xs
xsm
sm
md
lg

ชิงลงมือรุก “ตัดเกม” ก่อนถูกบีบเข้ามุมอับ !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
หากเกมในสภาไร้น้ำหนัก ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่นำไป เป็นเงื่อนไขสู่การนำม็อบคนเ สื้อแดง มาขับไล่รัฐบาล เพื่อสนองอำนาจของนักโทษหนีคดีอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว และนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ต้องชิงตัดเกมร่นเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ให้มาบรรจบกับเกมมวลชนนอกสภา

การประกาศร่นเวลาอภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 19-20 มีนาคม แล้วให้ลงมติกันในวันที่ 21 มีนาคม จากเดิมที่กำหนดเอาไว้วันที่ 26-27 มีนาคม แล้ววันรุ่งขึ้นก็ลงมติวัดดวงกันไป แต่เมื่อเปลี่ยนเกมเล่นกะทันหันแบบนี้ ทำเอาฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทย อึ้ง!! ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว

เพราะจะมาโวยวายว่าไม่พร้อมก็พูดไม่ออก อย่างมากเท่าที่ทำได้ก็คือ ยื้อขยายเวลาการอภิปรายออกไป

รู้กันอยู่แล้วว่าฝ่ายที่กำหนดเกมเล่นในครั้งนี้เป็นการประสานงานกันอย่างลงตัวระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร ชัย ชิดชอบ กับรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เพราะพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมทั้งภายใน ภายนอกที่รุมเร้าเข้ามาตามตารางเวลา บีบรัดให้ทุกอย่างต้องมาบรรจบกันในวันที่ 28-29 มีนาคมนี้ วางเป้าหมายสูงสุดคือ โค่นล้มรัฐบาลให้ได้ แล้วสถาปนาอำนาจคืนให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือถ้าไม่ได้ตามเป้าหมายสูงสุด อย่างน้อยก็เพิ่มแรงกดดันต่อรองเป็นฝ่ายได้เปรียบ

หากสังเกตทีละประเด็นก็จะเห็นภาพชัดเจน เริ่มจากปัจจัยภายในสภา นั่นคือมีทั้งการยื่นกระทู้ป่วนทุกสัปดาห์ และล่าสุดได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน

อย่างไรก็ดี เมื่อดูในรายละเอียดข้อกล่าวหา หรือประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาอภิปราย แทบทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องเก่าเก็บ และไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน

บางเรื่องยังไปเกี่ยวข้องพาดพิงบุคคลภายนอก เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่ากันไปโน่น

ว่ากันตามรูปการณ์ พิจารณาจากข้อกล่าวหาในญัตติซักฟอกที่ยื่นเข้าสภา รวมทั้งญัตติที่ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อประธานวุฒิสภาก่อนหน้านี้ ทำให้หลายฝ่ายที่ติดตามการเมืองมาตั้งแต่ต้นล้วนสรุปตรงกันว่า “หน่อมแน้ม” เต็มที

เมื่อเกมเขย่ารัฐบาลในสภาดูแล้วไร้น้ำหนัก ก็ต้องมาโฟกัสกันที่ “เกมนอกสภา” ซึ่งต้องไล่เรียงกันมาตั้งแต่ต้น เพราะเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน เริ่มตั้งแต่การโหม“โฟนอิน” ปลุกระดม “คนเสื้อแดง” ผ่านทางรายการ “ความจริงวันนี้” ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างถี่ยิบวันละสองสามเวลา ไม้เว้นงานใหญ่งานย่อย

มีคิวเดินสายระดมพลทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ไล่ดะไปตั้งแต่ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และปิดท้ายกันที่ภาคเหนือคือ เชียงใหม่ เชียงราย จากนั้นก็จะระดมพลครั้งใหญ่ ดีเดย์เข้ามาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 28 หรือ 29 มีนาคมนี้

ขณะเดียวกันยังมีโปรแกมตามป่วนคณะรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ในทุกจังหวัด เพื่อทำลายเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือ หรือแม้กระทั่งต้องการข่มขู่ให้กลัว จนไม่กล้าลงพื้นที่สร้างเขตปลดปล่อยให้ฝ่ายเสื้อแดง

ล่าสุดรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ประสบมาแล้วที่ปทุมธานี ที่เจอทั้งปาไข่ ขวดน้ำ รวมทั้งระเบิดปิงปองข่มขู่

นอกจากนี้ยังโหมใช้ยุทธวิธีโลกล้อมประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อนอกโจมตีรัฐบาลไทย กระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง และยังรวมไปถึงการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกันของ ใจ อึ้งภากรณ์ นักวิชาการที่หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

ทุกความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาทั้งหมดเพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนหวั่นเกรงกันว่ามีเจตนาสร้างความรุนแรง สร้างความปั่นป่วน และถือว่าวันชุมนุมใหญ่วันที่ 29 เดือนนี้ นับว่าอันตรายยิ่งนัก

การที่รัฐบาลได้เลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมาเป็นวันที่ 19-20 มีนาคม ถือว่าเป็นการลดแรงกดดันภายในสภาก่อน โดยปล่อยให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายได้อย่างเต็มที่ ทางหนึ่งเชื่อว่าข้อมูลที่นำมาถล่มนั้น ยังไม่มีน้ำหนักจนเป็นแรงบีบถึงขั้นล้มรัฐบาลได้ อีกทั้งถือว่าได้เปิดทางให้ใช้วิถีทางในสภาอย่างเต็มที่แล้ว

ดังนั้นหากเกมในสภาไร้น้ำหนัก ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่นำไป เป็นเงื่อนไขสู่การนำม็อบคนเ สื้อแดง มาขับไล่รัฐบาล เพื่อสนองอำนาจของนักโทษหนีคดีอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว

และนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ต้องชิงตัดเกมร่นเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ให้มาบรรจบกับเกมมวลชนนอกสภา ชิ่งหนีพ้นมุมอับออกมาเสียก่อน !!

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
กำลังโหลดความคิดเห็น