“สุเทพ” ยันไม่คิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ปัดตอบ “ทักษิณ” เป็นพลเมืองพิเศษ ยอมรับม็อบแดงถ่อยโห่ช่วงประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนหวั่นเข้าใจผิด ชี้ต้องพยายามแจงถึงประชาธิปไตยไม่ปิดกั้นการชุมนุม ด้านทึมรองโฆษกยันนายกฯ และครม.ยังทำงานในทำเนียบได้ตามปกติไม่ต้องหาสถานที่สำรอง
วันนี้ (26 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธแนวคิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และไม่แสดงความเห็นกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เป็นพลเมืองพิเศษ แต่กล่าวยอมรับว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ตะโกนโห่ในช่วงระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมของประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วานนี้ (25 ก.พ.) อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งรัฐบาลจะพยายามชี้แจงให้เข้าใจว่าประเทศประชาธิปไตย การชุมนุมเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้มีการกำหนดกรอบหรือประเมินว่าผู้ชุมนุมจะชุมนุมปิดล้อมทำเนียบฯ อยู่อีกนานเท่าใด
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ยืดเยื้อ เพราะดูจากกระแสสังคมและปฏิกิริยาทั่วไป ประชาชนไม่ได้ตื่นเต้นอะไร จึงคิดว่าน่าจะยุติเพื่อให้รัฐบาลทำงาน อย่างไรก็ตาม กลุ่ม นปช.คงไม่คาดหวังกับข้อเรียกร้อง เพราะข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อ สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเงื่อนไขในการชุมนุมเท่านั้น ซึ่งสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาของประเทศที่เป็นรูปธรรมและเชิงรุกมากขึ้น และรัฐบาลก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับข่าวที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้เป็นพลเมืองพิเศษ เนื่องจากยังคงมีความสับสน
ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องจัดหาทำเนียบรัฐบาลสำรองเพื่อให้นายกรัฐมนตรี และ ครม.ทำงาน เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้เป็นไปอย่างสงบและอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้นฝ่ายความมั่นคงจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ยังคงเข้าทำงานได้ตามปกติ
ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. และเจ้าหน้าที่สามารถเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ ได้ตามปกติ รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ขอให้ประชาชนอย่ากังวลกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามเคลื่อนไหวและสร้างผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
รองโฆษกฯ ยังปฏิเสธข่าวที่มีเจ้าหน้าที่ทหารปะปนเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อหาข่าว แต่อ้างว่าบุคคลดังกล่าวเป็นทหารจริง แต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยและแฝงตัวเข้าไปก่อกวนการชุมนุม
