“สนธิ” แฉข่าววงใน “อัยการ” จ่อสั่งไม่ฟ้อง “จักรภพ” หมิ่นฯ สถาบัน เหตุเพราะต้องใช้หนี้บุญคุณ “นช.แม้ว” เตือนหากไม่ดำเนินการเท่ากับเปิดทางให้ “ขบวนการจาบจ้วง” ก่อกวนประเทศชาติ แนะ “มาร์ค” ลงพื้นที่ชิง “รากหญ้า” ต้องเปิดโปงความชั่วของ “อดีตนายกฯ” ให้ ปชช.เข้าใจ จี้ “สาทิตย์” กล้ารื้อ NBT เพื่อผลประโยชน์ชาติ พร้อมระบุสื่อไทยยุคใหม่ไม่ซื่อตรงต่ออาชีพ แต่ซื่อตรงต่อทรัพย์สินที่นายทุนยื่นให้ ทำข่าวฉาบฉวย ให้ภาพแค่ฉากเดียว ตกเป็นเครื่องมือคนอย่าง “ทักษิณ”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand"
รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2552 ได้จัดรายการสดจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยนำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์และนำเสนออย่างหลากหลาย
"สวัสดีครับท่านผู้ชมทางบ้าน พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้พิเศษหน่อยนะครับ ข้างหลังผมคือชายทะเล ข้างๆผมคือสระว่ายน้ำ ขวามือนั่งอ้าปากหาวอยู่ คือ คุณปานเทพ และคุณแอน จินดารัตน์ มานั่งให้กำลังใจ
วันนี้เป็นวันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2552 เป็นวันนักข่าว หรือว่า วันสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย อย่างที่สัญญากับคุณผู้ชม รับปากกันไว้ว่า วันนี้จะจัดสดที่เกาะสมุย เมื่อคืนนี้งานที่สมุยเป็นงานที่สนุกสนานมาก ต้องขอชื่นชม และขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องชาวสมุยที่ร่วมงานกันอย่างล้นหลาม นั่งรถผ่านเข้าไปในตัวเมืองก็จะเห็นว่าร้านค้าอยู่เยอะแยะเลย ที่เคยคึกคักปิดกันเกือบหมด คนขับรถก็บอกว่าธรรมดาจะมีคนเดินเยอะ ร้านจะเปิดมาก วันนี้ไปฟังคอนเสิร์ตการเมืองกันเต็มที่ เมื่อคืนนี้ก็มีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มากันจนครบ มีอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่มาช้าที่สุด เท่านั้นเอง
ท่านผู้ชมที่ดู ASTV เมื่อคืนนี้ก็คงจะเห็นการเปิดใจในเรื่องการตั้งพรรคการเมือง ซึ่งทุกๆคนก็พูดกันชัดเจน ว่าถ้าจะมีการตั้งพรรคการเมือง มีคำว่า "ถ้า" ก่อนนะครับ คือโดยสรุปง่ายๆก็คือว่า ทุกคนยังคาดหวังอย่างสูงกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี คือทุกคนอยากจะให้คุณสุเทพ จัดการกับตำรวจที่ชั่วๆให้เห็นชัดโดยไม่ต้องเกรงอกเกรงใจ ที่สำคัญเมื่อคืนนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็แสดงจุดยืนชัดเจนว่า ไม่อยากให้นักการเมืองสายพรรคประชาธิปัตย์ แสดงอาการรังเกียจเดียดฉันอะไรกับพวกพันธมิตรฯ เพราะถึงว่าพันธมิตรฯ จะไม่ได้อ้างบุญคุณถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล แต่อย่างน้อยที่สุดในข้อเท็จจริง พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องรู้ว่าตัวเองนั้น มีอุดมการณ์ และเห็นด้วยกับการกระทำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่พอมีอำนาจขึ้นมาแล้ว ก็ทำเป็นเกลียดตัวกินไข่ ซึ่งอันนี้พันธมิตรฯ เขากำลังมีความอึดอัดใจ และหงุดหงิดใจพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ก็อยากจะดูหน่อยนะครับ การที่พันธมิตรฯ จะต้องถูกดำเนินคดีนั้น พันธมิตรฯไม่เคยกลัว แต่พันธมิตรฯ ขออย่างเดียวว่า การดำเนินคดีนั้นต้องตรงไปตรงมา และเที่ยงธรรม ไม่ใช่แกล้งดำเนินคดี ไม่ใช่เหมือนอย่างคดีจักรภพ เพ็ญเเข
เมื่อวานนี้ท่านอัยการฝ่ายคดีอาญา ท่านได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า คดีจักรภพ เพ็ญเเข อาจจะต้องเลื่อนชี้ไปอีก 30 วัน เพราะต้องการพยานเพิ่มเติม ให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม ข่าววงในแจ้งมาว่า โอกาสที่อัยการจะสั่งไม่ฟ้องมีสูงมาก เพราะมีอัยการผู้ใหญ่หลายท่านได้รับการแต่งตั้งจากระบอบทักษิณ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หนี้บุญคุณอันนี้ต้องชำระ ซึ่งผมก็ไม่เชื่อข่าวนี้ แต่ว่าถ้าเรามาดูเหตุการณ์ต่างๆ ไล่มาแต่ละเรื่อง ท่านผู้ชมทราบไหมครับ คุณจักรภพ เพ็ญเเข ถูกดำเนินคดีเมื่อประมาณ ถูกแจ้งความดำเนินคดีเมื่อประมาณเดือนมีนาคม พุทธศักราช 2551 นี่ดำเนินมาจะปีหนึ่งละ ยังไม่สั่งฟ้องเสียทีเลยครับ และก็มีโอกาสที่จะ คือไม่ถูกสั่งฟ้องด้วย
เหตุผลเพราะว่า การสั่งคดีนั้นค่อนข้างทะเเม่งๆ ในวงการอัยการ ในวงการตำรวจ ถ้าเขาบอกให้สอบเพิ่มเติม ถ้าอัยการสั่งสอบเพิ่มแสดงว่ากำลังหาเหตุที่จะสั่งไม่ฟ้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากพ่อแม่พี่น้อง คือถ้าจะมองในแง่ภาพรวมทางการเมือง อัยการต้องระวังให้ดี คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าไม่มีความโยงเกี่ยวกับทางการเมือง ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร ถ้าคุณจักรภพ ไม่โดนสั่งฟ้องกรณีจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ลักษณะคดีแบบจักรภพ เกิดขึ้นอีกเยอะ และในขณะเดียวกันจักรภพเอง ก็สามารถออกมาพูดได้ว่า สิ่งที่เขาพูดมาในอดีต เป็นสิ่งซึ่งไม่ผิด และเป็นสิ่งซึ่งเขาไม่ได้ว่าสถาบันกษัตริย์ เขาอ้อมไปอ้อมมา เพราะฉะนั้นจะมีลักษณะที่คุณจักรภพ จะพูดแบบนี้มากขึ้นๆ และอีกอย่างที่คุณจักรภพ หลุดออกไป คุณจักรภพ ก็จะกลายเป็นดาวดวงเด่นในกลุ่มคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็ถือว่าเขาไม่มีชนักปักหลังแล้ว
