“ภูมิใจไทย” มึน “ไข่แม้ว” โหมดัน รบ.แห่งชาติ ทั้งๆ ที่เคยปฏิเสธแนวคิดขณะเป็นรัฐบาล ตอกซ้ำอาจทำใจไม่ได้ที่เป็นฝ่ายค้าน วอนหยุดทำร้ายประเทศ-ควรสร้างสามัคคีร่วมฝ่าวิกฤต ศก.ชาติ ด้าน “อีสานพัฒนา” ตอกซ้ำแนวคิด พท.เป็นไปได้ยาก แจงเหตุเพราะ แกนนำ รบ.ไม่เอาด้วย
จากกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมารับลูกเรื่องการยื่นเงื่อนไขให้พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยอ้างคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าให้ ส.ส.ยอมกลืนเลือด แล้วร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทุกอย่าง ล่าสุด วานนี้ (25 ก.พ.) นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เสนอทางออกให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเปิดช่องให้คนนอกเข้ามาเป็นนายกฯ เพื่อดึงคนกลางมาแก้ปัญหา แล้วนำไปสู่แนวทางสมานฉันท์
ด้าน นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า แนวคิดเรื่องดังกล่าวยังไม่เคยนำไปหารือกันในพรรค หรือในกลุ่ม ทำให้ไม่มั่นใจว่าเราได้รับสัญญาณอะไรในการจุดกระแสประเด็นนี้ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าคงเป็นไปได้ยากในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน เพราะเท่าที่ดูหลายๆ ฝ่าย รวมทั้งแกนนำรัฐบาลชุดนี้ มีท่าทีไม่เห็นด้วย จึงคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นยาก แต่ถ้าหากทำแล้วบ้านเมืองสงบ จนคนทั้งชาติสามารถปรองดองกันได้ก็ถือเป็นเรื่องดี ฉะนั้น เรื่องนี้ควรได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล และทุกฝ่าย เพื่อมีการศึกษาข้อดี ข้อเสีย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข โดยยึดหลักนิติธรรม
ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจกับการจุดกระแสประเด็นจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะเท่าที่ดูไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่าที่มีการเสนอมานานแล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลก็เคยปฏิเสธแนวคิดนี้ ถึงวันนี้ทำไมพรรคเพื่อไทยเพิ่งคิดได้ คงอาจยังปรับตัว หรือทำใจไม่ได้ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อีกทั้งสถานการณ์ขณะนี้ได้เดินไปตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว หากคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดช่องให้คนนอก หรือคนกลาง มาเป็นนายกฯ ก็จะไปกันใหญ่ เพราะไม่น่าจะทำได้ง่ายๆ เนื่องจากยังมีรัฐบาล และฝ่ายค้านในสภาอยู่ตามระบบรัฐสภา ดังนั้นจะให้เป็นรัฐบาลทั้งหมดคงเป็นไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งในพรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานร่วมกันด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่มีความจำเป็นจะใช้แนวคิดนี้
“แนวทางแก้ไขปัญหา คือ ทุกฝ่ายจะต้องหยุดทำร้ายประเทศชาติ แล้วหันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันรัก และสามัคคีกัน ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบ เพื่อพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่หลายสถาบันออกมาวิเคราะห์ว่าประเทศไทยจะแย่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสีใดที่มีออกมาเคลื่อนไหว และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครแพ้ หรือชนะ มีแต่ประเทศเท่านั้นพ่ายแพ้ และยิ่งแย่ลงไป ฉะนั้น อยากบอกว่าตอนนี้ประชาชนทั่วไปรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างมากกับเหตุการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายลดทิฐิ และความเห็นแก่ตัว เพื่อทำให้การไขปัญหาของชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง” นายศุภชัย กล่าว
จากกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมารับลูกเรื่องการยื่นเงื่อนไขให้พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยอ้างคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าให้ ส.ส.ยอมกลืนเลือด แล้วร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทุกอย่าง ล่าสุด วานนี้ (25 ก.พ.) นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เสนอทางออกให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเปิดช่องให้คนนอกเข้ามาเป็นนายกฯ เพื่อดึงคนกลางมาแก้ปัญหา แล้วนำไปสู่แนวทางสมานฉันท์
ด้าน นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า แนวคิดเรื่องดังกล่าวยังไม่เคยนำไปหารือกันในพรรค หรือในกลุ่ม ทำให้ไม่มั่นใจว่าเราได้รับสัญญาณอะไรในการจุดกระแสประเด็นนี้ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าคงเป็นไปได้ยากในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน เพราะเท่าที่ดูหลายๆ ฝ่าย รวมทั้งแกนนำรัฐบาลชุดนี้ มีท่าทีไม่เห็นด้วย จึงคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นยาก แต่ถ้าหากทำแล้วบ้านเมืองสงบ จนคนทั้งชาติสามารถปรองดองกันได้ก็ถือเป็นเรื่องดี ฉะนั้น เรื่องนี้ควรได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล และทุกฝ่าย เพื่อมีการศึกษาข้อดี ข้อเสีย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข โดยยึดหลักนิติธรรม
ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจกับการจุดกระแสประเด็นจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะเท่าที่ดูไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่าที่มีการเสนอมานานแล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลก็เคยปฏิเสธแนวคิดนี้ ถึงวันนี้ทำไมพรรคเพื่อไทยเพิ่งคิดได้ คงอาจยังปรับตัว หรือทำใจไม่ได้ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อีกทั้งสถานการณ์ขณะนี้ได้เดินไปตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว หากคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดช่องให้คนนอก หรือคนกลาง มาเป็นนายกฯ ก็จะไปกันใหญ่ เพราะไม่น่าจะทำได้ง่ายๆ เนื่องจากยังมีรัฐบาล และฝ่ายค้านในสภาอยู่ตามระบบรัฐสภา ดังนั้นจะให้เป็นรัฐบาลทั้งหมดคงเป็นไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งในพรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานร่วมกันด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จึงไม่มีความจำเป็นจะใช้แนวคิดนี้
“แนวทางแก้ไขปัญหา คือ ทุกฝ่ายจะต้องหยุดทำร้ายประเทศชาติ แล้วหันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันรัก และสามัคคีกัน ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบ เพื่อพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่หลายสถาบันออกมาวิเคราะห์ว่าประเทศไทยจะแย่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสีใดที่มีออกมาเคลื่อนไหว และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครแพ้ หรือชนะ มีแต่ประเทศเท่านั้นพ่ายแพ้ และยิ่งแย่ลงไป ฉะนั้น อยากบอกว่าตอนนี้ประชาชนทั่วไปรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างมากกับเหตุการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายลดทิฐิ และความเห็นแก่ตัว เพื่อทำให้การไขปัญหาของชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง” นายศุภชัย กล่าว