นายกฯ พบนักธุรกิจ และคนไทยในอินโดนีเซียชี้แจงสถานการณ์ในประเทศเริ่มเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยอมรับยังทำให้หายเครียดไม่ได้มากนัก วอนเสื้อแดงอย่าชุมนุมช่วงประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเพราะอาจกระทบภาพลักษณ์ของชาติ ยันประชาชนยังให้โอกาสบริหารประเทศ
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน จากนั้นพบปะผู้แทนนักธุรกิจไทย ตัวแทนชมรมสตรีไทย และตัวแทนนักศึกษาไทยในอินโดนีเซีย ระหว่างงานเลี้ยงรับรอง ที่โรงแรมที่พัก
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะที่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศเป็นเวลาเกือบ 10 ปี เข้าใจดีว่าคนไทยในต่างประเทศมีความผูกพันและติดตามสถานการณ์ของประเทศไทย ทราบดีว่าคนไทยในต่างประเทศมีความเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทย ดังนั้น สิ่งแรกที่รัฐบาลเข้ามาจึงต้องการทำให้คนไทยหายเครียด ซึ่งยังทำไม่ได้มากนัก แต่ยืนยันว่าบรรยากาศของไทย ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีความแตกต่างจากช่วงที่ผ่านมาอย่างมาก เพราะรัฐบาลได้พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งยังคงมีอยู่ และการชุมนุมก็มีอยู่ทุกวัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมือง แต่เป็นการชุมนุมในทุกเรื่องที่มีปัญหา แต่รัฐบาลได้พยายามเดินหน้ามาตรการต่าง ๆ และมีความคืบหน้า ขอให้ความมั่นใจกับหลายคนที่มีความเป็นห่วงว่ารัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ จะบริหารบ้านเมืองไปได้หรือไม่ ขอยืนยันว่าแม้การประชุมสภาฯ จะไม่ราบรื่น และมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม แต่ก็เป็นปกติของระบอบประชาธิปไตย และเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมืองจะดูแลให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้โอกาสรัฐบาลในการทำงาน เพราะรัฐบาลได้รับการเลือกตั้งมาถึง 21 เขต จาก 29 เขต
นายกรัฐมนตรียังเล่าถึงผลการเจรจากับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ในหลายสิ่งที่จะดำเนินการ ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจและสบายใจในการทำงานร่วมกัน รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากมีปัญหาอะไร ขอให้แจ้งกับสถานทูต และทีมประเทศไทย ซึ่งพร้อมจะรับฟังและแก้ไขปัญหา หากปัญหาใด เกินขีดความสามารถจะรายงานให้รัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้อย่างดีที่สุด แต่ขอย้ำว่าการให้ความช่วยเหลือใด ๆ จะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ และกติกา
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ซักถาม ซึ่งมีผู้สอบถามถึงเรื่องการเตรียมความพร้อมการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจัดประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ อ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และ อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีปัญหา แต่ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนมีความเป็นห่วง แม้เจ้าหน้าที่จะเตรียมความพร้อมดูแลการชุมนุมให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม ตนยังมองในแง่ดีว่าจะไม่มีปัญหาบานปลาย และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ส่วนตัวต้องการขอความร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชน ให้ช่วยพูดกับคนเสื้อแดงว่าอย่าชุมนุม เพราะความเสียหายไมได้เกิดขึ้นกับรัฐบาล แต่เป็นหน้าตาของประเทศ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อกล่าวสุนทรพจน์และเยี่ยมชมสำนักเลขาธิการอาเซียน และร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ซึ่งนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยง เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ในเวลา 13.05 น. ด้วยเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ TG 434 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 16.35 น.