“พร้อมพงศ์” พลาดหยิบจดหมายนักวิชาการออกซฟอร์ด “ลี โจนส์” แก๊งเดียวกับที่หนุน “ใจ อึ๊งภากรณ์” ออกแถลงการณ์สยามแดง ค้าน “อภิสิทธิ์” กล่าวสุนทรพจน์ที่ออกซฟอร์ด อ้างไม่เหมาะสม ได้ตำแหน่งจากการปฏิวัติ ทั้งกล่าวหาประเทศไทยไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง แฉมีคลิปนายพลหารือเนติบริกรสถาบันพระปกเกล้า ถกแนวทางปฏิรูป อ้างเป็นละครน้ำเน่า เตรียมเปิดโปงเปิดธาตุแท้ “อภิสิทธิ์”
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้นำจดหมายของศาสตราจารย์ ลี โจนส์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประทศ ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งส่งไปถึงผู้บริหารของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เพื่อคัดค้านการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะไปกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 14 มี.ค.มาแถลงข่าว ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่าการที่นายอภิสิทธิ์จะไปกล่าวสุนทรพจน์นั้นไม่มีความเหมาะสม เพราะรัฐบาลไม่ได้มาจากวิถีของประชาธิปไตย แต่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร และยังมีการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตยหลายข้อ เช่น การใช้กฎหมายหมิ่นฯ สถาบันในการกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง การจับผู้อพยพชาวโรฮิงยาใส่เรือปล่อยทิ้งไว้กลางทะเล ทั้งนี้ แม้มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดจะภูมิใจที่นายอภิสิทธิ์เป็นศิษย์เก่าที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่ก็น่าอายที่จะเชิญบุคคลนี้มาพูดเรื่องประชาธิปไตย เพราะความเป็นจริงประชาธิปไตยไม่มีอยู่จริงในประเทศไทยวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศาสตราจารย์ ลี โจนส์ นั้น เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของนายใจ อึ๊งภากรณ์ ผู้เขียนบทความเรื่องแถลงการณ์สยามแดง นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ลี โจนส์ ยังเป็น 1 ในนักวิชาการที่ร่วมลงชื่อให้ยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า มีคนส่งคลิปมาให้ตนซึ่งเป็นการบันทึกเมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ.ว่าเป็นการพบปะของคนในรัฐบาลที่มีชื่อย่อว่า “อ” และ “ส” ซึ่งเป็นนายพลกองทัพบกกับตัวแทนของสถาบันพระปกเกล้าที่ได้รับฉายาว่าเนติบริกร ซึ่งรับใช้รัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย โดยมีการหารือเรื่องแนวทางการปฏิรูปการเมือง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นแค่ละครบทหนึ่งและจะยิ่งเป็นละครน้ำเน่าหากรัฐบาลมีความพยายามที่จะใช้เรื่องนี้เพื่อยื้ออายุรัฐบาลให้นานที่สุด และพร้อมจะเปิดเผยคลิปนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของนายกรัฐมนตรี
ด้าน นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า บุคคลที่อยู่ในคณะการปฏิรูปการเมืองที่สถาบันพระปกเกล้ารับเป็นแม่งานนั้น ล้วนมาจากบุคคลที่เคยล้มเหลวจากการปฏิรูปการเมืองในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาแทบทั้งสิ้น มีเพียงความชำนาญเฉพาะการอ่านในตำราเท่านั้น เมื่อมีการตั้งคณะบุคคลนี้มาอีกก็รับรองได้เลยว่าล้มเหลวซ้ำซากแน่นอน ซึ่งหนทางที่จะสามารถแก้ปัญหาได้นั้น ควรที่จะนำปราชญ์ชาวบ้านที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตยและนักต่อสู้ เพื่อทรัพยากรในท้องถิ่นที่มีอยู่อย่างหลากหลายมาร่วมกันแก้ปัญหา จึงจะถือเป็นทางออกของการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
