โฆษกส่วนตัวนายกฯ อาสาแจงแทน ชี้ ไม่อยากให้รกสภา เผย เรื่องรถยนต์โอนกรรมสิทธิ์ถูกต้องไม่ต้องแจง ป.ป.ช.ตอกกลับลากแม่-เมีย พันการเมืองแค่น้ำจิ้ม เชื่อแจงได้ทุกประเด็น แฉม็อบเสื้อแดงคนเริ่มร่อยหรอ เหตุท่อน้ำเลี้ยงรั่ว แถมปิดกั้นกันเองกระจุกแค่ “แก๊งหัวขวด” ทำมวลชนอื่นเมินหนี
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้กรณีที่พรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในกรณีซุกทรัพย์สิน โดยไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช.และประเด็นที่มีการโยงถึงมารดาของนายอภิสิทธิ์ ว่า ความจริง นายอภิสิทธิ์ อยากชี้แจงทั้งสองเรื่องในสภา แต่เกรงว่าจะรกสภา จึงขอชี้แจงเบื้องต้นว่า รถยนต์ฮอนด้าโอดิสซี่ หมายเลขทะเบียน 9 ฬ 2733 นั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เช่าซื้อมาในปี 2539 และโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2542 ต่อมาได้ขายต่อให้ พ.ต.ท.นีรนาท ฉินประสิทธิ์ชัย รอง ผกก.จร.สน.จักรวรรดิ ซึ่งเป็นตำรวจติดตาม โดยโอนรถให้ พ.ต.ท.นีรนาท ในวันที่ 15 ก.ย.2551 และเปลี่ยนทะเบียนเป็น ฐฬ 2733 ซึ่งเรื่องนี้ได้ดำเนินการก่อนการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือน ธ.ค.2551 จึงไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช.แต่อย่างใด
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า มารดาของนายอภิสิทธิ์ใช้บารมีหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บีบให้ผู้ว่าราชการ กทม.จัดเวลาในคลื่นของ กทม.ให้จัดรายการนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมารดาของ นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เป็นเจ้าของรายการ แต่เป็นวิทยากรในรายการธรรมะเท่านั้น อีกทั้งคลื่นดังกล่าวยังมีผู้จัดรายการอีกหลายรายขอใช้อีกด้วย
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่า นายกฯไม่ได้ซุกทรัพย์สิน และไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ให้คนในครอบครัว หรือคนใกล้ชิดแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่วงศ์วานว่านเครือ ได้รับการปูนบำเหน็จให้มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้นทุกคน คนในตระกูลชินวัตร และ ดามาพงศ์ ได้ดิบได้ดีกันทั่วหน้า แม้แต่หมอประจำตัวแม่ยาย พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนประเด็นเงิน 258 ล้าน ที่ฝ่ายค้านระบุว่า จะเป็นอีกหมัดเด็ดนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ถึงกับต้องขอข้อมูลไปดูว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนหรือไม่นั้น ตนได้พบ นายชวน แล้ว โดย นายชวน ชี้แจงว่า ไม่ได้รับรู้เรื่องดังกล่าว รวมถึงไม่ได้เรียกใครไปชี้แจง ยืนยันว่า การที่ฝ่ายค้านระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์หวั่นไหวในเรื่องนี้ จนต้องพูดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ แลกกับการไม่ต้องอภิปรายในประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัวเรื่องนี้ เป็นแค่เรื่องน้ำจิ้มซึ่งสามารถชี้แจงได้
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง 2 วันที่ผ่านมา ตนเห็นว่า ผู้ร่วมชุมนุมน้อยกว่าที่คิด เพราะก่อนหน้านี้ ตนประเมินว่า จะมีมากกว่านี้หลายเท่า ซึ่งสาเหตุที่มีผู้มาร่วมน้อยลงนั้น น่าจะมาจาก 1.ผู้ร่วมชุมนุมชาว กทม.รวมถึงผู้ที่รักประชาธิปไตยไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะจะเป็นการทำให้ประเทศเสียโอกาสในการเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียน 2.การบริหารจัดการ ท่อน้ำเลี้ยงมีปัญหา เงินค้างท่อ หรือไม่ก็ท่อรั่ว ถ้าไม่แก้ไขล้างท่อด่วน คนจะมาน้อยกว่านี้ 3.การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และเสื้อเหลือง ที่แตกต่างกัน เนื่องจากคนเสื้อเหลืองมาด้วยใจ แต่คนเสื้อแดงมาด้วยจ้าง การบริหารจัดการที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อาหาร การดูแลรักษาความปลอดภัย รวมถึงการปราศรัยบนเวที สังเกตได้จากผู้ปราศรัยส่วนมากจะเป็นคนของความจริงวันนี้ โดยปิดกั้นแกนนำมวลชนอื่น จนเกิดความไม่พอใจจนพามวลชนกลับ ซึ่งหาก 1-2 วันนี้ เจ้าของม็อบตัวจริงไม่ปรับปรุง คาดว่า ผู้ร่วมชุมนุมจะน้อยลงกว่านี้อีก