รมว.ต่างประเทศ พร้อมเป็นตัวกลางประสานต่างประเทศขอตัว “แม้ว” กลับมารับโทษ รอเพียงกระบวนการยุติธรรมส่งสัญญาณ ไม่สนเสียงเสื้อแดงขับไล่ ลั่นแค่คนหยิบมือเตือนอย่าประท้วงไร้สาระสังคมจะเป็นผู้ตัดสิน โชว์ผลงาน 2 เดือนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
วันนี้ (26 ก.พ.) นายกษิต ภิรมย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปปาฐกถา ที่เกาะฮ่องกง เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศ ดูข้อกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ว่า การจะดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ทั้งนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้พูดไปแล้วว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม เราอยู่ฝ่ายบริหาร กระบวนการยุติธรรมจะมอบหมาย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างไร เราถือเป็นหน้าเสื่อที่จะติดต่อกับต่างประเทศก็พร้อมที่จะดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากเรียกร้องให้อัยการสูงสุด ส่งเรื่องมายังกระทรวงการต่างประเทศใช่หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า แล้วแต่การตัดสินใจของสำนักงานอัยการสูงสุด เรากำลังรอการตัดสินใจของท่านอยู่ เมื่อถามว่า เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตัวท่านเองที่ขณะนี้มีการเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง จะกระทบต่อบรรยากาศการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ไม่ ตนไม่รู้จะมาเรียกร้องตนเอง ด้วยเนื้อหาสาระอะไร สองเดือนที่ผ่านมา สื่อก็เห็นว่าทำงานอะไรกันไปบ้าง ทั้งโดยรัฐบาลและโดยกระทรวงการต่างประเทศ เราทำงานกันไม่หยุดยั้ง นโยบายที่นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมาชัดเจน กฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะงบประมาณกลางปี ที่จะช่วยจุนเจือภาวะเศรษฐกิจของคนไทยทุกคน ได้ผ่านไปหมดแล้ว เงินจะถึงมือประชาชนภายในเดือนเมษายนนี้ เราทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งนี้สะท้อนออกไปในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ไม่ทราบจะมีสาเหตุอันใดไม่ชอบหน้ากันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เข้ามาทำงานนะ
เมื่อถามถึงข่าวการออกหมายจับ 21 แกนนำพันธมิตรฯ นายกษิต กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย รัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคารพกฎหมาย เล่นตามกติกา ใครก็ตามที่ต้องตกไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องเข้าไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรม จะมากจะน้อย ขั้นตอนต่างๆต้องดูในรายละเอียด เมื่อถามว่า มีข่าวถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่จะมีการประชุมอาเซียน ได้มีการวิเคราะห์หรือไม่เพราะอะไร
นายกษิต กล่าวว่า คิดว่า ประชาชนชาวไทย 65 ล้านคน ตระหนักดีว่ารัฐบาลนี้ได้ทำอะไรและกำลังทำอะไรอยู่และจะทำอะไร “แน่นอนอาจจะมีคนไม่กี่พันคนทำการประท้วง ประท้วงกันได้ทุกวันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่ญี่ปุ่นมีการประท้วงกันทุกวัน มันเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นประชาธิปไตยของสังคมไทย อยากจะประท้วงก็ประท้วงไป หากการประท้วงมีสาระเนื้อหา สังคมไทยก็จะรับฟัง แต่ถ้าการประท้วงแล้วไร้สาระ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คิดว่า ประชาชนชาวไทยคงทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร คงไม่ต้องไปแจง แต่รัฐบาลนี้ทำงานมาแล้ว 2 เดือน มีผลงาน และจะมีผลงานต่อ และอะไรที่ให้คำสั่นสัญญาต่อสังคม ก็จะทำไม่มีการหลีกเลี่ยงหรือหนีความรับผิดชอบใดๆ เลยทั้งสิ้น และสิ่งที่จะทำนั้นพูดชัดว่าจะทำอะไรบ้าง ไม่ต้องห่วงครับ” นายกษิต กล่าว