“สนธิ” จี้ “เทพเทือก” ย้าย “พัชรวาท” เข้ากรุ-เย้ย “เป็ดเหลิม” ซักฟอกสีสันเลอะเทอะ

“สนธิ” เชื่ออภิปรายไร้ผล เหตุพรรคร่วมทอนตังค์กันเรียบร้อยแล้ว จวกซ้ำ “พัชรวาท” ทำโอดครวญเสียกำลังใจ หลังโดน ป.ป.ช.กล่าวหา “7 ตุลาฯ” ถามกลับจะให้ตำรวจฆ่าคนตายโดยไม่ผิดหรือ ยันรับพฤติกรรม ผบ.ตร.คนนี้ไม่ได้ พร้อมจี้ “สุเทพ” ย้ายเข้ากรุ กรณีพัวพันทุจริตและโดนชี้มูลไว้แล้ว เย้ย “เป็ดเหลิม” แค่นักโต้วาที ขาดตรรกะ แค่สร้างสีสันเลอะเทอะ สอน “มาร์ค” หยุดหนุนส่งออกชั่วคราว เหตุตลาดไม่มีกำลังซื้อ เอาเงินไปปล่อยกู้ธุรกิจกลาง-เล็ก ในประเทศดีกว่า


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand" 

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันอังคารที่ 17 มีนาคม 2552 ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำเสนออย่างหลากหลายเช่นเคย

สวัสดีครับ ท่านผู้ชมแล้วก็พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้เป็นวันที่สองหลังจากที่กลับมาจากสหรัฐอเมริกา เมื่อวานซืนตอนประมาณ 02.00 น.ที่รายการ Good morning Thailand ก็ได้เริ่มขึ้น ขณะนี้เวลา 06.05 น.ที่กรุงเทพมหานคร ถ้าเป็นที่มหานครนิวยอร์กก็คงจะเป็นประมาณ 17.00 น.ถ้าเป็นที่ลอสแองเจลิส คงประมาณ 15.00 น.ของเมื่อวานนี้ ก็คือของวันจันทร์ ก่อนอื่นขอขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย USA ที่ได้ช่วยจัดการงานคอนเสิร์ตการเมืองที่ USA ณ มหานครลอสแองเจลิส ได้ประสบผลสำเร็จอย่างน่าชื่นชม แล้วก็ภูมิใจมากที่พ่อแม่พี่น้องมาร่วมงานกันเต็มที่ แล้วบรรดาพันธมิตรฯ ทั้งหลายที่อยู่ที่ลอสแองเจลิส ที่ช่วยงานทุกๆ ท่าน ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ แต่ทุกคนรู้ดีว่าได้ทุ่มเทกับงานนั้นไปเท่าไหร่

วันนี้ เป็นวันที่ 18 มีนาคม 2552 อีก 2 วันเท่านั้นเอง อีกวันเดียว มะรืนนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเริ่มต้นแล้ว โดยที่มีการอภิปราย 2 วัน แล้วก็ลงคะแนนเสียงวันเสาร์ ผลก็คงจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เหตุผลคือว่า รัฐบาลคงได้คะแนนเสียงเต็มที่อยู่แล้ว เพราะว่าท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เพิ่งอนุมัติงบขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ให้กลุ่มคุณเนวินเขาไป เหมือนเป็นการจ่ายค่าตัวประกัน เพื่อที่จะลงคะแนนเสียงให้ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ และคุณเนวิน คงไม่กล้าเบี้ยว เพราะเมื่อได้งบประมาณแล้ว ผลประโยชน์จากงบประมาณก็จะต้องตามมาทีหลัง ถ้าเบี้ยวตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสดูแลงบประมาณต่อไปหรือเปล่า นี่ละครับพ่อแม่พี่น้อง การเมืองคือการตอบแทนซึ่งกันและกัน หรืออีกนัยหนึ่ง คือ การทอนสตางค์ให้ คุณให้ผมมา 1 บาท ผมทอนให้คุณ 75 สตางค์ หน้าเห็นใจท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาก ผมไม่รู้ว่าท่านจะทนแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน

เมื่อวานนี้ ผมไปขึ้นศาลแพ่ง คดีที่คุณทักษิณให้น้องชาย คุณสุธรรม แสงประทุม ซึ่งเป็นทนายความ ไปขอการคุ้มครองชั่วคราว กล่าวหาว่า ผมพูดจาถึงคุณทักษิณ ศาลก็อนุญาตให้มีการคุ้มครองชั่วคราว แล้วเขาก็ไปยื่นคำร้องใหม่ เขาบอกว่า ผมไปละเมิดการคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งผมก็ไปให้ศาลเห็น แล้วก็ทนายความฝ่ายผม คือ คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ก็ไปชี้แจงให้ฟังว่า ผมไม่ได้พูดถึงคุณทักษิณในบริบทเดิมที่ศาลได้สั่งคุ้มครอง ที่ไม่พูดก็ไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ นั่นข้อที่ 1 ข้อที่ 2.คุณทักษิณพูดอะไรใหม่ๆ ออกมาทุกวัน เพราะฉะนั้นการที่ผมจะพูดถึงคุณทักษิณบ้างก็ย่อมไม่ได้ไปพาดพิงถึงเรื่องเก่าๆ ของคุณทักษิณ ศาลท่านก็มีความเมตตา ท่านก็ตักเตือนให้ระวังเอาไว้ แล้วท่านก็บอกว่า เดี๋ยวท่านจะพิจารณาอีกทีว่าจะจำหน่ายคดีออกไปหรือไม่ เนื่องจากว่า เหตุการณ์ว่า คดีนี้เป็นคดีคล้ายๆ กันที่คุณทักษิณไปฟ้องหมิ่นประมาทผม ในแถลงการณ์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 1-5 ซึ่งฉบับที่ 1 ศาลท่านยกฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว เหลือฉบับที่ 2-5 ศาลคงจะมีคำสั่งภายในเร็วๆ นี้ ว่ามีมูลหรือไม่มีมูล

ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า คนเราถ้าเคารพกติกา มีเรื่องถึงศาลก็ต้องขึ้นศาล อย่าไปหนีศาล ผมไม่เคยหนีศาล พ่อแม่พี่น้องครับ ผมอยู่มาตลอดชีวิตผม สู้มาตลอด ผมเคยพูดกับท่านผู้ชมแล้ว พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ศาลจะพิพากษาอย่างไร จะดำรงความยุติธรรมในสายตาผม หรือในจิตใจผมมากน้อยแค่ไหน สำหรับผมไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า ถ้าศาลมีคำสั่งให้ผมหลุดผมก็หลุด มีคำสั่งให้ผมติดคุก ผมก็อุทธรณ์ ถ้าไปถึงฎีกาแล้ว ถ้าศาลฎีกายืนยันให้ผมติดคุก ผมก็พร้อมจะติด มันก็แค่เปลี่ยนที่นอนนั่นเอง บางครั้งอาจจะติดคุกซะบ้างก็ดีเหมือนกัน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าในที่สุดก็มีคนที่เคารพในกติกาแล้วไม่ต้องวิ่งหนีเหมือนคุณทักษิณ ชินวัตร หรือคุณใจ อึ๊งภากรณ์ แล้วก็ลิ่วล้อคุณทักษิณอีกหลายคน เช่น นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ซึ่งหนีหมายศาล แล้วก็ นายสุชาติ นาคบางไทร แปลกมาก พวกกลุ่มเสื้อแดง

พวกกลุ่มคุณทักษิณชอบหนีศาลแล้วอ้างว่าศาลนั้นไม่มีความยุติธรรม เหมือนคุณทักษิณนั้นเที่ยวมาก่นด่าศาลหลังจากตัวเองหลุดออกไปนอกประเทศว่า หาความยุติธรรมไม่เจอในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย แต่ตัวเองก็ชอบเหลือเกินที่มาพึ่งกระบวนการยุติธรรมที่ตัวเองเที่ยวไปด่าว่าอยู่ต่างประเทศเพื่อให้มาฟ้องร้องพวกผม แล้วก็เป็นการฟ้องร้องที่น่าเกลียดมาก แล้วผมเองคิดว่า ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการฟ้องร้องนี้ ผมก็ยังไม่บ่น น่าเกลียดตรงไหนรู้ไหมพี่น้อง เขามอบอำนาจให้ทนายมาฟ้อง เมื่อมอบอำนาจให้ทนายมาฟ้องแล้ว ข้อที่ 1.ก็ยังไม่รู้ว่าใบมอบอำนาจนั้นจริงหรือปลอม ข้อที่ 2. คนที่มอบอำนาจมาฟ้องนั้นถึงเวลาต้องมาขึ้นศาลด้วยเพื่อเป็นพยาน สิทธิในฐานะผมเป็นจำเลย คุณฟ้องผม ผมมีสิทธิ์ซักค้านคุณได้ แต่ว่าเขาไม่มา แล้วก็มีหลายกรณีศาลก็พิพากษาไปโดยไม่คำนึงถึงข้อนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

