“กองทัพ” ยึดแนวพระราชดำริ-ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหนุน “รัฐบาล” แก้วิกฤตชาติ เผย ก.พ.นี้ เดินเครื่องจัด “ทหาร-อาสาสมัคร” ลงพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนในทุกชุมชน พร้อมสร้างทัศนคติที่ถูกต้อง-ปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ให้ ปชช.ได้รับทราบ
วันนี้ (20 ก.พ.) พ.อ.ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการดำเนินการในโครงการสู้วิกฤติเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และอาจมีผลต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มว่าจะดำรงอยู่เป็นเวลานาน และขยายตัวในทุกพื้นที่ของประเทศ ฉะนั้นกองทัพบกในฐานะเป็นกลไกหนึ่งของรัฐ จึงจัดทำโครงการดังกล่าวเพื่อนำศักยภาพของกองทัพมาช่วยตามนโยบายรัฐบาล โดยหวังช่วยเหลือ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะน้อมนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสังคมให้มีความสามัคคีสมานฉันท์โดยมีสถาบันหลัก เป็นสิ่งยึดเหนียว และเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของประชาชนทุกหมู่เหล่า
“โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการปลายเดือน ก.พ.จนถึงเดือน ส.ค.2552 โดยกองทัพบก เหล่าทัพ และส่วนราชการในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จะร่วมกันทำงานในลักษณะบูรณาการ ซึ่งขั้นต้นหน่วยทหารในพื้นที่จะจัดเจ้าหน้าที่ทหารเป็นชุดวิทยากรขนาดเล็ก ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการพลเรือน ตำรวจ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ครู อาสาสมัคร ซึ่งชุดวิทยากรดังกล่าวจะเข้าไปในชุมชน เพื่อสำรวจรวบรวมข้อมูล และรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของท้องถิ่น เพื่อดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแบบตรงจุด ทั้งนี้ ปัญหาเดือดร้อนในระดับท้องถิ่น จะมีการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อเสนอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องผ่าน กอ.รมน.เพื่อเข้าไปแก้ปัญหารับต่อไป” พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า นอกกจากการช่วยเหลือประชาชนในชุมชน เราจะปลูกจิตสำนึก สร้างค่านิยม และทัศนคติที่ถูกต้อง รวมทั้งปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ประชาชน พร้อมทั้งเผยแพร่โครงการเนื่องมาจากพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนรับทราบ และตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาอย่างยาวนาน
“ตามที่กระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงห่วงใย และรับสั่งทุกหน่วยงานให้ช่วยกันติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในทุกจังหวัดอย่างใกล้ชิดนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก น้อมรับ และสั่งการเป็นกรณีพิเศษให้ทุกหน่วยงานของกองทัพบก ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสพภัยแล้งอย่างเร่งด่วนในทุกพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะการเฝ้าติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งประสานงานกับส่วนราชการทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยในวันที่ 24 ก.พ.นี้ กองทัพบกจะเชิญหน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน ที่เคยร่วมโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ร่วมประชุม เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสพภัยแล้ง” พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าว
วันนี้ (20 ก.พ.) พ.อ.ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการดำเนินการในโครงการสู้วิกฤติเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และอาจมีผลต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มว่าจะดำรงอยู่เป็นเวลานาน และขยายตัวในทุกพื้นที่ของประเทศ ฉะนั้นกองทัพบกในฐานะเป็นกลไกหนึ่งของรัฐ จึงจัดทำโครงการดังกล่าวเพื่อนำศักยภาพของกองทัพมาช่วยตามนโยบายรัฐบาล โดยหวังช่วยเหลือ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะน้อมนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสังคมให้มีความสามัคคีสมานฉันท์โดยมีสถาบันหลัก เป็นสิ่งยึดเหนียว และเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของประชาชนทุกหมู่เหล่า
“โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการปลายเดือน ก.พ.จนถึงเดือน ส.ค.2552 โดยกองทัพบก เหล่าทัพ และส่วนราชการในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จะร่วมกันทำงานในลักษณะบูรณาการ ซึ่งขั้นต้นหน่วยทหารในพื้นที่จะจัดเจ้าหน้าที่ทหารเป็นชุดวิทยากรขนาดเล็ก ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการพลเรือน ตำรวจ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ครู อาสาสมัคร ซึ่งชุดวิทยากรดังกล่าวจะเข้าไปในชุมชน เพื่อสำรวจรวบรวมข้อมูล และรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของท้องถิ่น เพื่อดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแบบตรงจุด ทั้งนี้ ปัญหาเดือดร้อนในระดับท้องถิ่น จะมีการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อเสนอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องผ่าน กอ.รมน.เพื่อเข้าไปแก้ปัญหารับต่อไป” พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า นอกกจากการช่วยเหลือประชาชนในชุมชน เราจะปลูกจิตสำนึก สร้างค่านิยม และทัศนคติที่ถูกต้อง รวมทั้งปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ประชาชน พร้อมทั้งเผยแพร่โครงการเนื่องมาจากพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนรับทราบ และตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาอย่างยาวนาน
“ตามที่กระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงห่วงใย และรับสั่งทุกหน่วยงานให้ช่วยกันติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในทุกจังหวัดอย่างใกล้ชิดนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก น้อมรับ และสั่งการเป็นกรณีพิเศษให้ทุกหน่วยงานของกองทัพบก ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสพภัยแล้งอย่างเร่งด่วนในทุกพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะการเฝ้าติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งประสานงานกับส่วนราชการทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยในวันที่ 24 ก.พ.นี้ กองทัพบกจะเชิญหน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน ที่เคยร่วมโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ร่วมประชุม เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสพภัยแล้ง” พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าว