คุณจักรภพ มีแนวคิดคล้ายๆ ใจ อึ๊งภากรณ์ คุณจักรภพ ชี้มาตลอด พฤติกรรม ตลอดจนวาจานั้น พิสูจน์ได้ชัด ยังมีอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คุณจักรภพ เคยไปพูดที่มหานครลอสแองเจลิส อันนั้นก็หมิ่นชัดๆ แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทำอะไร อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครไปแจ้งความก็เป็นไปได้ แต่ประเด็นคุณจักรภพ นั้นผมอยากจะฝากท่านอัยการเอาไว้ หากท่านดูรายการนี้อยู่ หรือคนที่รู้จักให้ไปเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง ว่ากรณีคุณจักรภพ เป็นกรณีที่ชัดเจน จะบอกว่าไม่มีเจตนาเป็นไปไม่ได้ หลายกรณีอาจจะไม่มีเจตนาของคนอื่น แต่ของคุณจักรภพ มีเจตนาชัดเจน เพราะว่าทำซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายๆอย่าง สามารถจะไล่ดูในอดีตที่เกิดขึ้นโดยตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ผมใครขอเตือนนิดหนึ่งครับ การสั่งไม่ฟ้องคุณจักรภพนั้น คือการเปิดโอกาสให้คุณจักรภพ สามารถจะใช้ตัวเอง และกลุ่มเสื้อแดงก่อกวน และหาเรื่องประเทศชาติอีกต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง
พี่น้องครับ ข่าวต่อไปที่วันนี้อยากจะคุยให้ฟังคือ เมื่อวานนี้ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำสั่งยกคำร้องมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีทรัพย์สิน ปตท. ต้องคืนให้แก่รัฐ โดยศาลปกครอง ใช้คำพูดอ้างว่า ผู้ฟ้องนั้นไม่ใช่ผู้เสียหาย โดยในข้อเท็จจริงแล้ว ไม่น่าจะผิด เพราะผู้เสียหายคือรัฐ แต่ถ้ามองมุมกลับในอีกนิดหนึ่ง การที่เป็นองค์กรเอกชน โดยเฉพาะเป็นมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคนั้น ก็คือเป็นตัวแทนของประชาชนผู้เสียหาย ตรงนี้ ผมคิดว่าการเมืองใหม่จะต้องมาคุยกันในอนาคต ว่าจริงๆแล้วผู้ที่เสียหาย ถ้าประชาชนเสียหาย ประชาชนจะต้องมีองค์กรอะไร หรือเครื่องมืออะไรบางอย่างที่จะดำเนินการทางกฎหมาย กับหน่วยงาน หรือผู้คนที่ทำให้รัฐเสียหายได้ ไม่ใช่จำเป็นจะต้องเป็นรัฐฝ่ายเดียว ไม่จำเป็นจะต้องเป็นอัยการฝ่ายเดียว ไม่จำเป็นจะต้องเป็นตำรวจฝ่ายเดียว
ผมคิดว่ากฎหมายจะต้องเปิดโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของรัฐ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคไม่เสียหายไม่ได้ เพราะว่าถ้า ปตท.คืนทรัพย์สมบัติให้รัฐ ได้น้อยกว่าที่ตกลงไว้ หรือว่ายักยอกทรัพย์โดยไม่คืน แน่นอนที่สุด รัฐเสียหาย และ "รัฐ" คืออะไร ถ้าไม่ใช่ประชาชน เพราะสมบัติของ ปตท.ที่ต้องคืนให้ และสมบัติของรัฐ มันก็คือสมบัติของประชาชน ท่านผู้ชมต้องเข้าใจตรงนี้นิดหนึ่ง และพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะต้องร่วมมือร่วมใจกันไว้ อย่าให้โจรมาปล้นแผ่นดิน แล้วเอาของรัฐไป แล้วใช้แง่มุมทางกฎมาย ใช้ประเด็นทางกฎหมาย ใช้อุปสรรคทางกฎหมาย ไม่ให้ประชาชนเข้าไปเรียกร้องในสิ่งที่ประชาชนควรจะเรียกร้องนะครับ ท่านผู้ชมครับ
อีกข่าว เป็นข่าวศาลปกครองเช่นกัน ข่าวนี้น่าสนใจ ศาลปกครองเชียงใหม่ได้อ่านคำพิพากษาคดีชาวบ้านแม่เมาะ ฟ้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตนั้นได้สร้างมลพิษ ทำให้ชาวบ้านแม่เมาะ มีโรคภัยไข้เจ็บ มีปัญหากับทางเดินหายใจ 447 คน ที่ฟ้อง ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ ศาลปกครองเชียงใหม่ได้พิพากษา ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตผิดจริง และต้องดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ชาวบ้าน เพียง 131 คนเท่านั้น เหตุผลก็เพราะว่าที่เหลือ 447 - 131 คน ก็เหลือ 316 คน อีก 316 คนไม่มีหลักฐาน เอาเฉพาะคนที่ได้ลงทะเบียน จดทะเบียน อันนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งประเด็นนี้จะต้องแก้ไขกันต่อไปในอนาคต เพราะว่าการฟ้องประชาชนที่เดือดร้อนนั้น บางครั้งเป็นตาสีตาสา ไม่รู้เรื่อง คนที่รู้เรื่องก็มีคนที่ไปสอนว่าจะต้องลงทะเบียน ต้องจด ต้องทำอันโน้นอันนี้เป็นหลักฐานเอาไว้ก่อน
เอาละ ไม่เป็นไร สิ่งที่น่าสนใจ พี่น้องรู้ไหมเรื่องอะไรที่ผมเป็นห่วง ประเด็นของคดีนี้อยู่ที่ว่า คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2546 พี่น้องครับ 6 ปี เต็มๆ จนกระทั่งผู้ป่วยบางคนได้เสียชีวิตไปแล้ว 6 ปีเต็มๆ กว่าศาลปกครองจะพิพากษาออกมา ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องแก้ไขกันแล้ว ไม่แก้ไขไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าความผิด ความล่าช้า อยู่ที่ศาลปกครอง หรือความล่าช้าอยู่ที่กระบวนการที่ต้องแก้ไขกัน
ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน คำว่า ศาลปกครอง มีชื่อชัดเจนว่า ในกรณีการปกครอง ถ้ากรณีการปกครองผิดพลาด กรณีการปกครองไม่ถูกต้อง แล้วมีผู้เสียหายเดือดร้อนขึ้นมา ถ้าต้องใช้เวลาถึง 6 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าผู้เดือดร้อนนั้นเดือดร้อนจริง แล้วมีการพิพากษา ผมถือว่าระบบกระบวนการยุติธรรมของบ้านเราใช้ไม่ได้ ทุกอย่างคำพูดของการว่า ถ้าเอาประชาชนนำหน้า นี่คือวิธีการที่ต้องคิด นี่คือทางออกที่ต้องคิด ว่าศาลปกครองนั้น อาจจะต้องปรับวิธีการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลปกครองต่างจังหวัด ในภูมิภาคนั้นต้องทำงานให้เร็วกว่านี้ ประชาชนคนธรรมดาที่ อ.แม่เมาะ สู้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็เป็นที่เข้าใจได้ ประชาชนเวลาสู้กับองค์กรใหญ่ๆ เช่น ที่มีอำนาจ มีอิทธิพลนั้น การต่อสู้นอกจากจะเหน็ดเหนื่อยแล้ว ข้อที่ 2 ยังต้องเจออิทธิพลแอบแฝง อิทธิพลแอบแฝงแบบไหนละครับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีสนามกอล์ฟอยู่ในแม่เมาะ นี่เป็นตัวอย่าง สมมตินะครับ เชิญคนเข้าไปที่เกี่ยวข้อง เอาไปตีกอล์ฟ เอาไปเอนเตอร์เทน พูดคุยกันในสนามกอล์ฟ ชาวบ้านไม่มีสิทธิที่จะพูดคุยกับผู้เยวข้องในคดีนี้ในสนามกอล์ฟ ชาวบ้านทำได้อย่างเดียวคือไปนั่งยองๆหน้าศาล แล้วก็ใช้ทนายแผ่นดิน หรือไม่ก็ใช้ทนายตัวเองเป็นผู้ฟ้อง