นี่คือ ความอยุติธรรมที่ผมได้รับจากศาล แต่ผมก็ไม่บ่น พิพากษามาอย่างไรก็อย่างนั้น เพียงแต่เล่าให้ฟังว่า กระบวนการที่จำเลยอย่างผมน่าจะได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้อย่างเต็มที่ กลับไม่ได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้อย่างเต็มที่ ผู้พิพากษาบางท่าน ผมไม่รู้ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังท่านมีอะไร แต่ว่าท่านก็ถือว่า การที่โจทก์ไม่สามารถจะมาให้การได้นั้นไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ผม ตัดสิทธิ์ซิครับไม่ตัดสิทธิ์ได้ยังไง ก็ในเมื่อคุณทักษิณฟ้องผม ผมมีสิทธิ์จะซักคุณทักษิณแต่ละข้อกรณีที่คุณทักษิณฟ้อง ช่างมันเถอะครับพี่น้องครับ กระบวนการยุติธรรมนั้นเดี๋ยวนี้มันเสียตั้งแต่ต้นน้ำ คือ ตำรวจ ลามไปถึงกลางน้ำ คือ อัยการ และเริ่มเสียบางส่วนที่ปลายน้ำ คือ ศาลสถิตยุติธรรม ศาลท่านก็เป็นมนุษย์ปุถุชนเหมือนกัน ท่านก็ตีกอล์ฟ ท่านก็เล่นพระ ท่านก็มีรุ่นของท่าน บางที กกต.นั้น ท่านก็มีผู้พิพากษา เป็นอดีตผู้พิพากษา เป็น กกต. โดนผมวิพากษ์วิจารณ์ไป ท่านก็มีพรรคพวกเป็นศาลเหมือนกัน คดีความผมไปเข้าทางปืนของเพื่อนท่าน ท่านก็อาจจะยกหูโทรศัพท์ไปหาเพื่อนท่าน บอกว่าเอามันซะหน่อยวะ ก็ว่ากันไปไม่เป็นไรครับ จะต้องติดตลอดชีวิต ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ยินดีไม่เป็นไร ไม่หนีก็แล้วกัน

วันนี้มีเรื่องราวหลายเรื่อง วันนี้ผมไม่ได้มาเล่าข่าวให้พ่อแม่พี่น้องฟัง แต่ผมจะมาเล่าความหมายของข่าวให้ฟัง เมื่อวานนี้พี่น้องจำได้ใช่ไหมครับผมพูดถึงเรื่อง ป.ป.ช. ผมพูดถึงเรื่องคุณพัชรวาท วันนี้คุณพัชรวาทก็อดรนทนไม่ไหว ท่านก็เลยออกมาให้สัมภาษณ์ คือประเด็นท่านให้สัมภาษณ์ท่านแก้ตัวนะครับ ท่านบอกว่า กรณี 7 ตุลา ข้อกล่าวหา ป.ป.ช.มีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวท่านเองและผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ไม่รู้สึกโกรธ ป.ป.ช.เพราะเป็นการทำตามขั้นตอนกฎหมาย

บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เหมือนกัน ว่า ท่านได้ พล.ต.อ.มาได้อย่างไร ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ท่านต้องเข้าใจ ประชาชนตาย 12 คน พิการเกือบ 20 คน แล้วก็บาดเจ็บ 700 กว่าคน ที่เขาตายเขาไม่ได้ตายเพราะมีลูกปืนหล่นมาจากฟ้า หรือมีแก๊สน้ำตาที่เทวดายิงมา แล้วที่เขาแขนขาด ขาขาด ไม่ได้แขนขาดขาขาดเพราะฟ้าผ่า ทุกอย่างมาจากอาวุธทางราชการทั้งสิ้น เมื่อมาจากอาวุธทางราชการแล้ว คนที่ถืออาวุธทางราชการวันนี้ก็พิสูจน์ชัด ว่าเป็นตำรวจ เมื่อเป็นตำรวจแล้ว ท่านยังมีหน้ามาพูดได้อย่างไรว่า ท่านรู้สึกมีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ หมายความว่า ท่านกำลังบอกว่า ถ้าตำรวจฆ่าคนตายได้แล้วไม่ผิด แล้วไม่ถูกตรวจสอบ ท่านถือว่าตำรวจมีขวัญกำลังใจดีใช่ไหม ทำไมท่านไม่ให้พี่น้องท่านโดนฆ่าบ้างล่ะแล้วท่านจะรู้สึก

นอกจากนั้นแล้ว ท่านยังพูดต่อ ท่านบอกว่า อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า วันนั้นตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ที่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชน ตรงนี้ก็อีกเหมือนกัน ผมไม่รู้ท่านใช้ส่วนไหนของร่างกายมาพูด ตำรวจไม่ได้ทำร้ายประชาชน อย่างที่ผมเรียน ที่ตาย ตายเพราะว่าลูกเห็บมันตกมารึไงคุณพัชรวาท ผมว่าคุณเลอะเทอะมากเกินไปแล้วนะทุกวันนี้

พี่น้องครับ เดี๋ยวผมจะมีเรื่องราวบางเรื่องที่จะชี้ให้เห็นว่า วันนี้เราพึ่งพาใครไม่ได้เลย พึ่งไม่ได้จริงๆ พี่น้อง แล้วผมอยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ รวบรวมกำลังจิตกำลังใจนิดนึง ว่า เรามีแต่พึ่งได้เฉพาะตัวพวกเรา คุณพัชรวาทอ้างว่ามีตามลายลักษณ์อักษร ก็คุณพัชรวาทให้ทางนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สั่งการมาเป็นลายลักษณ์อักษร การสั่งการมาเป็นลายลักษณ์อักษรนั้น ถ้าดูลายลักษณ์อักษรแล้วไม่ได้แปลว่าเขาสั่งให้คุณพัชรวาทเอาตำรวจยิงประชาชน เขาอาจจะสั่งกว้างๆ บอกให้ดำเนินการให้เรียบร้อยตามกฎหมาย แต่กฎหมายไม่ได้สั่งให้ฆ่าประชาชนนี่คุณ กฎหมายเขามีขั้นตอนไม่ใช่หรอ การจะสลายม็อบคุณต้องเตือนด้วยวาจาก่อน เมื่อเตือนไม่ได้แล้วคุณค่อยใช้กำลัง โล่ดัน เสร็จแล้วคุณใช้น้ำดับเพลิงฉีด เมื่อใช้น้ำดับเพลิงฉีดแล้วยังเอาไม่อยู่ คุณถึงเริ่มใช้ระเบิดแก๊สน้ำตา แล้วระเบิดแก๊สน้ำตาก็ไม่ใช่ระเบิดแก๊สน้ำตาที่หมดอายุ ผมเห็นเขายิงแก๊สน้ำตากันทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้เขาก็ยิงแก๊สน้ำตาที่ปากีสถาน ก็ไม่เห็นคนปากีสถานตายสักคน แต่ทำไมยิงแก๊สน้ำตาในเมืองไทยแล้วคนไทยตาย ทำไมน้องโบว์ตาย พฤติกรรมของตำรวจลักษณะแบบนี้ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งท่านเป็นผู้นำในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งรับไม่ได้มากกว่านี้ ประเทศชาติทำไมมันโชคร้ายอย่างนี้ ถึงมีผู้นำตำรวจที่ไม่สามารถจะยืนอยู่บนความเที่ยงตรงได้ ไม่สามารถให้ความยุติธรรมกับประชาชนได้เลยแม้แต่นิดเดียว

