ยกขบวนหอบเอกสารตั้งใหญ่ พร้อมหิ้วกระเป๋าเปล่า ทยอยขึ้นเครื่องบินไป“คลับ ทักษิณ” อินฮ่องกง ให้ “เจ้าษิณ-เจ้ามูลเมือง”ครั้งอดีตชาติ ที่กาลปัจจุบันต้องซัดเซพเนจร ด้วยไร้แผ่นดินอยู่
ตรวจตราประเด็น ข้อมูล เป้าหมายในแผนเชือด เป่ากระหม่อมก่อนออกศึก
รับแรง “อัดฉีด” เพิ่มพลังน้ำลาย
สัปดาห์นี้แล้ว พรรคฝ่ายค้านเพื่อไทย จะได้ฤกษ์จัดทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาร์ค
โดยกำหนดดีเดย์ยื่นญัตติ 11 มีนาคม คาดว่าจะได้ฤกษ์โรมรันก็ราวๆ ปลายเดือน
“สารวัตรเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ไฟเขียวให้นำทัพพาไพร่พลสู่สมรภูมิเดือดศึกซักฟอก ขึ้นป้ายผู้นำที่จะมาแทนที่นายกฯมาร์ค หากเสร็จศึกนี้ด้วยชัยชนะ
“เหลิม บางบอน”ได้ฝันหวาน ถึงวันหิมะตกเมืองไทย นั่งเก้าอี้นายกฯ??
ที่สำคัญ ในข้อมูลที่พลพรรคเพื่อไทยโวแต่หัววันว่าข้อมูลร้อน เป็น“หมัดเด็ด” รอน็อกเอาต์ ตะบันหน้ารัฐบาลมาร์คให้เสียโฉม
จับประเด็นจากที่บรรดาลูกน้องคนหน้าเหลี่ยม ตีปี๊บโหมโรง จองกฐินในศึกซักฟอกครั้งนี้ “เป้าเชือด”คงไม่พ้น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง แก่นแกนรัฐบาล ที่ต้องถล่ม!
นอกนั้นชื่อยังไม่นิ่ง ที่อยู่ในข่ายก็มี สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และอีกหลายเครื่องเคียงข้างเขียง
รวมทั้ง วิฑูรย์ นามบัตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่อาฟเตอร์ช็อก พิษปลากระป๋องเน่าฝ่ายค้านเงื้อดาบ“ฆ่าศพ” ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด
ส่วนรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล หากจะมีก็แค่เป็นน้ำจิ้ม เพราะยุทธศาสตร์ซักฟอกใดๆที่จะก่อเกิดในยุคพรรคร่วมรัฐบาลเป็นพวงเช่นนี้ ต้องถล่มป้อมปราการให้พังทลาย ที่เสาเอก-แกนหลัก พรรคแกนนำ
ประเด็นและข้อมูลอภิปราย ที่ตีปี๊บเรียกแขกเข้าชม ที่มีแน่นอน ถึงจะเรื่องเก่า ก็จำเป็นต้องเอามาฉายซ้ำ กรณีเงินบริจาค 250 ล้านบาท ที่พัวพันอินุงตุงนังกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็น“กรรมเก่า” ที่คนค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่ต้องหาทางแก้ลำ กู้สถานการณ์
อีกทั้งนโยบายต่างๆของรัฐบาลในรอบ2เดือนที่ผ่านมา คืออีกประเด็นร้อน ที่ต้องถูกหยิบยกมาพูดถึงแน่ ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการงบประมาณกลางปี1.6แสนล้านกับปัญหาปากท้องตรงใจชาวบ้าน ฝ่ายค้านย่อมไม่ยอมให้พลาดเป้า
นโยบายด้านต่างประเทศ ความไม่ชอบธรรมในเรื่องที่มาของการเข้ามาบริหารประเทศ ปัญหาด้านความมั่นคง การแทรกแซงการเมืองของกองทัพ กรณีงบฯลับ2พันล้านกำจัดกลุ่มคนเสื้อแดง โครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ
ขณะที่ ขุนพลของพรรคเพื่อไทย ระดับแม่ทัพที่จะถือธงเข้าสู่ศึกซักฟอก ประกอบ 4 ขุนพลเอก คือร.ต.อ.เฉลิม วางมาดแอ็กอาร์ต ถมึงทึง ขึงขังอยู่แถวหน้า ตามมาด้วย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ,สุนัย จุลพงศธร และ จตุพร พรหมพันธุ์
ที่รู้กันดี 2 รายแรก 2 ดาวค้างฟ้า-ปลาร้าค้างปี ประจำสภาฯ จะกลับมาทวงตำแหน่งซูเปอร์สตาร์อีกครั้ง ด้วยฝีปากเป็นเอก ลีลาแพรวพราว ทั้ง “สารวัตรเหลิม” และ “โกโบริน”
กับอีก 1 ผู้ชำนาญการการตีรวน ยียวน กวนอารมณ์ แบบ“สุนัย” ที่เพิ่งนึกได้ว่ามี “ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า”อยู่ที่พรรคเพื่อไทย เลือกแจ้งเกิดผิดสมัย ในยุคนายใหญ่อภิมหาเศรษฐีดวงชะตาร่วงรูด
ที่ต้องจับตา ดาวรุ่งพุ่งแรง ผู้กระเหี้ยนกระหือรือ“เข้าตี”ไม่เลิกรา ถึงบุคลิกไม่นำพา ผมหยิก หน้าก้อ คอสั้น และรูปร่างเหมือนชูชก ไม่รู้เพราะอิ่มเอมกับ“ยุทธปัจจัย”มากไปหรือเปล่า?
