไปดูแล เพื่อไม่ให้ปะทะกันฆ่ากัน ไม่ใช่นิ่งดูดายเหมือนบางยุคบางสมัย ส่วนที่บอกว่ายังอยู่เฉย แม้มีคนปิดสนามบินสุวรรณภูมินั้น ไม่ใช่ คดีเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ได้ละเว้น ทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง แต่จะช้าหรือเร็วอยู่ที่แต่ละกรณีที่เกิดขึ้น จึงไม่มีเรื่อง 2 มาตรฐาน หรือเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด” นายสุเทพ กล่าว

ซึ่ง นายประสิทธิ์ ได้ลุกขึ้นถามอีกว่า รัฐบาลชุดนี้ดีแต่ใช้ปากประชาสัมพันธ์ เก่งแต่ไม่ใช้สมอง นายกฯพูดอยู่คนเดียว ก็ขอให้ระวังพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะนอกจากจะมีงูเห่าแล้ว ยังมีงูเก็งกอง ขอให้ระวังเพราะพวกตนโดนมาจนคอเหลืองแล้ว การเมืองไม่มีมิตรแท้ หรือศัตรูถาวร ตั้งรัฐบาลสลับไปสลับมา แต่วันนี้เลือกข้างชัดเจน ซึ่ง 2 มาตรฐานที่ทำให้บ้านเมืองนิ่งไม่ได้เลย จึงอยากถามนายกฯว่าจะเลือกข้างเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯหรือไม่ และการแก้ปัญหาเรื่องนี้ หากพวกตนคิดว่าสถาบันพระปกเกล้ามีปัญหา แล้วจะให้มาแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร

นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่อยู่ข้างใคร หรือทำตัวอยู่ข้างใครแต่ทำงานเพื่อประชาชนทุกคน ในส่วนปฏิรูปการเมืองและสมานฉันท์ ตนไม่ได้กำหนดว่าสถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ แต่ตนได้หารือประธานวิปฝ่ายค้านบอกว่ามีหน่วยงานไหนที่จะดำเนินการเรื่องนี้ แล้วก็ได้เลือกสถาบันพระปกเกล้าตามที่ได้หารือกันใน ขณะที่มี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯเป็นประธานในการประชุม ซึ่งข้อได้เปรียบคือสถาบันพระปกเกล้าอยู่ในส่วนนิติบัญญัติ หากใช้สถาบันอื่นอาจอยู่ในฝ่ายบริหาร แต่อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมหารือ แม้วันนี้จะหารือไม่ได้ แต่หากแนวทางนี้เป็นไปไมได้ ตนก็พร้อมแสวงหาแนวทางต่อไป หากไม่เปิดใจกว้างก็ติดอยู่ตรงนี้ แล้วก็หาว่าถ่วงเวลากัน ทั้งหมดย้ำว่ารัฐบาลนี้มีมาตรฐานเดียว รักษากฎหมาย ซึ่งการกระทำทุกเรื่องต้องมีมาตรฐาน

ส่วน นายสุเทพ ชี้แจงต่อว่า ตนไม่ได้ทำให้บ้านเมืองแตกแยก วันนี้ประชาชนตั้งคำถามใครกันแน่ทำบ้านเมืองแตกแยก กระทบทุกสถาบัน ทำไมไม่ดูตัวเองกันบ้างและเราทำทุกอย่างให้คนไทยรู้ความจริงและทำให้เกิดความสงบสุขไม่ให้ใครมาลบหลู่ ละเมิด บิดเบือน หากยังทำต่อไปจะต้องจัดการตามกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น