ตรงนี้ก็เป็นอีกประเด็น ซึ่งผมอยากจะฝากให้คิดหน่อย ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 แล้วมาพิพากษาเอาปี 2552 มันนานเกินควร พ่อแม่พี่น้อง ถ้าเป็นแม่วัวก็คลอดลูกวัวไปหลายตัวแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงลูกดกก็มีลูกอย่างน้อย 3 คนแล้ว ที่สำคัญก็คือว่า มีชาวบ้านที่ร้องเรียน ตายไปแล้วก็หลายศพ ก็ต้องฝากเอาไว้
อีกข่าวหนึ่ง เมื่อวานนี้ คุณเนวิน ชิดชอบ ได้ขึ้นศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แถลงเปิดคดีทุจริต เข้าใจว่าพวกจำเลยทุกคนคงมอบหมายให้คุณเนวินแถลง คุณเนวินก็แถลงไปทุกอย่าง ทุกกระบวนการทุกขั้นตอน ชี้แจงอันโน้นอันนี้ ที่น่าสนใจพี่น้อง คือการแถลงประเด็นอยู่ตรงไหนรู้ไหม การแถลงมีประเด็นอยู่ตอนจบ คุณเนวิน พูดบอกว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปอีก ก็จะทำเหมือนเดิม เพราะเขามั่นใจว่าเขาไม่ผิดครับ
พี่น้องครับ คำพูดนี้ฟังดูแล้ว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของคุณเนวิน ว่า จะชนะคดีนี้ แต่ฟังดูให้ดีๆแล้ว เป็นทัศนคติที่น่ากลัวมาก การที่พูดบอกว่า "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้แล้ว ก็จะทำอีก" มีนัยอยู่ 2 นัย นัยแรกคือว่า เฮ้ย ยังไงกูก็ไม่ผิด คำว่า "ยังไงกูก็ไม่ผิด" ก็มีนัยต่อ ว่าที่กูไม่ผิดก็เพราะว่า สามารถจะวิ่งเต้นศาลได้ อันนี้น่ากลัวละ อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ไม่รู้สึกสำนึกเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อเวลาตัวเองมีอำนาจทำอะไรไป ตัวเองไม่สนใจ ตัวเองถือว่าตัวเองมีอำนาจ และก็ไม่สำนึก ทั้ง 2 นัย เป็นเรื่องที่ไม่ดี ผมไม่สามารถจะแนะนำคุณเนวินว่า จริงๆแล้วการแถลงเปิดคดีนั้น ควรจะเปิดคดีแบบไหน แต่วิธีที่สวยที่สุด ถ้าคุณเนวิน จะระวังตัวในอนาคตก็คือ การเล่าให้ฟังนั้นที่ตัวเองทำ ตัวเองทำด้วยความเจตนาที่บริสุทธิ์ แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องย้อนกลับไปบอกว่า ถ้าย้อนกลับไปอีก ก็จะทำอย่างนี้ อุปมาอุปมัยเหมือนตำรวจ ที่ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อหา หรือกำลังพิจารณาข้อหาว่ายิงประชาชน แล้ววันหนึ่งข้างหน้า ตำรวจต้องขึ้นศาล แล้วเปิดคดีต่อศาล แล้วตำรวจก็บอกว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปแล้วผมก็จะยิงอีก คนตายก็ตายไปช่างหัวมัน พ่อแม่พี่น้อง เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาพูดเรื่องนี้
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่จะต้องเล่าให้ท่านผู้ชมฟังนิดหนึ่ง ข่าวล่าสุดว่า ทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้แจ้งมาอีกแล้วพี่น้อง ว่าวันที่ 12 มีนาคม คุณทักษิณ จะพูดผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ มาที่ฮ่องกง ก็คือยังจะมีการพูดจาต่อไปอีก เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าใครจะโกหกใคร ว่าจะพูดหรือไม่พูด เอาเป็นว่า ก็คงจะไม่มีหยุดยั้งในการที่จะพูดจาในเรื่องราวต่างๆ พี่น้องครับ
อีกข่าวซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญพอสมควร ก็คือข่าวที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้พูดออกมาคำหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีใครคิด แต่ผมคิดว่าลึกๆแล้วคุณทักษิณ คงจะหนาวๆร้อนๆอยู่เหมือนกัน ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านพูดบอกว่า ตอนนี้พอหมดภาระบางอย่างแล้ว ท่านจะเริ่มลงไปพบประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องดูการ์ตูนผู้จัดการวันนี้สักนิด ดูแล้วคิดอย่างไร ดูแล้วจะเห็นด้วยหรือเปล่า ดูแล้วจะขำขันหรือไม่
การ์ตูนผู้จัดการวันนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ผมไม่ทราบว่าทางทีมงานที่อยู่ห้องส่งกรุงเทพฯ ได้เตรียมการ์ตูนเรียบร้อยหรือยัง ถ้าเตรียมเรียบร้อยแล้วก็ช่วยเอาขึ้นให้ผมดูนิดหนึ่ง ถ้ายังไม่เรียบร้อยก็ช่วยแจ้งมาหน่อยนะครับ อย่าให้ผมนั่งพล่ามอยู่ตรงนี้ แต่ว่าจริงๆ ก็ไม่เสียหายอะไรหรอก ท่านผู้ชมครับ ข้างหลังเป็นทะเลสมุย ที่สวยงาม พระอาทิตย์เพิ่งขึ้น สวยสดงดงาม น่าชื่นชมนะครับ บรรยากาศสุนทรีย์ อากาศค่อนข้างจะเย็นสบายดี แล้วก็เสียงคลื่นซึ่งกระทบเข้ามา เป็นบรรยากาศของการจัดการถ่ายทอดสด ที่ค่อนข้างจะดูแล้วโรแมนติกพอสมควร แต่ก็ไม่รู้ว่าคนวัย 62 จะไปโรแมนติกกับใครได้ นอกจากโรแมนติกกับธรรมชาติ ที่เราดูอยุ่ทุกวันนี้
สงสัยเขาคงจะหาการ์ตูนไม่เจอนะครับ การ์ตูนขึ้นหรือยังครับ การ์ตูนขึ้นแล้ว พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่าการ์ตูนผู้จัดการ เป็นรูปหนุ่มอภิสิทธิ์ กำลังเดินผิวปากอยู่ในทางเดินนะครับ เดินไปยังกระท่อมมุงจากของสาวคนหนึ่ง คำพูดที่พูดก็พูดน่ารัก "ตอนนี้ว่างงานละ" ว่างงานไม่มีงานทำ พูดง่ายๆคือจะไปจีบสาว และสาวที่พูดอยู่ก็คือ สาวรากหญ้า ก็คือประชาชนที่อยู่ในรากหญ้า และที่น่าสนใจคือว่า ประชาชนที่รากหญ้ากำลังนอนรับโทรศัพท์อยู่ แล้วพูดกับใครรู้ไหมครับ "อุ้ย ปากหวานจัง ถ้าไม่รักพี่แม้วคนเดียว แล้วจะไปรักใครละคะ เล่นโทรมาจีบเช้าจีบเย็น หลงแทบตาย"
