“เทพไท” เย้ย เพื่อไทย ฝันตั้งรัฐบาลแห่งชาติเอง แนะ “จาตุรนต์” ทำความเข้าใจ ส.ส.เพื่อไทย ให้พ้นน้ำก่อน แล้วค่อยเคลื่อนไหวทางการเมือง ชี้ ทางสว่าง “เป็ดเหลิม” ฟังคำ “ป๋าเหนาะ” แล้วมองดูเงาตัวเองก่อนเสนอตัวเป็น “นายกฯ”
วันนี้ (1 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังคงมีแนวคิดเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยจะเห็นว่า กลุ่มของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ นายวิทยา บูรณะศิริ ยังยืนยันจนวินาทีนี้ ว่า ยังมีแนวคิดเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะยังพูดไปถึงว่าหลังจากตั้งรัฐบาลแห่งชาติแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้กลับมาประเทศไทย ซึ่งหมายความว่า การเคลื่อนไหวตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ปรากฏชัดว่าทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่ร่วมตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ก็อยากให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปตกลงทำความเข้าใจในพรรคให้ดีก่อน หากยังตกลงไม่ได้ก็สามารถไหว้วานนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นผู้หล่อหลอมแนวความคิดของคนในพรรคเพื่อไทย ให้เป็นเอกภาพเสียก่อน
สำหรับกรณีที่ฝ่ายค้าน ระบุมีข้อมูลจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีถึง 14 ประเด็นนั้นนายเทพไท กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีเรื่องใดบ้าง แต่เห็นว่า เรื่องที่เปิดออกมา 3-4 เรื่อง พรรคได้ออกมาชี้แจงตอบไปหมดแล้ว และอยากให้ในพรรคเพื่อไทยได้ทำความเข้าใจกันถึงตัวบุคคลที่จะใส่ชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน เพราะ นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการแก้ขัด และให้เกียรติที่ในฐานะที่เป็นหัวหอกการอภิปราย แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ยังไม่รู้จักตัวตนของตนเองดีพอ จึงแนะนำให้ไปไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช แล้วว่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์การเมืองหลังจากนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การเมืองในท้องถนนของคนเสื้อแดง ซึ่งคิดว่าคงจบแล้ว เพราะการเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชน แต่อีกส่วนคือการเมืองในสภา ที่คิดว่าคงจะเข้มคนขึ้น เพราะจะมีทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเชื่อว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะใช้กลไกในสภาขัดขวางการทำงานของรัฐบาลในการออกกฎหมาย และโครงการต่างๆที่ต้องผ่านการพิจารณาจากสภา ที่จะต้องขัดขวางอย่างเข้มข้น จึงอยากให้จับตาดูการเคลื่อนไหวต่อไป
