“กล้านรงค์” เผย ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับสำนวนทุจริตนมโรงเรียนจาก ป.ป.ท. ระบุหากส่งมา ต้องขอดูก่อนว่าอยู่ในอำนาจที่ ป.ป.ช.หรือไม่ ชี้หากทำผิด “พ.ร.บ.ฮั้ว” พร้อมตรวจสอบเอาผิดทันที ด้าน “เมธี ครองแก้ว” ชี้อาจมีปัญหาข้อกฎหมาย เหตุ พ.ร.บ.ให้อำนาจ ป.ป.ท.ยังไม่ผ่านสภา แต่มาทำหน้าที่ก่อน
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะส่งสำนวนการทุจริตโครงการนมโรงเรียนมาให้ ป.ป.ช.พิจารณาว่ายังไม่ได้รับการประสานจาก ป.ป.ท.ว่า จะส่งสำนวนมาให้ แต่ตามขั้นตอนแล้ว เมื่อมีการส่งสำนวนมาให้ ป.ป.ช.ต้องนำรายละเอียดในสำนวนมาพิจารณาว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบได้หรือไม่ ถ้าพบว่า เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ก็อยู่ในอำนาจที่ป.ป.ช.ตรวจสอบได้ ไม่ว่าผู้กระทำความผิดจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเอกชน โดยถ้าผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อไต่สวนเสร็จแล้ว ก็ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษ แต่ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นเอกชน เมื่อ ป.ป.ช.ไต่สวนชี้มูลความผิดเสร็จแล้ว ก็จะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป โดยยึดสำนวน ป.ป.ช.เป็นหลัก
นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีการหารือกันถึงอำนาจของ ป.ป.ท. ว่า มีอำนาจสอบสวนเรื่องดังกล่าวหรือไม่ เพราะกฎหมายที่ให้อำนาจ ป.ป.ท.ยังไม่ผ่านสภา จึงเห็นว่า อาจเป็นการทำหน้าที่ก่อนที่กฎหมายจะรองรับให้ทำ หากสำนวนของ ป.ป.ท.มาถึง ป.ป.ช.ก็เป็นเพียงเอกสารข้อมูลชิ้นหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ใช่สำนวนที่ ป.ป.ช.สามารถนำไปสอบสวนต่อได้ทันที
อย่างไรก็ตาม คงไม่ถึงกับว่าการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของ ป.ป.ท.ล้มเหลว เพราะหาก ป.ป.ท.ต้องการให้ ป.ป.ช.สอบสวนคดีนี้ต่อไปก็สามารถเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ได้ จากนั้น ป.ป.ช.จึงมาดูว่าอยู่ในอำนาจที่ดำเนินการไต่สวนได้หรือไม่ แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับ 7 ลงไป ป.ป.ช.อาจไม่สามารถไต่สวนได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ระบุให้การไต่สวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับ 7 ลงไปเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ท.
