กกต.ตั้งแง่สอบเงินบริจาค ปชป. หวั่นตกหลุมพรางดีเอสไอ

กกต.ปฏิเสธสองมาตรฐานตรวจสอบเงินบริจาค ปชป. แต่หวั่นตกหลุมพรางดีเอสไองุบงิบข้อมูล โยนเผือกร้อนให้ กกต.ตกเป็นแพะรับบาปเรื่องข้อมูลรั่วไปถึงพรรคฝ่ายค้าน ด้านดีเอสไอต้านกระแสไม่ไหวดอดส่งเจ้าหน้าที่เปิดกล่องเอกสารเจ้าปัญหาบ่ายนี้

วันนี้ (25 มี.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมเปิดกล่องแฟ้มเอกสารเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากดีเอสไอไม่ส่งเจ้าหน้าที่มาทาง กกต.ก็จะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเรื่องนี้มีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีกระแสข่าวว่าเอกสารรั่วไหลไปอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งทางดีเอสไอก็ส่งกล่องเอกสารมาให้ กกต.ในวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพียงวันเดียว ทำให้ กกต.ไม่กล้าเปิดกล่องดังกล่าวเอง

“ยืนยันว่า กกต.ไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือโยนเผือกร้อน ซึ่งดีเอสไอก็ไม่ควรเอาประเด็นการเมืองมาโยนให้ กกต.เช่นกัน เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าเอกสารไปอยู่พรรคเพื่อไทยได้อย่างไร ทั้งนี้ ทุกอย่างที่ดำเนินการนั้น ความถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ การตรวจสอบเอกสารจะต้องทำร่วมกันว่าในกล่องนั้นมีอะไรบ้าง ทุกอย่างเพื่อความโปร่งใส่ทั้งนั้น และที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดที่โอนสำนวนให้แก่กันมาก่อน แต่หาก ดีเอสไอ เคลียร์เรื่องนี้ไม่ชัด กกต.ก็จะไม่ตรวจสอบ”

นางสดศรีกล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอส่งแค่เอกสารมาให้ กกต.เท่านั้น แต่ไม่ได้ส่งสำนวนมาให้ ทั้งที่ตามปกติแล้วต้องมีมาด้วย ดังนั้นจะต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนที่ดีเอสไออ้างว่าไม่มีอำนาจสอบเรื่องนี้ เพราะเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.พรรคการเมือง นั้น ตนเห็นว่าเมื่อดีเอสไอรู้ตั้งแต่แรกว่าไม่มีอำนาจในการสอบสวนแล้วดำเนินการสอบสวนมาเป็นปีทำไม

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นเรื่องให้ กกต.สอบด้วยนั้น กกต.ก็จะต้องรับพิจารณา เนื่องจากทางพรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ การพิจารณาของ กกต.จะทำพร้อมกันกับสำนวนของดีเอสไอที่ส่งมา โดยจะมีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด

ด้าน นายสุทธิพล กล่าวถึงการตรวจสอบเอกสารเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดีเอสไอส่งมาให้กกต.ตรวจสอบว่า ทางกกต.ได้รับการประสานจากดีเอสไอว่า ในเวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมด้านกิจการพรรคการเมืองชั้น 6 ทางดีเอสไอจะส่งเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย พ.ต.ท. วรชัย อารักพิรัตน์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.ท. จักรกฤษ แดงสุริศรี พนักงานสอบสวน มาร่วมเปิดกล่องเอกสารที่ส่งมา โดยจะมีพ.ต.อ. สุชาติ วงศ์อนันตชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ขณะที่ในส่วนกกต.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยมอบหมายให้นาย ปกครอง สุนทรสิทธิ์ รองเลขาธิการด้านพรรคเมือง เป็นประธาน นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผอ.สำนักบริหารการสนับสนุนโดยรัฐ นายกฤช เอื้อวงศ์ ผอ.สำนักกิจการพรรคเมืองและการออกเสียงประชามติ ผอ.ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะทำงาน โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมตรวจสอบความถูกต้องและจัดทำบัญชีเอกสาร เนื่องจากดีเอสไอไม่ได้จัดทำมา และให้ดีเอสไอยืนยันเอกสาร จากนั้นคณะทำงานก็จะทำความเห็นเสนอต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและกกต. เพื่อพิจารณาว่า กกต.ควรจะดำเนินอย่างไรต่อไป