คำถามก็คือ คำถามในการ์ตูนเขามีบอกว่า "สายเสียแล้วมั้งพ่อมาร์ค" หมายความว่าถึงแม้พ่อมาร์คจะเดินไปจีบสาว อีกครั้งหนึ่งอาจจะจีบไม่สำเร็จ เพราะพ่อแม้วเขาเล่นลงไปในพื้นที่ ลงไปอย่างหนัก แล้วก็อย่างที่ฝ่ายเสื้อแดงบอกว่า เดี๋ยวนี้ชุมนุมเล็กๆน้อยๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะถือโอกาสโฟนอินเข้ามาตลอดเวลา โดยไม่มีหยุด แม้กระทั่งรายการเวทีเล็กๆน้อยๆ ก็จะโฟนอิน ก็เป็นการช่วงชิงรากหญ้า ผมคิดว่าการช่วงชิงรากหญ้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่ว่าการช่วงชิงรากหญ้านั้นใครจะเป็นคนช่วงชิงมากกว่า และช่วงชิงด้วยวิธีไหน ปรากฏว่าทั้งพ่อแม้ว และพ่อมาร์ค ช่วงชิงรากหญ้าด้วยการซื้อของให้รากหญ้า สาวที่อยู่ตามรากหญ้า ไม่ได้ทำอะไร นอกจากรอรับ อ้าว พี่เเม้วมาเหรอ พี่แม้วซื้อเสื้อมาให้ตัวหนึ่ง เอ้าเดี๋ยวพ่อมาร์คซื้อกระโปรงให้ตัวหนึ่ง พี่แม้วซื้อกระเป๋าให้ใบหนึ่ง พ่อมาร์คซื้อเข็มขัดให้เส้นหนึ่ง
ซื้ออย่างนี้ไม่สิ้นสุด อีกหน่อยก็จะมี ลุงธิ บ้าง หรือน้าเหลิม ต่างฝ่ายต่างเอาใจรากหญ้า แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีใครทำกับรากหญ้า แล้วก็พ่อมาร์คเองก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าต้องทำกับรากหญ้า แต่ก็ไม่มีใครทำคือเรื่องอะไร คือให้รากหญ้าหายโง่สักที ทำอย่างไรที่จะให้รากหญ้ารู้ว่าทั้งพ่อแม้ว และพ่อมาร์ค ที่เอาข้าวของให้รากหญ้านั้น มันไม่จีรังยั่งยืน แล้วในอดีตนั้น พ่อแม้วทำร้ายทำลายประเทศไทยอย่างไรบ้าง ทำร้ายทำลายชาวบ้านอย่างไรบ้าง แล้วก็ทำร้าย ทำลายชาติบ้านเมืองอย่างไรบ้าง ตรงนี้พ่อมาร์คยังไม่ได้ทำ พ่อมาร์คมอบหมายให้คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นผู้จัดการ คุณสาทิตย์ ท่านขึ้นตั้งแต่ 3 เดือนแล้ว ร่วม 3 เดือนกว่าแล้ว ท่านค่อนข้างที่จะห่วงกังวลกับระเบียบข้อบังคับมากจนเกินไป
พี่น้องครับ ผมจะไล่เรื่องกลับไปนิดหนึ่ง พี่น้องรู้ไหมคุณจักรภพ เพ็ญแข มาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกตอนเดือนไหน ทราบไหม ถ้าไม่ทราบจะเล่าให้ฟัง คุณจักรภพ เพ็ญเเข เป็นรัฐมนตรีเดือนกุมภาพันธ์ และพี่น้องเขาเป็นกี่เดือน ปลายกุมภา ตีสัก มีนา เมษา พฤษภา เขาลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี 31 พฤษภาคม 3 เดือนเท่านั้นเอง จักรภพ เพ็ญแข จัดการช่อง 11 เปลี่ยนเป็น NBT มีนักข่าวลุยออกไป ด่าพันธมิตรฯ ใส่ความ หาเรื่องพันธมิตรฯ จัดรายการสามเกลอหัวขวด ทันที แต่คุณสาทิตย์ เข้ามา 2 - 3 เดือนแล้ว รายการของช่อง 11 ยังไม่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยมากเท่าที่ควร
ผมเห็นใจคุณสาทิตย์ คุณสาทิตย์ อาจจะขาดประสบการณ์ แต่ผมอยากจะแนะนำว่าคุณสาทิตย์ ต้องกล้าตัดสินใจมากขึ้น คุณสาทิตย์ควบคุมดูแลกรมประชาสัมพันธ์อยู่ ท่านสามารถที่จะสั่งอธิบดีประชาสัมพันธ์ให้ทำอะไรก็ได้ เพราะว่าถ้าคุณจักรภพ สั่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้ทำตามที่คุณจักรภพ ทำได้ เพื่อผลประโยชน์ของคนเสื้อแดง ทำไมคุณสาทิตย์ ไม่สามารถจะสั่งให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ให้ทำตามเพื่อผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นส่วนรวม อย่างน้อยที่สุด ก็จะต้องเอาคนอย่างเช่น อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ไปจัดรายการทันทีเลย เป็นจัดรายการแทนรายการสามเกลอหัวขวด ให้คุณเจิมศักดิ์ ออกเดียวก็ได้ หรือเอารู้ทันประเทศไทยของคุณเจิมศักดิ์ไป อย่าไปติดขัด ว่าคุณเจิมศักดิ์ นั่งอยู่ที่ ASTV จัดรายการที่ ASTV เราไม่เคยกีดกันใครทั้งสิ้น ขอให้ใครก็ตามต้องการทำงานให้ชาติบ้านเมือง เราพร้อมที่จะทำงานให้ชาติบ้านเมือง เราพร้อม อ.เจิมศักดิ์ ก็พร้อมที่จะไป ที่ช่อง 11 ครับท่านผู้ชม
ท่านผู้ชมครับ ถึงเวลาเบรก ผมทานกาแฟสักนึดหนึ่งครับ จริงๆก็ง่วงนอนพอสมควร ไม่อยากจัดรายการเลย เมื่อยไปหมดเมื่อคืน กว่าจะกลับมา ท่านผู้ชมเห็นหรือเปล่า บิดตัว นั่งอยู่ริมสระน้ำ อากาศสบายๆ เปิดเพลงฟัง แต่เรื่องของหน้าที่ และชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน ก็เลยตัดสินใจที่จะต้องออกมาจัดให้ท่านผู้ชม ผมรู้ว่าท่านผู้ชมหลายท่านที่อยู่ต่างจังหวัด มีความคิด คุณจัดสมุยได้ วันหลังคุณต้องไปจัดสดที่อื่นบ้างนะครับ อย่าคิดครับ ให้ผมคิดดีกว่าว่าไปเมื่อไหร่ ถ้าจะจัดสดรายการผม ผมจะส่งคุณปานเทพ คุณแอน จินดารัตน์ ไปจัดแทนให้ เป็นรายการ Good Morning Thailand แทนผม เพราะว่า 2 คนนั้น ค่อนข้างจะชอบเดินทางไปต่างจังหวัด นั่งหัวเราะคิกคัก คุณแอนจินดารัตน์ ประเดี๋ยว 7 โมงเช้าจะขึ้นเครื่องบินกลับมายังกรุงเทพฯ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ก็ช่วยสวดภาวนาให้คุณแอนนิดหนึ่ง เพราะว่าน้ำหนักแกค่อนข้างมาก ผมกลัวเครื่องบินจะแบกน้ำหนักแกไม่ได้ พักกันสักครู่ แล้วเดี๋ยวค่อยพักกันนะครับ
(เบรก)
สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งหนึ่งนะครับท่านผู้ชม เมื่อวานนี้มีข่าวชิ้นหนึ่งของคุณเฉลิม อยู่บำรุง คุณเฉลิมท่านพูดจาแบบประเภทมั่นใจมากในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านบอกเลยว่า ข้อมูลท่านแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ สุดยอด ถ้าท่านสอบตกท่านพร้อมจะลาออกจากประธาน ส.ส. ในขณะเดียวกันท่านก็บอกว่า เป็นมติของพรรคเพื่อไทย ที่จะให้เสนอชื่อท่านเป็นนายกฯ ด้วย ตามกติกา ท่านบอกว่าตาม format ก็คือว่า ถ้าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผู้นำการอภิปรายนั้นจะต้องถูกเสนอแต่งตั้งให้เป็นนายกฯ คุณเฉลิมท่านก็พูดจาชัดเจนเลย บอกว่าท่านพร้อม และท่านก็บอกว่าทำไมต้องเดือดร้อน ยังไม่เป็นเลยเดือดร้อนแล้ว ท่านก็หมายถึงคุณเสนาะ เทียนทอง คุณเสนาะ ท่านก็บอกว่า ถ้าอภิปรายโดยไม่ลงมติ ก็จะร่วมอภิปรายด้วย แต่ถ้าอภิปรายโดยลงมติ คุณเสนาะก็จะไม่ร่วมด้วย
การเมืองก็อย่างนี้ล่ะท่านผู้ชม พูดกั๊กกันไปกั๊กกันมา คุณเสนาะก็หวังที่จะร่วมรัฐบาล เหมือนกับพรรคเพื่อแผ่นดิน คุณประชา พรหมนอก ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนใหม่ ก็บอกชัดเจน บอกว่าเพื่อแผ่นดินมีอยู่ 10 กว่าเสียง สายคุณประชา พรหมนอก ท่านก็บอกท่านไม่เข้าร่วมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เมื่อไม่เข้าร่วมอภิปรายแล้ว ท่านยังพูดซ้ำด้วยซ้ำว่า ถ้ามีโอกาส ถ้ารัฐบาลทำดี ท่านก็จะยกมือช่วยให้เสียด้วย เพราะฉะนั้นการปรับ ครม.งวดต่อไป ก็เชื่อขนมกันได้เลยว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน สาขาประชา พรหมนอก ก็จะเข้าร่วมรัฐบาล
พรรคเพื่อแผ่นดิน พี่น้อง ต้องอธิบายกันนิดหนึ่ง มีหลายสาขาครับ มีสาขา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก สาขาคุณไพโรจน์ นวลฉวี คุณไพโรจน์ นวลฉวี ท่านก็มี ส.ส.อยู่ 2 คนในมือ แล้วท่านก็ไปเอาคนอื่นอีก 3-4 คนมาร่วม เพื่อเอาตำแหน่ง 1 ตำแหน่งมาเป็นรัฐมนตรี นั่นก็คือรัฐมนตรีระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ที่เป็นรัฐมนตรีไอซีที พรรคเพื่อแผ่นดินก็ยังมีอีกหลายสาขา สาขาคุณสุวิทย์ คุณกิตติ
คุณสุวิทย์ คุณกิตติ มีโรงงานน้ำตาลหนุนหลัง จากการขึ้นราคาน้ำตาลให้กิโลฯ ละ 5 บาท คราวที่แล้ว ก็เลยได้มีกำลังภายในจากโรงงานน้ำตาลที่จะเอา ส.ส.มาอยู่ในก๊วน ก็มีสาขาประชา พรหมนอก เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองที่มี 3 สาขา คงจะมีเฉพาะประเทศไทยล่ะมั้งที่มีให้เห็นได้ นะครับท่านผู้ชม
มีอันหนึ่งที่จะเล่าให้ท่านผู้ฟังฟังนิดหนึ่ง เอาเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ก็แล้วกัน พี่น้องรู้หรือเปล่าเป็ดในโลกนี้มีกี่พันธุ์ เป็ดในโลกนี้มีเป็นเป็ดพันธุ์เนื้อ พี่น้องรู้มั้ยว่าเป็ดพันธุ์เนื้อมีอะไรบ้าง มี 1.เป็ดปักกิ่ง เป็ดปักกิ่งนี่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน รูปร่างใหญ่โต ลำตัวกว้าง ลึก และหนา เป็ดปักกิ่งมีนิสัยขี้ตกตื่นใจมากๆ ผู้เลี้ยงควรระวัง เพราะว่าอาจจะกระทบกับการเจริญเติบโตได้
เป็ดพันธุ์ที่ 2 ของเป็ดเนื้อ ก็คือเป็ดเทศ มีต้นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ เป็นเป็ดอีกพันธุ์หนึ่งต่างหาก เมื่อทำการผสมพันธุ์กับเป็ดพันธุ์อื่นจะทำให้ลูกเป็นหมัน ซึ่งเมืองไทยมี คือเอาเป็ดเทศผสมกับเป็ดอื่น เขาเรียกว่าเป็ดพันธุ์ปั๊วฉ่าย เป็ดพันธุ์ปั๊วฉ่ายก็คือ พอผสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งตัวผู้ตัวเมียที่ออกมาเป็นหมันหมด โชคดีหน่อยนะครับ ที่ยีนหรือดีเอ็นเอของเป็ดพันธุ์นี้ไม่ได้ก้าวเข้าไปสู่มนุษย์ ถ้าไม่อย่างนั้นมนุษย์ก็คงจะหมดโลกไปแล้ว เพราะว่าผสมกันไปผสมกันมาก็ไม่มีอะไร มีแต่ความแก่เฒ่าลงไปเรื่อยๆ
เป็ดอีกประเภทหนึ่งคือเป็ดไข่ เป็ดพันธุ์ไข่ เขาเรียกว่าเป็ดพันธุ์กากีแคมป์เบลล์ พัฒนาพันธุ์ในประเทศอังกฤษ เขาว่าเป็นเป็ดพันธุ์ที่ให้ไข่สูงที่สุด ตัวหนึ่ง ปีหนึ่งให้ได้ถึง 300 ฟอง ถ้าเลี้ยง 1,000 ตัว ปีละ 300,000 ฟอง ถ้าหารด้วย 12 ก็เดือนละ 25,000 ฟอง ลักษณะเด่นกว่าพันธุ์อื่น คือการยืนคอตรง ลำตัวตั้งฉากกับพื้น ปากสีเหลือง แข้งและเท้าสีสัน ให้ไข่ฟองโตและไข่ทน ส่วนพันธุ์พื้นเมืองก็มีนิยมเลี้ยงกัน 2 พันธุ์ ก็คือ เป็ดนครปฐม เลี้ยงกันมากในนครปฐม เพชรบุรี สุพรรณบุรี เป็ดปากน้ำ เลี้ยงกันมากใน จ.สมุทรปราการ
เป็ดพันธุ์สุดท้าย พี่น้อง เป็ดพันธุ์ดีเอ็นเอใหม่ เขาเรียกว่าเป็ดบางบอน เป็ดบางบอนมีฉายา มีชื่อ คือเป็ดนครปฐมก็เลี้ยงนครปฐม เป็ดที่เลี้ยงที่บางบอนเขาเรียกว่าเป็ดเหลิม เป็ดเหลิมนี่มีลักษณะอย่างไร ลักษณะชอบเดินตลอดเวลา และชอบร้องก้าบๆๆๆ ตลอดเวลา ร้องได้ทุกเรื่อง มีเวลาบางเวลาพยายามที่จะแสดง โชว์ออฟ แอ็คอาร์ต บินให้ได้เหมือนนก ก็กระพือไป บินลอยเหนือพื้นไปได้สัก 2 นิ้ว ก็ตกลงมา เห็นปลาอยู่ในน้ำ อยากจะว่ายแข่งกับปลา กระโดดลงไป ปรากฏว่าปลาหายไปไหนไม่รู้ ก็กระพือไปกระพือมา คือสรุปง่ายๆ ว่าเป็ดพันธุ์บางบอนเนี่ยทำอะไรก็ไม่ได้ดีสักอย่างหนึ่งเลย
แล้วลูกของเป็ดพันธุ์บางบอนนี่มักจะเกเร ลูกมักจะเที่ยวเดินไปชนเก้าอี้บ้าง เดินไปจิกเท้าชาวบ้านบ้าง บางทีก็ไปขี้เรี่ยราดบ้าง เพราะฉะนั้นพี่น้องก็ลองคิดดูแล้วกัน ว่าเมืองไทยตอนนี้มีเป็ดพันธุ์ใหม่ขึ้นมาแล้วนะ เขาเรียกว่าเป็ดบางบอน พี่น้องครับ
ไปดูการ์ตูน ดูผู้จัดกวนสักนิดหนึ่งวันนี้ ไหนๆ จะพูดถึงการเมืองเมืองไทยแล้ว การ์ตูนผู้จัดกวน พี่น้องเห็นหรือยัง อันนี้ก็ไม่ได้ว่าเขานะพี่น้อง แต่ว่าผู้จัดกวนนี่เป็นอะไรบางอย่างที่มันกวนจริงๆ พี่น้อง เขากำลังตั้งข้อสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าคุณเฉลิมเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเกิดโชคดีเหมือนปีนี้ได้เป็นผู้นำอาเซียน คุณเฉลิมทำยังไง ผู้จัดกวนเขาก็บอก คุณเฉลิมเขาบอกว่า Yes ok. ok. Coca-Cola there. ok. No No No No only Pepsi only Pepsi ก็เป็นอะไรที่มันขำขัน คุณเฉลิมอย่าไปถือสาเลยนะครับ เพราะว่าเห็นคุณชอบพูดภาษาอังกฤษมากมายเหลือเกินนะครับ