พี่น้องครับ ต่อจากคุณพัชรวาท มาถึง คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อมีนักข่าวไปถามบอกว่าจะอุ้มตำรวจไหม ท่านบอกไม่ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายหมด จะเปลี่ยนตัวผู้สอบสวนพันธมิตรฯ ไหม ก็บอกไม่ เป็นไปตามกฎหมาย ผมอยากจะเตือนสติคุณสุเทพนิดนึง คุณสุเทพไปพูดที่ จ.ปทุมธานี ผมไม่รู้ว่าท่านรับงานใครมาพูด ท่านบอกว่าประเทศชาตินี้แตกแยกเพราะกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ท่านอาจจะลืมตัวไปว่า วันนี้ท่านไม่ใช่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้ว ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ท่านอาจจะไปฟังการสรุปของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งทหารนั้นเขามองพันธมิตรฯ เป็นอันตรายกับตัวเขา เพราะอะไรพี่น้อง เพราะทหารเขาวางแผนจะเข้ามามีอำนาจ จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องกัน ผมเชื่อว่าคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วผมก็เชื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็อยากจะต่อ คุณประวิตร วงษ์สุวรรณ เขามองว่า เสื้อแดงปราบง่าย ทำไมเสื้อแดงปราบง่าย เพราะเสื้อแดงไม่มีอุดมการณ์ เสื้อแดงมันม็อบรับจ้าง ในเมื่อจับมือกับคุณเนวิน ชิดชอบได้ เสื้อแดงก็ต้องสลายไปโดยปริยาย แต่เสื้อเหลืองคุยยาก เพราะเสื้อเหลืองยืนอยู่บนความมั่นคง บนความถูกต้อง เสื้อเหลืองไม่กลัวตาย อุดมการณ์เสื้อเหลืองมันมี เพราะอุดมการณ์เสื้อเหลือง คืออุดมการณ์ของชาติ อุดมการณ์เสื้อแดง คืออุดมการณ์ของการเอาคุณทักษิณกลับมาสู่ประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายความมั่นคงจึงมองว่า ถ้าวันหน้าวันหลัง ถ้ารัฐบาลที่มีอดีตนายทหารเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมีทหารจับมือกับพรรคการเมืองห่วยๆ พรรคการเมืองที่โกชาติกินบ้านกินเมือง เขากลัวพลังเสื้อเหลือง คือ พลังของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรก็ได้ตามสิ่งที่เขาต้องการ ด้วยเหตุนี้ กระบวนการที่จะใช้ตำรวจมาบี้เสื้อเหลืองจึงเกิดขึ้น

ผมก็อยากจะเตือนสติถึงคุณสุเทพนิดนึงว่า ที่คุณพูดทำตามกฎหมายนี่ถูกต้อง แล้วผมจะเตือนคุณอย่าง ที่คุณบอกคุณทำตามกฎหมาย ผมจะถามคุณนิดนึง สิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถามมา ไม่ได้ต้องการให้คุณยกเลิกการดำเนินคดีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เราถามมาเพื่อขอความยุติธรรมเท่านั้นเอง กฎหมายก็อนุญาต กฎหมายก็ระบุชัด ว่าถ้าผู้สอบสวนสืบสวนนั้นมีความคิดที่เป็นปฏิปักษ์กับผู้ที่ถูกกล่าวหาแล้ว กระบวนการยุติธรรมย่อมไม่ยุติธรรมตั้งแต่เริ่มต้น ข้อกฎหมายมี เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร้องเรียนคุณสุเทพไปนั้นร้องเรียนไปตามข้อกฎหมาย คุณสุเทพ ก็บอกว่าทำตามกฎหมาย ผมไม่ทราบว่าคุณสุเทพพูดถึงกฎหมายฉบับไหน หรือเป็นกฎหมายฉบับที่คุณเนวินแล้วก็ฝ่ายทหาร คือ คุณประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กับคุณ นั่งสุมหัวกันว่าต้องเอากฎหมายเล่นงานพันธมิตรฯ เพื่อไม่ให้พันธมิตรฯ นั้นมีพลัง เพื่ออีกหน่อย การเมืองจะได้เดินหน้าไปโดยที่ไม่มีใครกล้ามาตรวจสอบ ผมไม่ทราบว่าเป็นเรื่องนี้หรือเปล่า

อีกเรื่องนึง ไหนๆ คุณสุเทพ พูดเรื่องกฎหมายแล้ว ผมจะถามคุณสุเทพนิดนึง แล้วผมจะถามท่านวันศุกร์นี้ วันศุกร์นี้ท่านจะต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา มีข่าวว่า จดหมายร้องเรียนถึงท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ คุณสุเทพเป็นคนเก็บเอาไว้ใช่ไหม จดหมายฉบับนั้นถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ถูกข้อกล่าวหาว่า ทุจริตคอร์รัปชั่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ท่านเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 86 หรือ 84 ผมจำไม่ได้ เรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งคณะกรรมการชี้มูลแล้ว ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ในขณะนั้น ผิดได้กระทำความผิดจริง แล้วก็ส่งเรื่องนี้ไปยังสำนักนายกฯ เรียบร้อยแล้ว แล้วเรื่องก็คาอยู่สำนักนายกฯ ตั้งแต่ยุคคุณสมัคร สุนทรเวช มาจนกระทั่งคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แล้วคุณสมชายก็แทงเรื่องนี้ออกมา หลังจากที่คุณเสรีพิศุทธ์ ได้ร้องเรียนไปที่สำนักนายกฯ ถึง 5 ครั้ง ขอติดตามผล

คุณสมชาย แทงว่าอย่างไร ให้ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท ไปประจำสำนักนายกฯ แล้วก็พร้อมเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อกล่าวหา แต่ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงซะก่อน แล้วคุณสุเทพก็ได้เข้ามาดูแลตำรวจ ผมอยากจะเรียนถามคุณสุเทพว่า ถ้าท่านจะทำตามกฎหมายจริงๆ ท่านช่วยเอาเรื่องนี้ขึ้นมาหน่อย เพราะว่าถ้าท่านไม่ตัดสินใจที่จะเซ็นคำสั่ง เพราะท่านไม่มีทางเลือก เพราะเป็นกระบวนการผ่านมาเรียบร้อยหมดแล้ว หน้าที่ท่านมีอย่างเดียว คือถ้าท่านได้รับมอบอำนาจจากท่านนายกฯ ท่านต้องเซ็นคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท ตามที่ถูกเสนอมา และเมื่อมีคำสั่งปั๊บ ท่านต้องย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท ประจำสำนักนายกฯ ท่านตอบผมหน่อยซิ ท่านบอกว่าไปตามกฎหมายแล้วกฎหมายข้อนี้ท่านจะทำไหม หรือท่านจะเกรงใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือท่านจะเกรงใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ช่วยตอบผมหน่อยซิ ท่านอย่าเอาแต่ว่า กฎหมาย แล้วท่านบอกว่า ผมมีเรื่องท่านเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เลยท่าน ผมไม่ได้มีเรื่องกับท่านเป็นเรื่องส่วนตัว

อีกข่าวนึงครับพี่น้องครับ ข่าว ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ซึ่งมีฉายาทางการเมืองว่า สากกระเบือ สากกระเบือนั้นเป็นอย่างไรพี่น้องก็รู้ใช่ไหม พูดไม่ได้ มีแต่โขลกมีแต่ตำได้อย่างเดียว คุณเชาวริน ถ้าพี่น้องยังจำได้ก็คือ เรียกว่า คุณเชาวริน โกโบริ เป็นผู้เอาข่าวลือเรื่องทองคำที่ทหารญี่ปุ่นฝังอยู่ในถ้ำลิเจีย คือคุณเชาวรินเป็นอะไรบางอย่างที่เฮฮามาก น่าเสียดายอย่างเป็นอดีตตำรวจคนนึงเหมือนกัน ร.ต.ท.เชาวริน ผมมาไล่ดูแล้ว ตำรวจที่มาเล่นการเมือง ปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้นเพราะอดีตตำรวจจริงๆ คุณเชาวรินออกมาปกป้องผลการชี้มูลของ ป.ป.ช.โดยอ้างว่า อยู่ในที่เกิดเหตุตลอดเวลา แล้วก็ได้ร่วมประชุมด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว คุณสมชายไม่เคยบอกให้ฆ่าประชาชน แล้วก็กล่าวหาด้วยว่า พันธมิตรฯ เตรียมยางเป็นร้อยๆ เส้นเพื่อที่จะเผา ด้วยความเคารพ ไม่ทราบว่าถ้าคุณเอาทีวีรายการข่าวออกมาดู ผมไม่เห็นยางสักเส้นเลย อาจจะมีหนังสติ๊กที่อยู่ในกระเป๋าของประชาชนเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นคุณเชาวรินพูดอะไรก็ตาม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ มันยิ่งกว่าไร้สาระอีก