แต่ถึงพูดน้ำไหลไฟดับ ก็ยังไร้เครดิตความน่าเชื่อถือ??
เหล่านี้คือ 4 ขุนพลหลักเพื่อไทย ในเกมซักฟอก ที่พรรคเพื่อไทย ยกให้เป็นขุนพล“จตุรเทพ”แต่ในสายตาของรัฐบาล ปชป. 4 รายนี้คือ“จตุรมาร”
ส่วนองค์ประกอบในเวทีอภิปรายฯ เหล่าหางเครื่องลูกคู่ เข้าคิวขอร่วมวงแลกบำเหน็จรางวัลกันอีกมากราย นอกจากนั้นก็อยู่ที่ประเด็นและข้อมูล จะเป็นตัวกำหนด“มือเชือด”
ตัวอย่างเช่น พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.โคราช เป็นอีกรายที่ไล่เก็บข้อมูลของกองทัพ ถ้าทีเด็ดที่มีอยู่ในมือ และหากประเด็น “เข้าตา”นายใหญ่ที่ฮ่องกง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร สั่งตั้งวอร์รูม รอรับมือได้เลย
ที่น่าสนใจจริงๆ ข้อมูลที่พากันตีปี๊บเสียงดังล่วงหน้า “กิ๊กรัฐมนตรี”
“ศ” – “ณ”- “ด”
ชื่อย่อ ที่ขุนพลพรรคเพื่อไทยทยอยป่าวประกาศ คือเพศหญิงที่จะกลายเป็น“นารีพิฆาต” ที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นว่า นอกจากจะปัญหาเรื่องคุณธรรมจริยธรรม
ยังมีเรื่องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน และการหลีกเลี่ยง ปกปิดการแสดงบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินของรัฐมนตรีรายนั้นๆ
และยังมีการระบุว่า มีเสนาบดี“มักมาก” ถึง 4-5 ราย ที่อยู่ในข่าย “ซุกกิ๊ก”
รวมทั้งเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรี ในหลายกระทรวง ที่นำเอาคนใกล้ชิด มาทำหน้าที่ชิดใกล้ “เร้นรัก”เพื่อ“ซ่อนพรางทรัพย์สมบัติ”
ทั้งที่ปกติ ประเด็นเกี่ยวกับหลังบ้าน หรือเรื่องส่วนตัว กรณีชู้สาวในลักษณะนี้ ปกติจะเป็นเพียงแค่ “สีสัน”สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ทว่าการซักฟอกของฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ ประเด็น “เด็ก รมต.” ดูเหมือนจะถูกหยิบยกเป็นไฮไลต์ ไคลแม็กซ์ ที่ชี้ชวนผู้ชมทางบ้านให้ต้องรอติดตาม
“กิ๊ก”มาก็ “กิ๊ก”ไป
เชื่อว่าคงเป็นอย่างที่ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี เปิดปากโต้ปมร้อนประเด็นกิ๊กของพรรคเพื่อไทย ว่าสุดท้ายเชื่อว่าคง “ไม่กล้า” เพราะกลัวโดน “ย้อนศร”เอาคืนเช่นกัน
คนในวงการการเมืองรู้กันดี เรื่องรักในมุมลับลักษณะนี้ ไม่ได้มีแค่เฉพาะฝ่ายรัฐบาล ที่ถูกพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว จนเป็นภาพลักษณ์ติดตรา
ในพรรคเพื่อไทย ทั้งระดับคีย์แมนแกนนำ หรือขุนพลไพร่เบี้ย หลายรายก็มีกรณีสัมพันธภาพ “ชาย-หญิง”ที่สังคมปากว่าตาขยิบไม่ยอมรับ
ประเภท“ขุนแผน”- “คาสโนวา” เดินเกลื่อนกลาดอยู่เหมือนกัน
เอาแค่กรณี “กิ๊กของเหลี่ยม”หรือ “ชาย ม่านรูด” โดนสวนโป้ง ขึ้นมาก็จะไปไม่เป็น โดยไม่ต้องพูดถึง ข้อมูลฉาวที่อยู่ในบัญชีลับของทีมใต้ดิน ปชป.อีกเพียบ