เราแวะมาที่ข่าวต่างประเทศหน่อยนะครับ ข่าวต่างประเทศวันนี้มีเรื่องราวที่สนุกสนานพอสมควรนะครับ เอ๊ะ ก่อนเข้าสู่ข่าวต่างประเทศพักสักครู่ดีมั้ย แต่ผมอยากให้พักอย่างนี้พี่น้อง วันนี้เราเปลี่ยนสไตล์เพลงของ What a Wonderful World คือโลกที่น่าหรรษามาก ผมอยากให้พี่น้องฟังให้หมดเลยเพลงนี้ คือเพลง What a Wonderful World ที่เรานำมานั้น ครั้งแรกเราใช้เสียงของ Luise Armstrong
Luise Armstrong ร้องเพลงนี้ปี 1967 วันนี้เราเลือกเวอร์ชั่นของ Israel (Iz) Kamakawiwo คือนักร้องที่เขาเรียกว่า Iz .. Iz นี่มีชื่อมาก เขาเรียกว่า Gentle Giant ยักษ์ผู้สุภาพ ยักษ์ผู้นุ่มนวล ทำไมต้องเป็น Gentle Giant ล่ะครับ รูปร่างเขาไม่เท่าไรหรอกครับ รูปร่างเขาขนาดคุณแอน จินดารัตน์ 334 กิโลฯ พี่น้องคิดดูก็แล้วกัน น้ำหนัก 334 กิโลฯ เขาเลยเรียกว่า Gentle Giant แกตายไปแล้ว หัวใจวายด้วยอายุเพียง 38 แต่แกบอกว่าตัวแกใหญ่อย่างกับยักษ์ แต่เสียงแกนุ้ม นุ่ม นุ่มมากเลยนะครับ เขาชื่อ Israel "Iz" Kamakawiwo มีชื่อเสียงมากในฮาวาย เป็นคนซึ่งเริ่มเพลงซึ่งโด่งดังไปทั่วโลก คือ Over the Rainbow เหนือสายรุ้งขึ้นไป
เดี๋ยวพักสักครู่ ระหว่างพักผมอยากให้ฟัง full version นะครับ ทีมงานช่วยเปิด full version ให้กับพ่อแม่พี่น้องฟังสักนิดหนึ่ง เชิญครับ
(เบรก : เพลง What a Wonderful World)
กลับมาช่วงสุดท้ายนะครับ ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้วนะครับ ภาพอาจจะดูไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่ว่าเนื้อหายังเหมือนเดิมนะครับ วันนี้แวะมาข่าวต่างประเทศสักนิดหนึ่ง วันนี้จะพูดเรื่องประเทศจีนเสียหน่อยนะครับ ประเทศจีนตอนนี้ได้ประกาศงบประมาณเงินที่จะเอามาเป็นงบป้องกันประเทศแล้ว น่าสนใจมากนะครับ
รัฐบาลจีนประกาศว่าจะเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศ มากกว่าปีที่แล้ว 14.9 เปอร์เซ็นต์ 14.9 เปอร์เซ็นต์ ฝรั่งก็โวยวาย ฝรั่งก็บอกว่า จริงๆ แล้วในข้อเท็จจริงจีนมักจะไม่ชอบพูดความจริง คือเขาบอกว่าเพิ่ม 14.9 เปอร์เซ็นต์ อาจจะต้องเพิ่มเยอะมากกว่านั้น
งบประมาณป้องกันประเทศจีนนี่มูลค่าเงินเท่าไร พี่น้องรู้ไหม คิดเป็นเงินไทย 2 ล้านล้านบาท 2 ล้านล้านบาท ก็ยังมากกว่างบประมาณประเทศไทยทั้งประเทศ แต่อย่างว่านะครับประเทศจีนนั้นเป็นประเทศใหญ่ ประชากรมาก ทางประเทศจีนในขณะนี้เป็นเรื่องของการงัดข้อกันระหว่างประเทศตะวันตกกับประเทศจีน ถ้าจีนเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศเมื่อไหร่ คือเพิ่มงบทหาร ทางตะวันตกก็จะโวยวายมาทันทีเลยว่า เอ๊ย ประเทศจีนเพิ่มไปทำไม มีประโยชน์อะไร น่ากลัว จะมาคุกคามสันติภาพหรือเปล่า จีนก็จะบอกว่าจีนเพิ่มขึ้นมาไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นเลย จีนต้องการดูแลประเทศเอง และจีนก็จะใช้ตรรกะ เหตุผลที่อ้างว่า ถ้าเทียบกับจำนวนประชากรและพื้นที่แล้ว งบประมาณนี้ต้องถือว่าน้อยนิดมาก
ทีนี้ทางฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะอย่างอเมริกา ก็กลัวจีนมากตอนนี้ เพราะตั้งแต่จีนยิงดาวเทียม ส่งมนุษย์อวกาศไปเดินอวกาศ ท่องอวกาศแล้ว กำลังจะสร้างสถานีอวกาศ เขาบอกจีนตอนนี้มีความสามารถที่จะยิงดาวเทียมร่วงได้แล้ว ก็คือดาวเทียมของอเมริกา ถ้าเดินทางผ่านจีนแล้วไปสืบราชการลับโดยผ่านดาวเทียม จีนมีความสามารถที่จะยิงดาวเทียมหล่นได้ เพราะฉะนั้นทางตะวันตกก็จะกลัวจีนอย่างมากๆ เพราะว่าอิทธิพลของจีนกำลังเริ่มแผ่ขยายมาทางพื้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นๆ โดยไม่หยุดยั้ง
อีกข่าวหนึ่งของเมืองจีน ซึ่งเป็นข่าวที่สนุกสนานมาก พี่น้องรู้มั้ยว่าจีนเขาประหยัด เขามีคำสั่งออกมาเลย ผมฟังแล้วผมก็ขำ แต่ว่าในท่ามกลางการขำเนี่ยผมก็เชื่อว่าจีนเขาทำจริง จีนเขาบอกว่า เพื่อเป็นการประหยัด จากนี้ไปงบเลี้ยงอาหารของจีน เลี้ยงผู้นำ แม้กระทั่งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านนายกฯ เนี่ย เขาจะมีน้ำแกง 1 อย่าง และกับข้าว 3 อย่าง และไม่เลี้ยงเหล้าแล้ว เพราะเหล้ามันแพง
จริงๆ แล้วเลี้ยงผู้นำต่างประเทศเนี่ย จะเลี้ยงเยอะหน่อยก็ไม่เสียหาย เพราะมันเป็นเศษส่วนน้อยนิด แต่ผมเข้าใจว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เขาแสดงออกให้เห็นว่า แม้กระทั่งผู้นำประเทศก็ยังต้องประหยัดเงิน ผมอยากจะให้ผู้นำประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ ทำเป็นตัวอย่างหน่อย อาจจะมีกรณีเดียว ก็คือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านก็ไม่ค่อยใช้เรื่องพวกนี้ แต่ว่ารัฐมนตรีทุกคนเลิกใช้รถนำได้หรือยัง เลิกใช้รถมอเตอร์ไซค์นำ รถตำรวจนำอีก 2 คัน มีปิดท้ายอีก 1 คัน ทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นไม่เคยไปต่อสู้อะไรกับชาวบ้านเขาเลย ไอ้คนที่ควรจะถูกนำมากกว่าก็คือพวกแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะถูกลอบฆ่า ลอบสังหาร ถูกลอบรังแกอยู่ตลอดเวลา ผมอยากให้ผู้นำไทยแสดงตรงนี้ออกมาบ้าง