คนบางคนเริ่มจากพูดจามีหลักฐานน่าเชื่อถือไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้ามาเล่นการเมือง เข้าไปรับใช้นักการเมือง เข้าไปรับใช้นายตัวเอง เข้าไปมีผลประโยชน์ ก็สามารถพูดขาวเป็นดำได้ เหมือนคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณวีระ มุสิกพงศ์ เหมือนกัน พูดอะไรไม่เคยจำว่าตัวเองเคยพูดอะไรไว้ พี่น้องครับ ท่านผู้ชม ผมไม่ต้องจำว่าผมพูดอะไรไว้ เพราะผมไม่เคยพูดโกหก พูดร้อยครั้งเหมือนกันร้อยครั้ง ท่านผู้ชม พี่น้องพันธมิตรฯ ที่เคยฟังผมพูด ไม่ว่าจะปี 2548, 49, 50, 51, 52 จะจำได้ว่า ผมพูดเรื่องที่ผมเคยพูดมาแล้ว 10 ครั้งเหมือนกันหมด ไม่ได้ต่างเลย จะต่างอย่างเดียว บางครั้งมีข้อมูลเพิ่มเติมกว่าเก่า เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก คนๆ นึงฆ่าความน่าเชื่อถือของตัวเอง แล้วตัวเองก็เลยกลายเป็นคนซึ่ง เขาเรียกว่า โมฆะบุรุษ ถึงจุดๆ นึงแล้ว เมื่อแก่เฒ่าลงไปแล้ว เด็กรุ่นหลังพูดถึงคุณเชาวริน ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากสำหรับวงศ์ตระกูลของคุณเชาวริน

เมื่อวานนี้ คุณวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กำลังเรียกร้องให้เลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาเป็นปลายเดือน แทนที่จะวันที่ 20 หรือ 21 แต่ก็เข้าใจว่าคงไม่สำเร็จ เพราะถูกบรรจุลงไปในวาระแล้ว ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ที่น่าสนใจคือว่า คุณเฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งพูดภาษาอังกฤษเพิ่มเป็นอีกคำ ก็คือ กระเป๋าหลุยส์วิคตอง คุณเฉลิม อยู่บำรุง ก็บอกว่าไม่ต้องเพิ่มวันอภิปราย 2 วันดีแล้ว แกบอกว่าแกมีหลักฐานน็อก ปชป. คุณเฉลิมมีหลักฐานทุกอย่างในชีวิต คุณเฉลิมเป็นนักโต้วาที หรือนักอภิปรายฝีปากกล้า เพราะเป็นคนซึ่งความจำดี เรียบเรียงเรื่องราวได้ดี แต่น่าเสียดายคุณเฉลิมเป็นคนที่ขาดตรรกะ เพราะอะไรพี่น้องรู้รึเปล่า ตรรกะเกิดจากองค์ความรู้ สมมุติเรื่องนี้คุณอ่านมาคุณอาจจะพูดได้ตามเรื่องนี้ แต่ถ้าอะไรเพิ่มเติมลงไปในเรื่องนี้ เหมือนคุณโปรแกรมอะไรเรื่องหนึ่งพอมีอะไรเข้ามาปังปั๊บคุณแก้ไม่ได้เลย เหมือนมีไวรัสเข้ามาโปรแกรมนี้มันจะทำให้โปรแกรมล่ม คุณจะเอะอะทันที เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่ออกความเห็นคุณเฉลิมดีกว่า ผมมีความรู้สึกว่า ในสภานั้นมันน่าจะมี ส.ส.ที่ให้สีสันกับสภาได้ แต่ผมคิดว่ายุคของการให้สีสันแบบเลอะเทอะ แบบไร้สาระ มันน่าจะหมดไปได้แล้ว มันน่าจะเป็นการให้สีสันด้วยการสามารถเอาข้อมูลใหม่มาเปิดเผย หรือว่าสามารถจะเรียบเรียงร้อยคำที่น่ารัก คมบาดลึกได้ดี แต่ในขณะเดียวกัน ยังคงดำรงไว้ซึ่งสาระเหมือนเดิม เมืองไทยหาได้ยากมากนะครับ

อีกข่าวนึง คือ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อวานนี้ก็บอกว่า จะเลื่อนม็อบประจำเดือนเร็วขึ้น ประจำเดือนอาจจะมาเร็วหน่อยเดือนนี้ ตั้งเป้าไว้ว่าจะมาประมาณสักปลายๆ เดือน วันนี้เขาเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาเป็น 20-21 คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ก็คิด ถ้าอย่างนั้นต้องเร่งให้ม็อบประจำเดือนมาเร็วขึ้น คุณจตุพรก็พูดเหมือนเดิมว่าจะแดงเถือกทั้งกรุงเทพฯ เอาเถอะครับ คุณจะแดงยังไงคุณก็แดงไปเถอะ แต่คุณต้องรู้อยู่แก่ใจว่า แดงของคุณนั้น 100 คนที่มาด้วยใจมีไม่เกิน 10 คน 20 คนสูงสุด ที่เหลือนั้น 500 1,000 คุณก็รู้อยู่แก่ใจ คุณโกหกใครโกหกได้ แต่โกหกคนที่รู้หลายๆ คนคุณโกหกไม่ได้หรอก

ผมจะพูดถึงม็อบเสื้อแดงนิดนึงพี่น้อง เมื่อวานนี้มีโอกาสเจอเพื่อนรุ่นน้องคนนึง มาจากเชียงใหม่ เขาทำธุรกิจท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ ผมอยากจะพูดฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องที่เชียงใหม่ เขาพูดยังไงรู้ไหม เขาบอก พี่ผมกลุ้มใจที่สุดเลย ธุรกิจผมตกมาก เพราะเดี๋ยวนี้คนมาเที่ยวเชียงใหม่น้อยลงมาก ผมก็นั่งอมยิ้มในใจ ผมรู้คำตอบอยู่แล้วผมก็เลยแกล้งถาม อ้าวแล้วคุณคิดว่าอะไร เขาบอกจะอะไรล่ะพี่ ไอ้ม็อบบ้าเสื้อแดง ม็อบบ้าไปอาละวาดคนนู้นคนนี้ ไปทำร้ายคนนี้ ไปข่มขู่ ไปตบหน้าอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทุกอย่างออกข่าวหมด เมืองเชียงใหม่กลายเป็นเมืองอำมหิต กลายเป็นเมืองไม่น่ารัก ผลกระทบที่เชียงใหม่มันลึกมากตอนนี้ แล้วยังตราตรึงอยู่อีกนาน นี่นับเฉพาะผลธุรกิจนะ เดี๋ยวนี้คนทำงานวงการธุรกิจท่องเที่ยวในเชียงใหม่นั้นบ่นกันเป็นแถวเลย หลายคนมีงานประจำตอนนี้ถูกให้ออกแล้วกลายเป็นรับเป็นชิ้นๆ จ๊อบๆ ไป

พี่น้องเป็นผมผมก็ไม่ไป จะไปได้ยังไงพี่น้อง เดี๋ยวเจอม็อบเสื้อแดงต้อนรับ ขู่ ออกวิทยุชุมชนว่าไอ้โน้นมาแล้วไอ้นี่มาแล้ว พี่น้องครับ ที่เสียหายไปมากกว่านั้นก็คือ รากเหง้าวัฒนธรรมเชียงใหม่ที่ฝังลึกลงไปใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ความอ่อนหวาน ความนุ่มนวล เขาเคยบอกว่า ภาษาคนใต้เป็นภาษาคนดุดัน แต่ภาษาคนเหนือ ไปไหนมาจ้าว คำว่า จ้าว ตอนนี้มันเจ๊งไปหมดแล้ว เพราะว่าคนเหนือถูกพวกเสื้อแดงทำร้ายทำลาย จนกระทั่งความนุ่มนวล ความอ่อนหวาน คนที่เคยศรัทธากับความสุภาพเรียบร้อยคนเหนือนั้น เขาหมดศรัทธาไปหมดแล้ว แล้วยิ่งมีรายการที่เข้าไปทำให้ทุกๆ อย่างมันแสดงออกว่าฝีมือความรุนแรงนั้นเกิดจากคนเหนือ โดยเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง จะยิ่งทำให้เสียหาย แต่มีข้อดีอย่าง

ตั้งแต่ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ซึ่งท่านเป็นตำรวจพันธมิตรฯ พี่น้อง ตำรวจพันธมิตรฯ ทำงานได้ผล ทำไมเขาถึงส่งคุณสมหมายไปอยู่เชียงใหม่ เพราะพื้นที่สีแดงของเชียงใหม่นั้นเป็นปฏิปักษ์กับคุณเนวิน ชิดชอบ แล้วคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ โกรธที่โดนหยามน้ำหน้าที่เชียงใหม่ หาตัวใครไม่เจอเลยต้องส่งตำรวจพันธมิตรฯ ไป ไม่อย่างนั้นไม่ส่งหรอกตำรวจพันธมิตรฯ คุณสมหมายไปเอาเชียงใหม่อยู่หมัด รัฐมนตรี 3 คนไปเชียงใหม่ ไม่มีเสื้อแดงกล้าโผล่เลยสักคนนึง แต่ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่เชียงใหม่จะสงบ เชียงใหม่ก็ยังมีความครุกรุ่นอยู่พอสมควร