โดยเท่าที่รู้ เท่าที่แซะมาได้จากคณะ“นักสืบใต้เตียง”ค่ายประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้ละเลย ประมาทกับเรื่องแนวนี้ เก็บข้อมูลไว้ในคลังล็อตใหญ่
ล้วนเรื่องฉาวคาวโลกีย์ ชี้ให้เห็นความมักมากในกามของบิ๊กนักการเมืองที่มีกิเลสตัณหาครอบงำจิตใจ
ต้องบอกกล่าวกันล่วงหน้า ในฐานะ แม่ทัพการอภิปรายฯ ร.ต.อ.เฉลิม ควรทราบไว้
แฟ้มลับข้อมูลฉาวของ “แกนนำ”พรรคเพื่อไทย ที่มีอยู่ในมือของคนประชาธิปัตย์ ไม่ธรรมดา
ต้องฝากบอกต่อไปเตือนให้ระวังกันไว้ โดยเฉพาะราย “คาสโนว่า”จากย่านชานเมือง ผู้มาก รักหลากกิ๊ก ไม่แพ้ “คาสโนว่า เวนิช” แห่งเมืองรองเท้าบู้ต ประเทศอิตาลี
ล่องน้ำ เลียบริมคลอง ปีนตลิ่งหารักแท้เหมือนกัน
ที่แปลก นอกจากกิ๊กแล้ว รวมทั้ง “บ้านใหญ่” อัครมหาเมีย ที่อยู่กินเป็นตัวเป็นตนของบิ๊กการเมืองรายนี้ ก็มีถิ่นฐานบ้านช่อง เป็น“คนริมคลอง” ล้วนๆ
กับกิ๊กแรก กรณี “รักคุด”ของนักการเมืองดังรายนี้ เรื่องราวเกิดครั้งอดีตนานมาแล้ว แต่ ถึงจะเก่าเก็บไปสักนิด แต่เป็นอีกเรื่องฉาวที่คน ปชป.จ้องที่จะงัดออกมาประจาน
“น้องตุ๊กติ๊ก” สาวรุ่นที่เคยเป็น“ของเล่น”นักการเมืองดัง
หญิงสาววัยละอ่อน ที่ไม่อยากกินน้ำใต้ศอกคนอื่น จึงปันใจไปให้ชายอื่น แล้วโดนตามรังควาญ ขวางทาง“รักใหม่”จนตรมตรอมใจ
แต่ปัจจุบัน ความรักหวานชื่นของ “บิ๊กการเมือง”รายนี้ หยุดตรงนี้ที่เธออีกแล้ว กับอีกราย“หญิงสาวในเครื่องแบบ” ที่ปลุกปั้นปลุกปล้ำ ผลักดัน ให้มีมงกุฎครอบดาวติดบ่า
เรือนรักรังสวาท นิวาสถานจากบ้านหลังพอเหมาะกับกิจกรรมสำหรับคู่ครองที่ต้องซ่อนเร้นครองคู่ อยู่ย่านถนนเพชรเกษม ตอนนี้ขยับขยายไปปักหลักในรักอำพราง ที่หมู่บ้านระดับเศรษฐี หรูหรา ไฮโซ
ได้อยู่บ้านหลังใหญ่ แม้จะได้ชื่อว่าเป็น“บ้านเล็กบ้านน้อย”ของคนโตการเมือง
ยังไม่หมด ข้อมูลของขุนแผน ล่องเรืองหารักริมคลอง “กิ๊ก”คนล่าสุดของบิ๊กการเมืองรายนี้ ที่กำลังข้าวใหม่ปลามัน สาวรายนี้ ใครเห็นต้องเอ่ยปากชมว่าแฉล้มแช่มช้อย
โฉมสะคราญ เพราะเธอมีดีกรี “นางงาม”ครองมงกุฎบนเวทีประกวด งานโรงเรียนท้องถิ่นย่านฝั่งธนฯ
เป็นอีก“กิ๊ก” ที่สวยซึ้ง โดนใจ “บิ๊กการเมือง” หลงใหลถึงขนาดซื้อบ้านให้อยู่ใกล้ๆ กัน
เพื่อสะดวกแวบ แวะไปชิมความหวาน ดมดอมความงาม “ดอกไม้”
นอกจาก 3 กิ๊กซ้อนๆ ที่ไล่เรียงมา ทีมงาน “สายลับจับบ้านเล็ก” กำลังโฟกัสเป้าหมายไปที่เรื่องลับสุดขีดของ “คนโตการเมือง”รายนี้
“หมัดเด็ด” อยู่ที่เรื่อง “ซุกลูก”
บุตรในที่ลับที่ทีมสืบเสาะ ปชป.ฉกรู้มาได้ว่า บิ๊กรายนี้ มี “ลูกเก็บ”อีก 2 คน วัยยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตรวจสอบไม่ยากเพราะดวงตาเหมือนพ่อเด๊ะ
ถึงตรงนี้ไม่รู้ ไฮไลต์ไคลแม็กซ์ เรื่อง“กิ๊กรัฐมนตรี” โดยทีมอภิปรายของฝ่ายค้านที่นำโดย “สารวัตรเหลิม”ตีปี๊บโหมโรงก่อนเปิดวิก กวักมือเรียกแขกเรียกคนดูกันแต่เนิ่นๆ
ถึงเวลาฉาย จะมีให้ชมกันเต็มชุดอย่างคำคุยหรือเปล่า??