พี่น้องครับ วันนี้เป็นวันนักข่าว คนที่อยู่ในอาชีพข่าวอย่างผมมาร่วมๆ 35 ปี 35 ปีที่ผมอยู่ในอาชีพข่าว ถ้านับว่าเป็นผู้อาวุโส ก็ต้องเป็นผู้อาวุโส 1 ไม่เกิน 3 นะครับ นั่นคือรูปสมัยผมหนุ่มๆ ซึ่งทำข่าวตอนที่กลับมาจากต่างประเทศใหม่ ดูทรงผม ดูสิ่งที่ผมกำลังนั่งอ่านอยู่นะครับ (ถ้ามีรูปเก่าๆ ก็ให้วิ่งต่อไปนะครับ) รูปต่อไปก็จะเป็นรูปที่ผมไปทำข่าว ผมไปสัมภาษณ์คุณวิโรจน์ ภู่ตระกูล คุณวิโรจน์ ภู่ตระกูล นั้นท่านเสียชีวิตไปแล้ว อดีตท่านเป็น Chairman ประธานของบริษัท ลีเวอร์-บราเธอร์ส นะครับ ตอนนั้นผมทำข่าวเศรษฐกิจ ข่าวธุรกิจอยู่นะครับ (ต่อไปครับ) นี่คือรูปนั่งกับลูกชายคนเดียว นายปั๊บ ตอนนั้นเด็กๆ อยู่ ไปดูพ่อที่โต๊ะทำงานข่าว ก็อาจจะเป็นที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เด็กเล็กก็ได้ ก็เลยชอบ สนใจในวงการข่าว ต่อไปอีกรูปหนึ่งที่จะให้ดูนะครับพี่น้อง
พี่น้องเห็นหรือยังครับ คนนั่งทางขวามือในทีวีของพี่น้อง นั่นคือฮุน เซน นะครับ ผมเคยได้เคยพบปะนายฮุน เซน ในช่วงที่เขาเข้าไปยึดเขมรคืนใหม่ๆ สมัยนั้นคุณทักษิณ อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ จำไม่ได้ คุณทักษิณยังไม่รู้เลยว่าเขมรมีแบ่งออกเป็นกี่ฝ่าย ไม่มีใครรู้จักเขมรหรอกครับ ผมไปเขมรยุคนั้น ผมต้องนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเวียงจันทน์ จากเวียงจันทน์ ต้องขอวีซ่าเข้าเขมรก่อน แล้วนั่งเครื่องบินใบพัดรัสเซียไปเข้าพนมเปญ โดยแวะที่ปักเซก่อน แล้วจากปักเซเข้าสู่พนมเปญ พอเครื่องลงที่พนมเปญปั๊บ ลงท่ามกลางปืนต่อสู้อากาศยานซึ่งตั้งอยู่รอบกรุงพนมเปญ เพราะว่าตอนนั้นเขมรแดงก็ยังใช้ปืนครกถล่มพนมเปญอยู่ ผมก็ไปสัมภาษณ์ฮุน เซน ยุคนั้นผมเจอท่านนายพลเตีย บัญห์ รัฐมนตรีกลาโหมของเขมรในปัจจุบัน ซึ่งเป็นคนไทยที่เกาะกง
สมัยนั้นท่านฮุน เซน กับท่านเตีย บัญห์ ยังใส่รองเท้าแตะอยู่เลยนะครับ นี่ผมเรียนให้ทราบนะครับ วันนี้กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการ กลายเป็นเจ้าของพื้นที่น้ำมัน จะมายึดพื้นที่น้ำมันของประเทศไทย ช่วงนั้นฮุน เซน ตอนนั้นขณะนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้คิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องมาเจอทักษิณ ชินวัตร วันหนึ่งจะต้องมานั่งทะเลาะกับประเทศไทย วันหนึ่งจะต้องมาเรียกร้องเขาพระวิหารคืน วันนี้ฮุน เซน เป็นนักการเมืองเต็มตัว ไม่ใช่ฮุน เซน ในยุคเดิมอีกต่อไปแล้วนะครับ
นักข่าวสมัยผม หรือนักข่าวสมัยโบราณนั้น จริยธรรม คุณธรรม และความเข้มแข็งทางศีลธรรม มีมากกว่าสมัยนี้เยอะ สมัยโน้น ถึงแม้นักข่าวสมัยโน้นจะชอบกินเหล้าเมายา แต่การกินเหล้าเมายานั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษนอกเหนือจากการระบายความเครียดตัวเอง แต่ว่านักข่าวสมัยโน้นจิตใจมุ่งมั่นแน่วแน่ ต่อสู้กับเผด็จการอย่างเต็มที่ สมัยนั้นวุฒิภาวะ สภาวะแวดล้อมกับสมัยนี้ก็ไม่เหมือนกัน อันนี้ก็น่าเห็นใจ
นักข่าวสมัยผมนั้นพอออกไปทำข่าวแล้วก็กลับมาที่โรงพิมพ์ ก็มานั่งเขียนข่าว บางคนก็หาข้อมูล บางคนก็โทรศัพท์ไปขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่นักข่าวสมัยนี้เป็นนักข่าวที่หาข่าวบนสนามกอล์ฟ ถามว่าหาข่าวบนสนามกอล์ฟ ดีหรือไม่ดี ไม่เสียหาย แต่ว่าการที่นักข่าวเล่นกอล์ฟ นักข่าวได้ก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งธุรกิจ โลกแห่งผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นความซื่อตรง อย่างคุณพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ท่านชอบพานักข่าวไปตีกอล์ฟอยู่เรื่อย แล้วนักข่าวสายหนังสือพิมพ์เครือมติชน ตีกอล์ฟมากที่สุด กับคุณพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่ผมพูดนี่ไม่ได้หมายความว่าคนตีกอล์ฟกับคุณพงษ์ศักดิ์แล้วจะเพี้ยนนะ แต่ผมกำลังบอกว่ามันเปิดช่องทางให้คนๆ นั้นไม่สามารถที่จะมองปัญหาด้วยข้อเท็จจริง หรือไม่สามารถที่จะมองปัญหาด้วยหลักการที่สำคัญๆ
นักข่าวสมัยนี้ต้องผ่อนบ้าน นักข่าวสมัยนี้ต้องผ่อนรถ นักข่าวสมัยนี้มีความจำเป็นต้องส่งลูกเรียน บางคนซื้อบ้านหลังหนึ่งเกือบสิบล้าน บางคนต้องส่งลูกไปเรียนเมืองนอก บางคนมีรถยนต์ราคาแพง ต้องผ่อนรถเดือนละ 20,000-30,000 เบ็ดเสร็จบางคนเดือนหนึ่งใช้เงินเกือบแสน นักข่าวจะเอาเงินจากไหน ทั้งนักข่าว นักเขียนคอลัมน์ ก็จะเอามาจากไหนล่ะครับ ก็ต้องมีคนเอาเงินให้ เมื่อมีคนเอาเงินให้แล้วก็ต้องเป็นหนี้บุญคุณกัน นี่เฉพาะนักข่าวนะครับ ยังไม่นับถึงคอลัมนิสต์ซึ่งเขียนตวัดปากกา เชียร์คนโน้น ด่าคนนี้ ยิ่งอยู่ในหนังสือพิมพ์ที่มีอิทธิพลมาก หรือหนังสือพิมพ์ที่ไม่มีอิทธิพล แต่ความเป็นคอลัมนิสต์นี่อภิสิทธิ์มันก็มีเยอะ
นี่รวมไปจนถึงนักโทรทัศน์ สื่อสารมวลชนทางสถานีโทรทัศน์ ก็เป็นเช่นนั้นเช่นกัน บางคนจัดรายการอยู่ในช่องที่คนดูเยอะ พูดอะไร พูดบางคนให้เป็นเทวดาก็พูดได้ พูดตำหนิติเตียนหน่อยคนนั้นก็เสีย นักสื่อสารมวลชนประเภทนี้มีมากเหลือเกินในสังคมไทย มีมากจนกระทั่งพวกนี้ลืมบทบาทหน้าที่ของตัวเอง และที่ผมกล้าพูดเช่นนี้ เพราะว่าการต่อสู้ตั้งแต่ปี 2548 49 50 51 แม้กระทั่งปัจจุบัน บทบาทของสื่อมวลชนพวกนี้ก็ยังเป็นบทบาทที่ไม่ซื่อตรงต่ออาชีพตัวเอง ซื่อตรงต่อสมบัติ ซื่อตรงต่อทรัพย์ ซื่อตรงต่อลาภที่คนแอบให้ ถ้าหากคนพวกนี้ซื่อตรงต่ออาชีพตัวเอง วันนี้คุณทักษิณไม่มีโอกาสได้เกิดหรอกครับพี่น้อง นี่ผมพูดอย่างตรงไปตรงมาเลย ผมไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าหนังสือพิมพ์และนักข่าวเขามีคติว่า แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกันเอง ผมไม่ยอมรับเรื่องนี้ ผมรับไม่ได้นะครับ แมลงวันไม่ใช่เพียงไม่ตอมแมลงวันด้วยกันเองนะครับ ยังจะต้องต่อสู้กับแมลงวันที่ใช้ไม่ได้