ที่สำคัญที่สุด ภาพพจน์ของเชียงใหม่วันนี้มันถูกพังทลายหมดแล้ว แม้กระทั่งนักวิชาการ ครูบาอาจารย์บางคนในเชียงใหม่ ทำให้ชื่อเสียงเชียงใหม่เสียหมด เสียตรงที่ว่า มีครูบาอาจารย์หลายคนในเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น เป็นส่วนหนึ่งแกนนำกระบวนการล้มเจ้า ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ล้วนแล้วแต่อาจารย์ มช.หลายคนมาร่วมอยู่ในกระบวนการ สถาบันการศึกษาก็ไม่ชัดเจน จุดยืนไม่ชัดเจน กุ๊ยในเชียงใหม่ที่ใส่เสื้อแดงก็เยอะแยะเหลือเกิน แล้วเมืองเชียงใหม่มีอะไรเหลือละครับ ตอบผมหน่อยซิวันนี้ ผมยังไม่ถึงขั้นจะชักชวนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศไทย ว่าอย่าไปเที่ยวเมืองเหนือเลย เราไปเที่ยวเมืองที่เขารักชาติ รักบ้าน รักเมืองดีกว่า ผมพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะมีคนเชียงใหม่อีกไม่น้อยเขารักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัตริย์ แต่เขาเป็นพลังเงียบ เขาไม่กล้าออกมาปะทะกับใคร แล้วเขาไม่กล้าเป็นเป้าให้พวกกุ๊ย ขอประทานโทษผมใช้คำว่า กุ๊ย รังแกพวกเขา

พี่น้องครับ พักกันสักนิดนึง แล้วค่อยกลับมาพูดกันในตอนที่ 2 ต่อ

(เบรก)

กลับมาสู่ช่วงสุดท้ายของ Good Morning Thailand นะครับ เมื่อวานนี้ ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พูดว่า ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รุก 4 ด้าน ล้มรัฐบาล เลยทำให้ ปชป.ตั้งวอร์รูมขึ้นมา ก็ไม่มีอะไรใหม่ครับ คุณหมอบุรณัชย์ ถ้าจะเตือนความจำนิดหนึ่ง พันธมิตรฯ พูดมานานแล้ว ว่า ทักษิณใช้แนวรบทางการเมือง เพื่อก่อกวนทางการเมือง แนวรบที่ 2 ใช้มวลชน ก็คือ พวกเสื้อแดง เพื่อเอามวลชนนั้นมากดดันรัฐบาล สอดประสานกันระหว่างมวลชนของคุณทักษิณกับพรรคเพื่อไทย อันที่ 3 ก็คือ ใช้กระบวนการบางส่วนของข้าราชการในรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจ และสอดประสานรวมจนถึงสื่อมวลชนส่วนใหญ่ ที่ยังทำทองไม่รู้ร้อน

เมื่อเช้านี้ เผอิญผมได้เห็นรายการของ อาจารย์สุขุม นวลสกุล ผมก็ไม่ได้ประหลาดใจ คุณสุขุม นวลสกุล เป็นคนของคุณทักษิณ 100% ชัดเจน ช่อง 3 ก็ยังเป็นช่อง 3 อยู่เหมือนเดิม พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์อย่างยิ้มเยาะ แต่พอพูดถึงเสื้อแดงแล้วอ่อนหวานชดช้อย ไม่มีอะไรเปลี่ยน สถานการณ์ทางสื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ข่าวสด หนังสือพิมพ์มติชน หรือบางครั้งอย่างเช่น หรือหลายๆ ครั้งในช่วงหลัง หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และเดลินิวส์ ก็เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเขามีสื่อมวลชนและคอลัมนิสต์หลายคนอยู่ในมือที่พร้อมสนับสนุนพวกเขาอยู่

และแนวรบด้านที่ 4 คือ ต่างประเทศ นายใจ หรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง คือ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ซึ่งเป็นผู้วางยุทธศาสตร์ในการเอาโล่ล้อมประเทศ แต่ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ นั้น เป็นบุตรชาย นายประยูร วิญญรัตน์ อดีตกรรมการธนาคารกรุงเทพ มีพี่ชายชื่อ นายสรดิษฐ์ วิญญรัตน์ ซึ่งอดีตเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกรุงเทพ และมีพี่เขย ชื่อ นายเดชา ตุลานันท์ ซึ่งปัจจุบันก็เป็นผู้บริหารระดับสูงมากๆ ของธนาคารกรุงเทพ

นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตเป็นประธานที่ปรึกษาของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ สนิทกับผมมาก รู้ดี ผมไม่อยากจะพูดคนนี้ นายคนนี้เขารู้ดีว่าชีวิตเขาถ้าไม่มีผม เขาไม่มีวันนี้หรอก แต่ช่างมันเถอะเรื่องนี้ สำคัญคนๆ นี้ เขามองชาติบ้านเมืองคนละแบบกับผม คนละแบบ เขามองชาติบ้านเมืองไม่ใช่ในแบบที่ผมมอง และไม่ใช่ในแบบที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมอง นายพันศักดิ์ คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของ นายพอล เฮนรี ซึ่งเป็นคนเขียนหนังสือชื่อ The King Never Smiles และ นายพันศักดิ์ คนนี้เป็นผู้มีสายสัมพันธ์ในบรรดาสื่อมวลชนต่างประเทศ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ

แนวรบแบบนี้ คุณหมอครับ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผมนั้นรู้มานานแล้ว พรรคเพื่อไทย คุณทักษิณ เขามีมวลชนของเขา ที่ผมอยากให้คุณหมอกลับไปถาม คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีมวลชนของท่านหรือเปล่า ท่านอาจเคยมี ถ้าเคยมี มวลชนท่านออกมาปกป้องอะไรพวกท่านได้บ้างไหม ธรรมดาแล้วถ้าท่านมีมวลชนจริง พวกเสื้อแดงไปไล่ท่าน ต้องมีมวลชนท่านออกมาต้าน แต่ท่านไม่มี คิดให้ดีๆ นะครับ สงครามครั้งนี้ หนังเรื่องนี้ เป็นหนังชีวิตไม่จบง่ายๆ หนังเรื่องนี้ยังยาว ถ้าท่านทิ้งมวลชนที่มีอุดมการณ์เหมือนท่าน แล้วท่านยืมมือคนอื่นมาฆ่ามวลชนที่เขาทำงานเพื่อท่าน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความโดดเดี่ยวในชีวิตท่านจะเกิดขึ้น ผมเตือนท่านก่อน

ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ท่านก็พูดเล็กน้อย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องคุณทักษิณโฟนอิน ท่านก็พูดโดยสรุปว่า ไร้สาระ ทักษิณนั้น พูดจามีสาระยังไงต้องพิจารณาด้วยตัวเอง แล้วคุณทักษิณก็ฟาดงวงฟาดงาต่อไปถึงผู้บังคับบัญชาของ พล.อ.อ.อิทธพร ท่านบอกว่า ทักษิณ บอกว่า เสียใจที่ตั้ง คุณชลิต พุกผาสุข คุณทักษิณจะเสียใจหมดกับใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับเขา และกับใครก็ตามที่ไม่ทำตามเขา

