นายกฯ ยืนยันไม่ทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ท้าคำปรามาส “ทักษิณ” ฟันธงรัฐบาลอยู่ไม่เกิน 3 เดือน ยอมรับเศรษฐกิจทรุดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มั่นใจมาตรการกระตุ้น ศก.ในต่างประเทศ ที่ทยอยออกจะช่วยเสริมมาตรการรัฐบาลไทย ส่งผลครึ่งปีหลังรัฐบาลตั้งหลักทำงานได้
วันนี้ (23 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ถึง 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจทรุดหนักว่า ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ และคิดว่าการมีส่วนร่วมของหลายๆ ฝ่ายจะช่วยให้มาตรการเหล่านี้เกิดผลและค่อนข้างจะเร็วด้วย เพราะขณะนี้การวางแผนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณกลางปี โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินจะลงไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ต่อด้วยเดือนเมษายน ทั้งในส่วนของผู้สูงอายุ เงิน 2,000 บาท โครงการชุมชนพอเพียง และเงินที่เกิดจากมาตรการที่รัฐบาลดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาคการเกษตร ค่อนข้างจะชัดเจน คิดว่าเราทำเต็มที่และมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจว่า ข้อจำกัดเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงไม่กังวลอะไร และรัฐบาลจะทำอย่างโปร่งใส ซึ่งได้ชี้แจงต่อ ส.ว.ไปแล้วว่าการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบงบประมาณกลางปี ข้อแรกจะพยายามให้มีคณะบุคคลมาทำหน้าที่ติดตาม และจะทำเว็บไซต์ขึ้นมาเฉพาะให้ประชาชนแจ้งข้อมูลข่าวสารและปัญหาอุปสรรคในการใช้จ่ายเงินทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าจะผ่าน 3 เดือนนี้ไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจว่าขณะนี้สิ่งที่ดำเนินการเป็นไปตามแผนงาน และเป็นไปตามเป้าหมายและทราบดีว่าสถานการณ์หนัก แต่เชื่อว่าประชาชนโดยทั่วไปที่ติดตามข่าวสารจะทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร และไม่มีใครไปคาดหวังได้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก หรือไตรมาสนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นมาโดยทันตาเห็น สิ่งที่เราพยายามทำคือจำกัดความเสียหาย และใช้เงินให้คุ้มค่า สามารถโยงไปถึงมาตรการระยะกลาง ระยะยาวซึ่งขณะนี้วางแนวทางไปแล้ว จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่าขณะนี้มีสัญญาณเชิงลบออกมาหลายเรื่อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะจริงๆ แล้วเศรษฐกิจที่ติดลบแรงมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วอยู่แล้วและ 3 เดือนสุดท้ายยังไม่มีตัวเลขทางการออกมา แต่คาดว่าจะเป็นลบ 3-4 ด้วยซ้ำ ดังนั้นไตรมาสนี้จะแรง แต่สิ่งที่เราคาดหวังไม่ใช่เฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเรา แต่มาตรการในต่างประเทศ กำลังทยอยออกมาในไตรมาสนี้เช่นกัน ดังนั้นเราหวังว่าถ้ามันมีเสถียรภาพมากขึ้น ครึ่งปีหลังก็ตั้งหลักกันได้ในการที่จะทำงาน
เมื่อถามว่าแสดงว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องทบทวนมาตรการทางเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าคงไม่ทบทวน แต่ต้องเตรียมเสริมอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นที่เคยพูดเอาไว้ว่าต้องมีแผนสอง เราก็จะเดินหน้า กระทรวงการคลังก็เร่งทำเรื่องกรอบเจรจาเสนอต่อสภา เพราะอย่างน้อยที่สุด ต้องขอกรอบเจรจาโดยเร็ว ไม่ได้มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว ส่วนการเจรจาเงื่อนไขจะเป็นที่พอใจเหมาะสมหรือไม่ สามารถพิจารณาได้อีกทีหนึ่ง