รองนายกฯ ชท.พน.เปรียบจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เสมือนน้ำกับน้ำมัน เย้ยฝ่ายค้านหวังให้พรรคร่วมแตกคอไร้ผล เหน็บเงินบริจาคพรรค ปชป.แค่มวยลัมต้มคนดูหวังล้มรัฐบาลเป็นไปได้เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล
วันนี้ (27 ก.พ.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ร่วมจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า แนวคิดนี้เป็นไปได้ยาก และไม่ทราบว่ามีการปล่อยข่าวมาได้อย่างไร ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มกลุ่มทศวรรษใหม่ ในพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยที่จะไปจัดตั้งร่วมกับพรรคเพื่อไทยนั้น เมื่อวัน 26ก.พ.ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้ชี้แจงกับตนว่าไม่ได้ไปร่วมรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคเพื่อไทยแต่อย่างได แต่เป็นการพบปะกันในห้องกรรมาธิการและไปกินข้าวกัน จึงมีรูปถ่ายออกมา ความจริงเป็นเพียงการทานอาหารร่วมกันเท่านั้น ไม่ได้มีการหารือแต่อย่างได
“น้ำกับน้ำมันผสมกันลำบาก ส่วนใครจะเป็นน้ำมันนั้นไม่ทราบ เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น เนื่องจากน้ำมันกับน้ำแยกกันอย่างชัดเจน ไม่สามารถผสมกันได้ หากจะเอาน้ำไปเติมรถแทนน้ำมันก็จะมีอาการฝึดฟัดวิ่งไม่ได้” พล.ต.สนั่นกล่าว
ส่วนกรณีที่มีการปล่อยข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ทำให้พรรคร่วมเกิดความไม่ไว้วางใจกันหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ อยู่แล้ว อย่างที่บอกเป็นไปไม่ได้น้ำกับน้ำมัน ต้องแยกกันอยู่ แต่เหตุใดถึงมีการปล่อยข่าวในลักษณะนี้ เห็นว่าเกมการเมืองต้องมีเทคนิคการเสนอข่าว ในแง่มุม ในทางการเมืองซึ่งมีอย่างนี้ตลอด
พล.ต.สนั่น กล่าวถึงปัญหาเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ว่าตนไม่น่าเกี่ยวข้อง เพราะในช่วงนั้นออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นหัวหน้าพรรคมหาชนแล้ว ไม่มีการหารือกับใครในพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับพรรคแต่เป็นเรื่องส่วนตัว การที่ฝ่ายค้านนำมาขยายผล เพื่อเล่นงานรัฐบาลก็เชื่อว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะนำประเด็นนั้นมาอภิปรายฯ เพราะสมัยตนก็ถูกอภิปรายมามาก โดยเฉพาะเรื่องบ้านสามหลังสุดท้ายก็ไม่รู้ เพราะตนก็ไม่เคยเห็นบ้านสามหลัง
“ผมติดตามสถานการณ์เรื่องนี้มาตลอด การนำมาอภิปรายคิดว่าคงยาก เพระเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค เป็นเรื่องของบุคคลเรื่องส่วนตัวล้วนๆ”
พล.ต.สนั่น กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีของนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ว่าการยื่นก็สามารถทำได้ ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร เพราะไม่มีกฎหมายห้ามไว้ ซึ่งตนก็ไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะหากทำเป็นตัวอย่าง เรื่องจะได้มีความชัดเจน ส่วนฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคก็ไม่กังวล เพราะทุกคนก็ทำงานได้ดี