พี่น้อง ถ้ากระบวนการยุติธรรม ถ้าเขามั่นใจว่า เขาซื้อกระบวนการยุติธรรมได้ และเขามั่นใจว่าเขามีอำนาจ เขาจะกลับมากราบแผ่นดินอย่างที่ท่านเห็น และเขาก็จะบอกว่า เขาต้องการกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ผลออกมาอย่างไรเขายอมรับหมด เหมือนกัน พี่น้องจำได้รึเปล่าว่า วันที่ศาลรัฐธรรมนูญประกาศยุบพรรคไทยรักไทย ก่อนหน้าจะมีการอ่านคำพิพากษา ทั้งคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ทุกคนบอกว่า ศาลพิพากษาอะไรออกมาจะเห็นด้วย จะยอมรับหมดทุกอย่าง จะไม่ว่าอะไรสักคำ พี่น้องจำได้หรือเปล่า แต่ปรากฏว่า พอศาลอ่านออกมาจริง คุณจาตุรนต์คนแรก เป็นคนเลียน้ำลายที่ตัวเองถุยลงไป บอกว่าผมไม่ยอมรับคำพิพากษานี้ เหมือนคุณทักษิณเหมือนกัน คุณทักษิณจะไม่ยอมรับเป็นอันขาดถ้าทำอะไรผิดออกมาแล้ว ถูกจับผิดได้ ก็จะไม่ยอมรับ แต่ถ้าตัวเองคิดว่า ตัวเองซื้อได้ เรื่องอีกหน่อยจะเรียบร้อย ก็จะพูดคำหวาน เหมือนอย่างที่กลับมากราบแผ่นดินไง เพราะมั่นใจว่า อำนาจที่ตัวเองมีอยู่สามารถเปลี่ยนโฉม สามารถแก้รัฐธรรมนูญ สามารถยกเลิกความผิดตัวเองได้ แต่คุณทักษิณประมาทพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาทจิตใจความรักชาติ รักแผ่นดินของพวกเราอย่างมหาศาล ก็เลยทำให้คุณทักษิณ หลังจากที่พยายามสืบสวนมาตลอดเวลาก็ค้นพบว่า ตายแล้ว คดีที่ดินรัชดา ตัวเองไม่รอด ก็เลยต้องหนีไง คุณทักษิณเขามีเส้นสายในวงการยุติธรรม

อย่าลืมว่าน้องเขยเขา สมชาย วงศ์สวัสดิ์ คืออดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้พิพากษาเก่า ผู้พิพากษารุ่นเขามีเยอะไปหมด หลายคนยังรับเงินรับทองเขาอยู่ ต้องกระซิบกระซาบ เขาก็ใช้เครือข่ายเขาช่วยเขาและกระทืบผม เป็นของธรรมดา เพราะฉะนั้นแล้วไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว กับคำพูดคุณทักษิณ อย่าไปสนใจมัน

เมื่อวานนี้ ครม.ก็ประกาศมีมติว่า ให้เพิ่มวงเงินขยายสุวรรณภูมิเฟส 1 ให้อีกหมื่นกว่าล้าน ตลอดจนท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านก็พูดจาเชิงไม่ใช่เป็นคำสั่ง แต่เชิงว่าให้การย้ายสนามบินดอนเมืองเป็นเรื่องที่กระทรวง หรือเรื่องที่การบินไทยต้องตัดสินใจ ก็เขาทางปืนของกระทรวงคมนาคม ซึ่ง คุณโสภณ ซารัมย์ แท้ที่จริงแล้ว เจ้ากระทรวงที่แท้จริง คือคุณเนวิน ชิดชอบ อยู่เบื้องหลัง พูดง่ายๆ ว่าอยากย้ายดอนเมืองกลับสุวรรณภูมิ ก็ย้ายเป็นอำนาจของการบินไทย ก็น่าเห็นใจ มันใกล้แหละที่จะลงคะแนนเสียง อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทีมคุณเนวินก็ยื่นเรื่องยื่นราวของบหมด แม้จะงบทางหลวงก็ขอเข้ามาก็ผ่านหมด จำเป็นต้องให้พี่น้อง จำเป็นต้องให้เพื่อรักษารัฐบาลนี้ให้อยู่รอดต่อไป

คำถามคือ ต้องจำเป็นต่อไปอีกนานแค่ไหน ชาติบ้านเมืองวันนี้เหลือแต่กระดูกแล้ว การโกงกิน คอร์รัปชัน มันยังไม่หยุดเลย มันเข้าสู่ปอด สู่ตับแล้ว กระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงที่ต้องใช้เงินใช้ทองอย่างมากมายมหาศาล สนามบินสุวรรณภูมิขยายเป็นรันเวย์ที่ 3 อีก 75,000 ล้าน พี่น้อง กลับไปคิดให้ดีๆ จริงๆ แล้วเรากำลังจะไปรอด หรือเราเดินสู่หุบเหวหายนะกันแน่

พี่น้องครับ อีกข่าวคือ ข่าวคุณสาทิตย์ จะปฏิรูปช่อง 11 โละผัง ดีเดย์ คุณสาทิตย์ต้องการดันทีวีแห่งชาติ 1 เมษายน ก็อย่างว่านะครับ ถ้ารู้จักคุณสาทิตย์ดี ก็ต้องเห็นว่าท่านเป็นคนทำงานระมัดระวังอย่างมาก ผมเพียงอยากเตือนท่านนิดหนึ่ง เวลานี้ไม่ใช่เวลาปฏิรูปสื่อ เสียเวลา การปฏิรูปสื่อจะใช้เวลา แต่เวลานี้ถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญ ช่วงสงคราม เมื่อเป็นช่วงสงครามจะไปค่อยๆ ทำแต่ละเรื่องไม่ได้หรอก ผมฝากไว้แค่นี้เอง ผมไม่มีความเห็นอะไรมากกว่านี้ ผมรู้สึกว่า เวลาไฟไหม้บ้านนั้น การดับไฟต้องดับทันที ฉับพลัน ไม่ใช่มัวแต่วิ่งไปเตรียมตัว ระวัง ถ้าสาดน้ำแรงไฟเฟอร์นิเจอร์จะเปียก ไม่ได้ครับ ถ้าต้องสาดน้ำต้องสาด ถ้าต้องทุบผนังออก เพื่อไม่ให้ไฟลามก็ต้องทำ ไฟอันนั้น คือไฟแห่งความเข้าใจผิด และไม่ใช่ช่อง 11 ครับ พี่น้อง มันทุกช่อง บางครั้ง คุณสาทิตย์ มุ่งเป้าผิดไปรึเปล่า ไปที่ช่อง 11 ช่อง 11 นั้นไม่มีความหมาย พี่น้อง รู้ไหมเรตติ้งช่อง 11 ยังต่ำกว่า ASTV TPBS นี่ต่ำสุด ของเราอยู่ระหว่าง ช่อง 5 ช่อง 9 และ ASTV ผลัดกันเป็นผู้นำ บางช่วงละครเขาดี เขาก็ดันขึ้นมา สลับกันไปมา อย่างรายการผมวันศุกร์ ผมก็ชนะช่อง 9 ช่อง 5 อยู่อันดับ 3 ช่อง 3 อันดับหนึ่ง ช่อง 7 อันดับ 2 และพวกเราอันดับ 3 เพราะฉะนั้น คุณสาทิตย์ มุ่งเป้าผิดเกินไปหรือเปล่า ผมดูแล้ว ช่อง 11 ทำยังไงก็ไม่โต ลำบากนะครับ

อีกข่าวหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวที่ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ คือ กองทุน กบข.พี่น้อง กองทุน กบข.จำได้ไหม ผมเคยพูดว่า เป็นกองทุนที่ทำงานไม่โปร่งใส ผมบอกกองทุน กบข.นั้นเอาเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการไปเล่นหุ้น ไปซื้อตราสารหนี้ที่เมืองนอก กองทุน กบข.คุณวิสิฐ ผมจำนามสกุลไม่ได้ คุณวิสิฐ เป็นคนที่พยายาม คุณวิสิฐ มาจากไหน มาจาก AIG บริษัทที่พึ่งพาการช่วยเหลือของรัฐบาลอเมริกันด้วยเงินช่วยเหลือถึง 6 ล้านล้านบาท และที่ถูกบารัค โอบามา ออกมาตำหนิอย่างรุนแรง ว่า บริษัทขาดทุนนาทีละ 18 ล้านบาท ยังอุตส่าห์ประกาศจ่ายโบนัสให้อีก 5,000 กว่าล้านบาท กับอดีตผู้บริหาร

