เลขาฯ ป.ป.ท.โดดป้อง อปท.ยังไม่สมควรถูกประณามจากสังคมกรณีนมบูด เพราะตกอยู่ในสภาพสมยอม ไม่มีส่วนรู้เห็นการฮั้วประมูลภาคธุรกิจ ระบุผลสอบเดินมาถึงจุดชี้ว่าทุจริต ก่อนส่งไม้ต่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินการสอบสวนต่อไป
วันนี้ (5 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงการตรวจสอบความการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างอาหารเสริม (นม) โรงเรียนของ อปท.ว่า องค์กรปกครองท้องถิ่นไม่ควรถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลย หรือรับเคราะห์ในเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริง อปท.ถูกขีดเส้นกำกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้ อปท.ไม่มีความเป็นเสรีภาพในการจัดซื้อจัดจ้างอาหารเสริม (นม) โรงเรียน กฎเกณฑ์ที่ถูกนำออกมาใช้บังคับ อปท.ที่ผ่านมานั้นทำให้ในพื้นที่ อปท.นั้นๆ มีการรวบรัดตัดตอนในลักษณะสมยอม หรือฮั้วกันของผู้ประกอบการด้วยกันเอง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหานมไม่มีคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อนักเรียน และภาครัฐให้ได้รับความเสียหาย
นายธาริตกล่าวว่า ในส่วนของ อปท.ยังไม่พบการกระทำผิดอย่างชัดเจน ที่ผ่านมาหลังจากสื่อมวลชนได้เสนอข่าวปัญหาเรื่องนม ภาพลักษณ์ภายนอกของ อปท.ก็ถูกสังคมประณาม ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมแก่ อปท.ด้วย
ส่วนเรื่องที่ ป.ป.ท.มีหน้าที่รับผิดชอบนั้นคือการกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับระบบการค้าเสรี ที่จะเป็นการเข้าข่ายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกฎหมายป้องกันการผูกขาด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ รวมถึงตรวจสอบการประพฤติมิชอบโดยภาครัฐ เมื่อดำเนินการตรวจสอบมาถึงจุดหนึ่ง พบความจริงว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายฮั้วประมูลแล้ว ทาง ป.ป.ท.ก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ต้องประมวลเรื่องราว หรือสำนวนส่งต่อให้ สนง.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตเหล่านี้อย่างถอนรากถอนโคนทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
วันนี้ (5 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงการตรวจสอบความการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างอาหารเสริม (นม) โรงเรียนของ อปท.ว่า องค์กรปกครองท้องถิ่นไม่ควรถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลย หรือรับเคราะห์ในเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริง อปท.ถูกขีดเส้นกำกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้ อปท.ไม่มีความเป็นเสรีภาพในการจัดซื้อจัดจ้างอาหารเสริม (นม) โรงเรียน กฎเกณฑ์ที่ถูกนำออกมาใช้บังคับ อปท.ที่ผ่านมานั้นทำให้ในพื้นที่ อปท.นั้นๆ มีการรวบรัดตัดตอนในลักษณะสมยอม หรือฮั้วกันของผู้ประกอบการด้วยกันเอง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหานมไม่มีคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อนักเรียน และภาครัฐให้ได้รับความเสียหาย
นายธาริตกล่าวว่า ในส่วนของ อปท.ยังไม่พบการกระทำผิดอย่างชัดเจน ที่ผ่านมาหลังจากสื่อมวลชนได้เสนอข่าวปัญหาเรื่องนม ภาพลักษณ์ภายนอกของ อปท.ก็ถูกสังคมประณาม ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมแก่ อปท.ด้วย
ส่วนเรื่องที่ ป.ป.ท.มีหน้าที่รับผิดชอบนั้นคือการกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับระบบการค้าเสรี ที่จะเป็นการเข้าข่ายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกฎหมายป้องกันการผูกขาด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ รวมถึงตรวจสอบการประพฤติมิชอบโดยภาครัฐ เมื่อดำเนินการตรวจสอบมาถึงจุดหนึ่ง พบความจริงว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายฮั้วประมูลแล้ว ทาง ป.ป.ท.ก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ต้องประมวลเรื่องราว หรือสำนวนส่งต่อให้ สนง.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตเหล่านี้อย่างถอนรากถอนโคนทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