พี่น้องครับ หลายคนชอบอ้างความเป็นกลาง นั่นคือที่มาว่าเวลามีการเสนอว่าสมานฉันท์เสียที นักข่าวสายซึ่งไม่มีสติปัญญา หรือว่าสายซึ่งมีผลประโยชน์ ก็จะบอกว่าใช่ สมานฉันท์ แต่คนพวกนี้ลืมข้อคิดขั้นพื้นฐานของการเป็นนักข่าวว่า สมานฉันท์กันบนพื้นฐานอะไร เราพูดกันตลอดเวลาว่า โจรกับพระจะมาสมานฉันท์กันคงไม่ได้ แม้กระทั่งเรื่องบางเรื่องซึ่งคาบลูกคาบดอก ถ้าเป็นนักข่าวที่ยึดถือจรรยาบรรณจริงๆ เขายังไม่ให้อภัยกันเลย เพราะฉะนั้นแล้ว นักข่าวเมืองไทยมีอยู่ประเด็นเดียว นั่นก็คือว่า องค์ความรู้นักข่าวเมืองไทยมีปัญหา เพราะนักข่าวเมืองไทยชอบมองปัญหา ผมเคยสอนลูกหลานเด็กๆ คนซึ่งเป็นลูกศิษย์ผม หรือเพื่อนฝูงผม ตลอดจนลูกน้องผม ว่านักข่าวเมืองไทยชอบมองปัญหาแบบ Real time คืออะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหน้าปั๊บ ตัดสินทันทีเลย โดยไม่สามารถจะมองย้อนหลังไปว่าก่อนที่มันจะมาอยู่ตรงนี้ มันมีอะไรเกิดขึ้นก่อน มันถึงพัฒนามาตรงนี้ นั่นคือหลักปฏิจจสมุปบาท
หลักปฏิจจสมุปบาท นั่นก็คือว่า เมื่อมีเหตุนี้ มันก็เลยต้องมีเหตุนั้น เมื่อมีเหตุนั้นมันต้องมีเหตุนี้ต่อไป คือทุกอย่างมันเป็นลูกโซ่ไปหมด มันไม่มีอะไรที่จะมาเกิดขึ้นได้ ณ วันนี้ เวลานี้ คำถามคือ นักข่าวไม่เคยถามว่าทำไมเสื้อแดงถึงไม่หยุด ทำไมคุณจักรภพถึงไม่หยุด ทำไมสามเกลอหัวขวดถึงไม่หยุด ทำไมคุณใจ นายใจ ถึงออกมาพูดอย่างนี้ แล้วทำไมวีระ มุสิกพงศ์ ถึงสนับสนุนนายใจบนเวที แล้วนายใจออกไปนอกประเทศ ไปโจมตี ทักษิณออกไปนอกประเทศ ไปโจมตี นั่นคือกระบวนการ กระบวนการที่เชื่อมโยงกันโดยไม่ต้องพูด แต่พฤติกรรมของแต่ละส่วนนั้นมันเชื่อมโยงกันให้เห็นว่าเสื้อแดง จักรภพ เพ็ญแข พรรคเพื่อไทย ส.ส. อดีต ส.ส.111 คน ที่ถูกห้ามเล่นการเมือง กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ในนั้น รวมไปถึงทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการเดียวกัน ที่ต่อสู้เพื่อชิงอำนาจ แต่นักข่าวไทยมักจะมองว่า คุณเฉลิมพูดอย่างนี้ สามเกลอหัวขวดพูดอย่างนี้ จักรภพพูดอย่างนี้ แต่โยงไม่เป็น หรือว่าไม่ต้องการโยง ตรงนี้ พี่น้อง เป็นเรื่องที่น่ากลังมาก เพราะว่าถ้าคุณไม่สามารถที่จะทำให้ประชาชนที่ติดตามข่าวคุณได้เข้าใจองค์รวมทั้งหมด ประชาชนจะไม่มีวันเข้าใจ จากภาพเพียงภาพเดียว คุณต้องเอาภาพยนตร์ทั้งเรื่องโยงให้ประชาชนเห็น แล้วหน้าที่ของการแปลภาพยนตร์เรื่องนั้นอยู่ที่ใคร อยู่ที่ตัวคุณ อยู่ที่นักข่าว คุณต้องแปลภาพยนตร์นี้ให้ถูกต้อง เล่าให้ฟัง เพราะหน้าที่เราเป็นหน้าที่อยู่ตรงนี้อย่างเดียว
แล้วคำว่าเป็นกลาง ผมก็สอนหนังสืออยู่ที่ธรรมศาสตร์ ผมสอนเด็กปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วนี่เดือนมิถุนายน ก็รับปาก อ.พรจิต คณะวารศาสตร์ ว่าจะไปสอนเด็กปี 4 วารศาสตร์ เรื่อง Political Communication การสื่อสารทางการเมือง แต่เป็นภาคภาษาอังกฤษ ผมจะพูดตลอดเวลาว่า คนมักจะกล่าวหาผมบอกว่า คุณสนธิ คุณเห็นหรือเปล่าล่ะ คุณเห็นคุณทักษิณคอร์รัปชั่นหรือเปล่า คุณเห็นอันโน้นอันนี้หรือเปล่า ถ้าคุณไม่เห็นแล้วคุณไปพูดได้อย่างไร คุณต้องเห็น คุณต้องมีหลักฐาน ชอบเหลือเกินคำว่าหลักฐาน เอามาพิสูจน์กัน แต่ท่านผู้ชมครับ พี่น้องครับ ผมถามท่านผู้ชม พี่น้องนิดหนึ่งนะครับ ท่านผู้ชม ท่านพี่น้อง อยู่ที่บ้านเมื่อคืนนี้ นอนหลับสนิท ตื่นมาตอนเช้า ถนนเปียก ต้นไม้เปียก ดอกไม้มีเกล็ดน้ำเต็มไปหมด ท่านผู้ชมก็บอกว่า เมื่อคืนฝนตก ผมก็ถามกลับแล้วท่านผู้ชมเห็นฝนมันตกหรือเปล่าล่ะ ก็ไม่เห็นใช่มั้ย แล้วทำไมท่านผู้ชมกล้าพูดว่าฝนมันตกล่ะ เพราะว่าสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมประจำวัน การกระทำแต่ละจุด ถึงแม้ว่าจะพิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าเอามาโยงเข้าหาซึ่งกันและกันแล้ว นั่นคือคำตอบว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น เหมือนอย่างที่เรานั่งอยู่เฉยๆ นี่ อากาศอ้าวเหลือเกิน ร้อนอบอ้าว เมฆเต็มไปหมดเลย เมฆสีดำอยู่บนพื้นฟ้า แล้วสักพักหนึ่งก็มีลมเย็นพัดเข้ามา เราก็บอกว่าฝนตกแล้ว ตกอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงรู้ว่าฝนมันตกแล้ว ที่รู้ก็เพราะว่าเรารู้จากองค์ความรู้เราว่าอากาศมันร้อน มันอ้าว เมื่ออากาศมันร้อนมันอ้าวแล้ว โอกาสฝนตกมันสูง อ้าวเมฆดำ นั่นแสดงว่าเมฆฝนมาก อ้าวทำไมอากาศมันเย็น แสดงว่าฝนมันตกอยู่ตรงโน้น แล้วลมมันพัดมาทำให้เรารู้ว่าเย็น เดี๋ยวฝนก็ต้องมาตกทางนี้ เห็นหรือยังพี่น้อง ฝนมันยังไม่ตกแล้วทำไมเราพูดว่าฝนกำลังจะตก เข้าใจหรือยังพี่น้อง
เพราะฉะนั้นแล้ว นักข่าวถ้าไม่มีองค์ความรู้ และถ้ามีองค์ความรู้แต่ไม่อธิบายทั้งองค์ความรู้ จงใจอธิบายเป็นเฟรมๆ ไป คนๆ นั้นไม่ใช่นักข่าว พ่อแม่พี่น้องครับ
หมดเวลาสำหรับรายการ Good Morning Thailand ที่สมุยแล้วนะครับ พรุ่งนี้กลับไปเจอกันเวลาเดิม ที่ Good Morning Thailand ที่ห้องส่ง ASTV นะครับ แล้วพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันศุกร์ที่ผมจะออก Good Morning ในตอนเช้า และขึ้นเวทีที่ ASTV ในตอนเย็น ตอนค่ำ ครับพ่อแม่พี่น้องครับ และท่านผู้ชม ก่อนจากไปต้องกราบขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องชาวสมุยที่ร่วมมือร่วมใจกันทำให้งานเมื่อคืนนี้สำเร็จอย่างน่ามหัศจรรย์ที่สุด เวทีสวยมากครับ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องครับ