ผมเคยพูดตลอดเวลาว่า กองทุน กบข.ไม่โปร่งใส ไม่โปร่งใสตรงไหน เมื่อเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการพลเรือน การจะเอาเงินไปลงทุนอะไร ต้องมีรายละเอียดออกมาสู่สาธารณะ อย่างละเอียด ทุกๆ 3 เดือน ต้องมี และต้องตอบคำถามได้ ในเมื่อคุณเอาเงินชาวบ้านเขามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการ ซึ่งเขาทำงานทั้งชีวิต เขาฝากไว้ เขาหวังเงินบำนาญก้อนนี้ ในที่สุด เมื่อจบแล้วเขาจะได้รวมทั้งเงินสะสมที่รัฐบาลเพิ่มให้ จะเป็นเงินก้อนที่เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ ผมเป็นคนเปิดกับสังคมไทยเอง ว่า กองทุน กบข.มีปัญหา และผมก็รู้ข้อเท็จจริงหนังสือพิมพ์เพิ่งลง ว่า กองทุน กบข.นั้นเอาเงิน กบข.ไปลงทุนในหุ้น ชื่อหุ้น "ยานภัณฑ์" ซึ่งเป็นหุ้นปั่นพี่น้อง สรุปง่ายๆ ในวงการ เขาบอกว่า คนในกองทุน กบข.กับผู้ปั่นหุ้นจับมือกัน หุ้นตัวใดก็ตามที่มีนักเล่นหุ้นไปปั่น และหุ้นทำท่าจะตก ไอ้พวกนักเล่นหุ้นบางคนที่ถือหุ้นอยู่อยากจะขายเพื่อเอากำไรสูงๆ ก็ขอให้ใช้สายสัมพันธ์ส่วนตัว หรือคนในกองทุน กบข.เอาเงิน กบข.เขาไปซื้อหุ้นเพื่อพยุง ระหว่างเงินทุน กบข.เข้าไปซื้อหุ้นพยุงนั้น ไอ้นักปั่นหุ้นซึ่งมีคนของกองทุน กบข.แล้วมีคนในตลาดหลักทรัพย์บางคน ในระดับกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ร่วมด้วยก็จะเทหุ้นตัวที่ตัวเองปั่นไว้ขายลงไป แล้วใครเป็นคนแบกภาระขาดทุน กองทุน กบข.ไงละพี่น้อง หรือเอาเงินนั้นไปลงทุนตราสารหนี้ที่เมืองนอก เจ๊งหมดแล้ว ผมเชื่อว่าถ้าตรวจสอบดีๆ กองทุน กบข. เจ๊งมากกว่า 70,000 กว่าล้าน ผมว่า เป็นแสนล้านพี่น้อง เป็นแสนๆ ล้าน เพราะฉะนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้ ก็เลยมีการตั้งคำถาม

เมื่อวานนี้ องค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข.แห่งประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูจากอีสาน ประมาณ 300 คน มารวมตัวที่ทำเนียบรัฐบาล และเรียกร้อง 3 ข้อ ให้ยกเลิก กบข. กบข.ไม่ต้องยกเลิกก็ได้พี่น้อง แต่ขอให้เปลี่ยนตัวผู้บริหารกองทุน กบข. เพราะมาทำตัวไม่โปร่งใสเลย และตั้งระบบตรวจสอบและที่สำคัญบังคับให้มีการกระทำที่โปร่งใสทุกขั้นตอน ทุกบาททุกสตางค์ต้ องบอกว่าเอาไปใช้อะไรบ้าง ให้คืนเงินสะสม เงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ส่วนอื่นโดยเร็ว และ 3.ให้เลขาธิการ กบข.และคณะกรรมการบริหาร กบข.ร่วมชดใช้ค่าเสียหายสมาชิกโดยไม่มีเงื่อนไข คุณวิศิษฐ์ ครับ ความหล่อของคุณ ความเท่ของคุณ ใส่เสื้อนอกไปเรื่อย เดินทางต่างประเทศ พูดภาษาประกิตนั้น มันมาถึงจุดจบแล้ว ผมเคยเตือนมาหลายครั้ง และพี่น้องครับ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้เปิดประเด็นกองทุน กบข.เป็นคนแรก

อีกข่าวหนึ่ง เมื่อวานนี้ คุณอภิสิทธิ์ ดันแผนเศรษฐกิจรอบใหม่ อัดฉีดเงินลงทุน 1.4 ล้านล้านบาท มีผลไปในอนาคตอีกประมาณ 2 ปี คือ เป็นงบประมาณผูกพัน ผมเป็นห่วงพี่น้อง ผมเป็นห่วงเรื่องนี้มาก ผมเป็นห่วงเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของท่านนายกฯ มาก เพราะการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ท่านนายกฯ ต้องการฟื้นฟู ผมไม่รู้ท่านเน้นตรงไหน แต่ถ้าถามผมแล้ว ผมอยากให้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่มันลงไปสู่ระดับ SMEs จริงๆ ระดับผู้บริหาร ระดับเล็ก ระดับกลาง มีเงินทุนราคาถูก เงินกู้ที่คนซึ่งพ่อค้าแม่ขาย หรือคนระดับทำมาหากิน มีกิจการ 1 คูหา 2 คูหา โรงงานเล็กๆ ระดับกลาง สามารถหาแหล่งเงินกู้ได้ โดยไม่ถูกขูดรีด และอัตราดอกเบี้ยไม่ควรต่ำกว่าเจ้าใหญ่ๆ ควรจะเท่ากัน ผมไม่ต้องการให้รัฐบาลเดินทางผิดด้วยการเอาใจธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเอาใจธุรกิจส่งออก วันนี้ ธุรกิจส่งออกมันฟุบ

พี่น้อง ต้องดูให้ดีๆ ประเทศทุกวันนี้ที่พังทลายคือประเทศที่พึ่งพาการส่งออก ทำไมสิงคโปร์ถึงฟุบมากที่สุด เพราะ 80% ของสิงคโปร์ คือ การส่งออก ทำไมญี่ปุ่นถึงฟุบ เพราะส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นคือการส่งออก ไต้หวันฟุบก็เพราะส่งออก เกาหลีฟุบก็เพราะส่งออก เราเจอไอ้วงจรบ้าๆ หมุนกลับมาตลอดเวลา แต่เราไม่เคยจำ พี่น้อง วันนี้ก็มาส่งเสริมการส่งออกอีก ส่งออกไม่ต้องส่งเสริม พี่น้อง เราดูได้เลยในบรรดาสินค้าส่งออก 100 อย่าง ถามตัวเองว่า ใน 100 อย่างมีกี่เปอร์เซ็นต์ ที่เศรษฐกิจขึ้นหรือลงมันก็ไปได้ดี เก็บตรงนั้นไว้ ส่วนที่เหลือแทนที่จะไปส่งเสริม มาเล่นไพ่นะพี่น้อง เวลามือมันตก พี่น้องใส่เงินเท่าไร มันก็ตก โดนกินเรียบ เหมือนกัน กำลังซื้อคนมันไม่มี ทั่วโลกไม่มีใครซื้อของกัน เมื่อไม่มีใครซื้อจะไปส่งเสริมธุรกิจอันนั้น ธุรกิจอันนี้ เพราะมันตกที่มันตกเพราะเขาไม่ซื้อ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การส่งเสริม ประเด็นอยู่ที่กำลังซื้อทางเมืองนอกไม่มี เมื่อมันไม่มีไม่ต้องส่งเสริม ส่งเสริมทำไม ลงหุบเหว เอาเงินก้อนนั้น มาปล่อยสินเชื่อ หรือเอาเงินก้อนนั้นมาทดแทนดอกเบี้ยแขกได้ไหม ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน ร้อยละ 10 ต่อเดือน ร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือบางเจ้า ร้อยละ 1 ต่อวัน เอาตรงนี้ดีกว่า เชื่อผมซิ เพราะฉะนั้น ผมเกรงว่า มาตรการ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในแบบอย่างที่ตะวันตกกำลังทำอยู่ คือ ตะวันตกกำลังบอกให้ทุกประเทศ เอาเงินทุ่มลงไป เขามองอย่างนี้ เมื่ออเมริกาทุ่มลงไปแล้ว อังกฤษทุ่มเงินลงไปแล้ว ยุโรปทุ่มเงินลงไปแล้ว ญี่ปุ่นทุ่มเงินลงไปแล้ว เอเซียทุ่มเงินไปแล้ว เศรษฐกิจก็จะฟื้น แต่ฟื้นเข้ามาในระบบวงจรอุบาทว์ตามเดิม และอีกไม่กี่ปีก็ฉิบหายต่อไป ประชาชนก็ลำบากต่อไป

ผมอยากเห็นกระบวนทัศน์เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เป็นเพียงลมปาก เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม ข้อแรกคือ ให้หยุดขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 1 ที่จะสร้างลานบินที่ 3 75,000 ล้าน ขยายทำไม แล้วดอนเมืองลงทุนไปแสนกว่าล้าน ทิ้งไว้ทำอะไร กล่าวคือ หยุดการขยายงานที่ไม่จำเป็น เท่ากับหยุดการคอร์รัปชั่น

พี่น้องครับ บ้านนี้เมืองนี้ มันจะอยู่ไม่ได้แล้ว คุณทักษิณและพวกกินประเทศหมด และพวกคุณทักษิณยังจาบจ้วงสถาบันฯ มาชุดใหม่บอกว่า ไม่จาบจ้วง เล่นงานคนจาบจ้วง แต่กูขอกินต่อไป ได้ไหม นี่ไง ความน่ากลัวของประเทศไทย และนี่ไง ว่า ทำไมเขาถึงเกลียดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะไอ้พวกเราเป็นพวกหัวแข็ง พูดแล้วเขาไม่ฟัง

