เอแบคโพลล์ระบุ ปชช.เกินกว่าครึ่งเชื่อว่า หาก “ทักษิณ” หยุดเคลื่อนไหวแล้วประเทศไทยจะกลับสู่ภาวะปกติ และเกินครึ่งไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดเสนอให้มีร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เพื่อการนิรโทษกรรม ร้อยละ 48.3 เชื่อมือ “รบ.มาร์ค” มีวิสัยทัศน์ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ร้อยละ 54.2 ไม่เชื่อ"แม้ว"หากกลับมาเป็นนายกฯจะไม่กู้เงิน
วันนี้ (15 มี.ค.) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผล “เอแบคเรียลไทม์โพลล์” ในหัวข้อเรื่อง “ถอดรหัสวาทะทักษิณ ในความเชื่อหรือไม่เชื่อของคนไทย” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 18 จังหวัดของประเทศ จำนวน 2,128 ตัวอย่าง หลังจากที่มีข่าวการโฟนอินและการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา พบว่า เมื่อถามความเชื่อของประชาชนว่ารัฐบาลจะสามารถนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทยได้หรือไม่ เกินกว่าครึ่ง หรือร้อยละ 52.8 ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะนำตัวกลับมาได้ และร้อยละ 57.7 ไม่เชื่อตามคำกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ว่า นายอภิสิทธิ์ เร่งให้ส่งตัวกลับประเทศ เพราะมีเป้าหมายทางการเมืองและต้องการให้ขายหน้าเท่านั้น
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์กล่าวอีกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 48.3 ไม่เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะทำงาน ขาดวิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ร้อยละ 45.8 เห็นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะทำงานต่อไปได้ไม่เกิน 1 ปี
นอกจากนี้ ประชาชนครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 50.5 เชื่อว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดเคลื่อนไหวแล้วประเทศไทยจะกลับสู่ภาวะปกติ และร้อยละ 50.4 ไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดเสนอให้มีร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติเพื่อการนิรโทษกรรม อีกทั้งส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 54.2 ไม่เชื่อว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะไม่กู้เงินมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ร้อยละ 48.6 ไม่เชื่อว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้น