วานนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ศรีสะเกษว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.10 น.ได้เกิดเหตุอาสาสมัครทหารพราน ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนที่บริเวณภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเขาพระวิหารทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 2.5-3 กม. ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาด 2 ราย ทราบชื่อเบื้องต้น คือ อาสาสมัครทหารพราน สมบูรณ์ กิ่งวิชิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาดทั้ง 2 ข้าง และอาสาสมัครทหารพราน มนต์สิทธิ์ เสน่หา ได้รับบาดเจ็บขณะวิ่งเข้าไปช่วย อาสาสมัครทหารพรานสมบูรณ์ ทำให้ขาซ้ายท่อนล่างขาด โดยทหารพรานทั้ง 2 นาย สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
จากการสอบถามชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ทางหน่วยเก็บกู้ได้ทำการสำรวจและเก็บกู้ระเบิดไปแล้ว ส่วนพื้นที่ไหนที่ยังไม่ได้เก็บกู้ระเบิดจะมีแนวรั้วลวดหนามกั้นไว้ไม่ให้คนเข้าไป ดังนั้น จากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดที่ถูกนำมาวางไว้ใหม่
ด้านนายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ทหารพรานของไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 นายในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความไม่จริงจังจริงใจในการแก้ไขปัญหากรณีเขาพระวิหารของรัฐบาลไทย ทำให้ยังไม่มีการปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศที่ชัดเจน ทหารไทยจึงต้องมาบาดเจ็บสูญเสียเลือดเนื้อ และพิการไปแล้วหลายนาย
"รัฐบาลไทยและกองทัพไทย จะต้องทำอะไรที่จริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารให้แล้วเสร็จลุล่วงโดยเร่งด่วน เพื่อที่ประเทศชาติจะได้ไม่ต้องสูญเสียดินแดน และทหารไทยรวมทั้งประชาชนจะได้ไม่ต้องมาสูญเสียชีวิตเลือดและทรัพย์สิน อย่างไม่จบสิ้นเช่นนี้" นายสนอง กล่าว
**ทบ.คาดเป็นกับระเบิดเก่า
พ.อ.ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นการประสบอุบัติเหตุในการลาดตระเวนของทหารในพื้นที่ ไม่ใช่การเสริมกำลัง แต่เป็นการหมุนเวียนกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 ส่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีวัตถุระเบิดกระจายอยู่ เป็นไปได้ที่ระเบิดเก่าจะทำงาน
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวว่า เหตุปะทะเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเขารุกล้ำเข้ามา เขาใช้อาวุธก่อน เราจึงใช้อาวุธตอบโต้ ซึ่งเหตุระเบิดไม่เกี่ยวโยงกับเหตุปะทะ แต่ปัญหาแนวชายแดนละเอียดอ่อนสามารถเกิดเหตุได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเสริมกำลังเพิ่มในพื้นที่ ขอให้สบายใจว่า ทุกพื้นที่ที่เป็นของประเทศไทยจะมีทหารดูแลทุกพื้นที่ ซึ่งระดับพื้นที่ไทยและกัมพูชาพูดคุยกันตลอด ทั้งนี้ พล.ต.กนก เนตรคะเวสนะ ผบ.กกล.สุรนารี รายงานว่า ขณะนี้ในส่วนของไทยมีการสับเปลี่ยนกำลัง และได้มีการอธิบายแนววางกำลังให้ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังด้วย
**"จิ๋ว"คุยปัญหาไทย-กัมพูชาแก้ได้
เมื่อเวลา 09.45 น. วานนี้ (6 ต.ค.) ที่ อาคารวชิรญาณ –สามัคคีพยาบารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าเฝ้า และลงนามถวายพระพรแด่ สมเด็จพระญาณสังวรณ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ครบ 95 พรรษา 3 ต.ค.51 และให้สัมภาษณ์ ถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และได้เชิญตนร่วมเดินทางไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจาแล้วทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ขอไม่พูดในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ทั้งนี้ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.เตียบัน รมว.กลาโหมกัมพูชา และทางสมเด็จฮุนเซ็น ได้ฝากความคิดถึงมาด้วย ประเทศไทย และกัมพูชาถือเป็นมิตรประเทศที่ดีกันมาตลอด เมื่อเกิดปัญหาก็แก้ไขและทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องการถอนทหาร คงต้องมีการไปพูดคุยกันจะมาพูดกันตรงนี้ไม่ได้