เมื่อวานนี้ สั้นๆ นะครับ ก่อนจะกลับสู่ข่าวสุดท้าย คุณอังคณา นีละไพจิตร เป็นข่าวมา แต่ผมไปเจอคุณอังคณาที่ศาลแพ่ง คุณอังคณาไปศาลแพ่งเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อประกาศให้คุณสมชาย นีละไพจิตร เป็นผู้หายสาบสูญ คือไม่มีชีวิตแล้ว เพื่อคุณอังคณาจะได้ไปจัดการกับกรรมสิทธิ์ของตัวเองได้ ทรัพย์สินหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นอะไรที่เป็นชื่อคุณสมชาย คุณอังคณาจะได้จัดการได้ ชีวิตจะได้เดินหน้าต่อไป พี่น้องครับ คุณอังคณาเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารมาก และน่าชมเชยด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็ก สามี เป็นทนายความที่สู้เพื่อความเป็นธรรม สู้ให้พี่น้องชาวมุสลิม แต่ถูกตำรวจชั่วๆ ไม่กี่คน โกรธที่คุณสมชายเป็นทนายความและปกป้องว่าความให้จำเลยที่ตำรวจจับมา และหลุดทุกคดี และแต่ละคดีที่หลุดนั้น หลุดมาเนื่องจากตำรวจสร้างหลักฐานเท็จ พี่น้องจำไว้นะ ไปดูได้ ศาลพิพากษาหมด สร้างหลักฐานเท็จ พยานหลักฐานของโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ คือ โกหก นี่ไงพี่น้อง เสร็จแล้ว ด้วยความโกรธว่าถ้ากำจัดสมชาย นีละไพจิตร ซะ อีกหน่อยกูจะจับไอ้พวกแขกทางใต้ กูว่าความใส่คดีอะไรก็ตาม มึงก็ตาย และมีคดีหนึ่ง พี่น้องชาวมุสลิมถูกทรมาน ถูกกรอกเยี่ยวใส่ปาก ถูกกรอกเหล้าใส่ปาก คนมุสลิมจะไม่กินเหล้า และคุณสมชายเป็นคนว่าความให้ จนกระทั่งหลุดออกมา หลุดออกมาแล้วพวกนี้ไปฟ้อง ป.ป.ช.โดยคุณสมชาย เป็นผู้นำ คดีความพิพากษาไปแล้วที่อนุกรรมการชุดเล็ก ว่า ตำรวจชุดนั้นผิด แต่เรื่องค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.เกือบ 2 ปี ยังไม่เข้าชุดใหญ่เลย เพราะเข้าชุดใหญ่เมื่อไร ผิดเมื่อไร ตำรวจที่มีชื่อถูกกล่าวหาต้องหลุดราชการทันที ผมรู้จักหลายคนด้วย ยศตั้งแต่ พลตำรวจโทลงมา

พี่น้อง จำคำพูดที่ผมพูดได้ไหม เมื่อวานที่ผมพูดถึงท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ท่านบอกว่า ท่านเสียดายที่ตำรวจพูดอะไรไม่มีใครเชื่อ ท่านให้กำลังใจ ท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลครับ ฟังเรื่องราวที่ผมพูดวันนี้ แล้วท่านรู้สึกยังไง คนจะเชื่อคุณได้ไง ก็พวกคุณมันชั่ว กลั่นแกล้งคน ตำรวจดีๆ ไม่เคยได้เป็นตำรวจ ตำรวจชั่วเท่านั้นถึงได้เป็นใหญ่ เป็นโต เพราะว่า พร้อมทำความชั่วให้นาย และนายก็พร้อมทำความชั่วให้นักการเมือง นี่คือตำรวจ คุณจะมาเรียกร้องความเห็นใจยังไง เหมือนคุณพัชรวาท บอกว่า ทำให้ตำรวจเสียกำลังใจ ผมจะบอกให้ ปัญหา 70% ของชาติบ้านเมืองเกิดจากตำรวจ ปัญหาคนเสื้อแดง ถ้าไม่ใช่ตำรวจหนุนหลังจะเกิดได้ไหม และที่ผมรับไม่ได้ คือคำพูด พล.ต.อ.พัชรวาทที่บอกว่า ตำรวจไม่ได้ฆ่าประชาชน วันนี้อากาศยังเช้าอยู่ ผมไม่อยากจะพูดคำหยาบ

พี่น้องครับ ข่าวสุดท้ายก่อนที่เราจะไปเจอพี่ปอง และน้องเก๋ ความจริงความชิ้นนี้ มันเป็นข่าววงการดาราเกาหลี มันไม่มีอะไรหรอก แต่มันมีนัยพี่น้อง เมื่อเร็วๆ นี้ มีดาราเกาหลีชื่อ จอง จายอน ฆ่าตัวตาย และที่สุดแล้วมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งออกมา จอง จายอน บอกว่า ตัวเองฆ่าตัวตายไม่ใช่เพราะปัญหาครอบครัว แต่ปัญหาเพราะตรอมใจ พี่น้อง เขาตรอมใจที่ว่า ชีวิตเขานั้น ถูกบังคับให้ต้องไปหลับนอนกับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ละคร หลับนอนไม่พอ ยังถูกส่งต่อไปหลับนอนกับคนอื่นอีก ปฏิเสธก็โดนทุบตีด้วยขวด เขารับไม่ได้ เขารับไม่ไหว เลยต้องฆ่าตัวตาย และปรากฏว่า ดาราเกาหลีฆ่าตัวตายหลายคน มันยังมี 3 สาว เช่น จอง ดาบิน ชอย จินซิล สองสาว ดาราสาวฆ่าตัวตาย ปีสองปีก่อน สรุปแล้ว 3 คน ฆ่าตัวตายแล้ว 3 ครั้ง เรื่องอะไรรู้ไหม เรื่องถูกเจ้าของรายการ เจ้าของละคร หรือ เจ้าของฝ่ายผลิตจับเข้าไปบังคับให้นอน ประเด็นอยู่ที่ว่า อย่างน้อยที่สุด ผมเห็นว่าดาราเกาหลียังมีคุณธรรม มีจริยธรรมกับตัวเอง รักตัวเอง รักศักดิ์ศรีตัวเอง เขารู้ว่าเป็นดาราได้ด้วยฝีมือ แต่เมื่อถูกบังคับให้จะต้องทำเช่นนั้น เขาอยู่สภาวะจำยอม เขาสู้ไม่ได้ เขาเขียนเลยนะตอนนั้นเขามีปัญหาเรื่องเงินเลยต้องยอม เพราะถ้าไม่ยอม เขาก็ไม่ได้เล่นละคร ไม่ได้เป็นดาราดัง โอกาสที่เขาจะฟื้นฟูชีวิตทางเศรษฐกิจก็ลำบาก เขาเลยต้องจำยอมไป แต่ทำไปทำมา มโนธรรมเขา สั่งว่า ไม่ได้นะ กูต้องพิสูจน์อะไรบางอย่างให้สังคมเห็น คือการฆ่าตัวตาย

ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ มันช่างตรงกันข้ามกับดาราไทย ดาราไทยพร้อมนอนกับเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ไม่ใช่ ASTV นะไม่ต้องกังวล เพราะ ASTV ไม่มีละคร พร้อมนอนกับผู้กำกับ และในข่าวบอกว่า คนที่สงสัยที่สุด มันชื่อ นายคิม ซัง ฮุน เจ้าของบริษัท คอนเทนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (Content Entertainment) ต้นสังกัด จอง จายอน น่าสงสัย เขาบอก เห็นหรือยัง เกาหลีจะดีๆ ชั่วๆ เรื่องมโนธรรม เรื่องคุณธรรม เรื่องศักดิ์ศรีคนสำคัญ พี่น้อง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังเรียกศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยกลับมาสู่สังคมไทย ด้วยความเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ และสุดท้าย สามารถ ต้องมีความสามารถ

พี่น้องครับ วันนี้ Good Morning Thailand เลยเวลาไป 1-2 นาที นะครับ กำลังดี จำเป็นต้องจากลาพ่อแม่พี่น้องไปวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยมาพบกันใหม่ ขอประทานโทษวันนี้ CG ไม่ทำงาน ปัญหา ASTV มันเป็นอย่างนี้ละพ่อแม่พี่น้อง ไอ้คนซึ่งต้องรับผิดชอบด้านเทคนิค มันโคตรห่วยแตกเลย พ่อแม่พี่น้องครับ สวัสดีครับ