ส่งผลให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาด 2 ราย ทราบชื่อเบื้องต้น คือ อาสาสมัครทหารพราน สมบูรณ์ กิ่งวิชิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาดทั้ง 2 ข้าง และอาสาสมัครทหารพราน มนต์สิทธิ์ เสน่หา ได้รับบาดเจ็บขณะวิ่งเข้าไปช่วย อาสาสมัครทหารพรานสมบูรณ์ ทำให้ขาซ้ายท่อนล่างขาด โดยทหารพรานทั้ง 2 นาย สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
จากการสอบถามชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ทางหน่วยเก็บกู้ได้ทำการสำรวจและเก็บกู้ระเบิดไปแล้ว ส่วนพื้นที่ไหนที่ยังไม่ได้เก็บกู้ระเบิดจะมีแนวรั้วลวดหนามกั้นไว้ไม่ให้คนเข้าไป ดังนั้น จากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดที่ถูกนำมาวางไว้ใหม่
ด้านนายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ทหารพรานของไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 นายในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความไม่จริงจังจริงใจในการแก้ไขปัญหากรณีเขาพระวิหารของรัฐบาลไทย ทำให้ยังไม่มีการปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศที่ชัดเจน ทหารไทยจึงต้องมาบาดเจ็บสูญเสียเลือดเนื้อ และพิการไปแล้วหลายนาย
"รัฐบาลไทยและกองทัพไทย จะต้องทำอะไรที่จริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารให้แล้วเสร็จลุล่วงโดยเร่งด่วน เพื่อที่ประเทศชาติจะได้ไม่ต้องสูญเสียดินแดน และทหารไทยรวมทั้งประชาชนจะได้ไม่ต้องมาสูญเสียชีวิตเลือดและทรัพย์สิน อย่างไม่จบสิ้นเช่นนี้" นายสนอง กล่าว
**ทบ.คาดเป็นกับระเบิดเก่า
พ.อ.ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นการประสบอุบัติเหตุในการลาดตระเวนของทหารในพื้นที่ ไม่ใช่การเสริมกำลัง แต่เป็นการหมุนเวียนกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 ส่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีวัตถุระเบิดกระจายอยู่ เป็นไปได้ที่ระเบิดเก่าจะทำงาน
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวว่า เหตุปะทะเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเขารุกล้ำเข้ามา เขาใช้อาวุธก่อน เราจึงใช้อาวุธตอบโต้ ซึ่งเหตุระเบิดไม่เกี่ยวโยงกับเหตุปะทะ แต่ปัญหาแนวชายแดนละเอียดอ่อนสามารถเกิดเหตุได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเสริมกำลังเพิ่มในพื้นที่ ขอให้สบายใจว่า ทุกพื้นที่ที่เป็นของประเทศไทยจะมีทหารดูแลทุกพื้นที่ ซึ่งระดับพื้นที่ไทยและกัมพูชาพูดคุยกันตลอด ทั้งนี้ พล.ต.กนก เนตรคะเวสนะ ผบ.กกล.สุรนารี รายงานว่า ขณะนี้ในส่วนของไทยมีการสับเปลี่ยนกำลัง และได้มีการอธิบายแนววางกำลังให้ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังด้วย
**"จิ๋ว"คุยปัญหาไทย-กัมพูชาแก้ได้
เมื่อเวลา 09.45 น. วานนี้ (6 ต.ค.) ที่ อาคารวชิรญาณ –สามัคคีพยาบารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าเฝ้า และลงนามถวายพระพรแด่ สมเด็จพระญาณสังวรณ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ครบ 95 พรรษา 3 ต.ค.51 และให้สัมภาษณ์ ถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และได้เชิญตนร่วมเดินทางไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจาแล้วทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ขอไม่พูดในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ทั้งนี้ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.เตียบัน รมว.กลาโหมกัมพูชา และทางสมเด็จฮุนเซ็น ได้ฝากความคิดถึงมาด้วย ประเทศไทย และกัมพูชาถือเป็นมิตรประเทศที่ดีกันมาตลอด เมื่อเกิดปัญหาก็แก้ไขและทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องการถอนทหาร คงต้องมีการไปพูดคุยกันจะมาพูดกันตรงนี้ไม่ได้