“ฝ่ายค้าน” ดิ้นสุดตัวปูดข้อมูล “รมต.มีกิ๊ก-จัดซื้ออาวุธ ทบ.” จ่อซักฟอก รบ.

“ฝ่ายค้าน” ดิ้นสุดตัว ปูดข้อมูล “รมต.มีกิ๊ก-จัดซื้ออาวุธ ทบ.-แจกที่ดิน ส.ป.ก.4-01” ลุยซักฟอก อ้าง “บิ๊ก ปชป.” จีบ พท.ตั้งรัฐบาล เหตุเพราะอึดอัดใจพฤติกรรมพรรคร่วม เย้ยช่วยไม่ได้หากรัฐบาลแตกคอกันเอง ยอมรับ “ไข่แม้ว” ยกโขยงบินไปหา “นายใหญ่” ที่ฮ่องกง ก่อน “นช.แม้ว” เตรียมบินไปที่ดูไบ

วานนี้ (19 ก.พ.) ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า หลังจากมีข่าวเรื่องฝ่ายค้านมีมติยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ขณะนี้มีข้าราชการ และเอกชนส่งข้อมูลมาให้หลายเรื่อง โดยเฉพาะกรณีโครงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกรมสรรพาวุธ กองทัพบก ที่มีความไม่โปร่งใส และการปฏิรูปที่ดินแจก ส.ป.ก.4-01 ซึ่งเราจะตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร ถ้าพบความไม่โปร่งใสจริง ก็จะยื่นญัตติตรวจสอบรัฐมนตรีที่รับผิดชอบอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่มี ส.ส.รุ่นเดียวกันในพรรคประชาธิปัตย์ ปรารภให้ฟังถึงความอึดอัดใจต่อพรรคร่วมรัฐบาล จึงอยากเปลี่ยนขั้วมาจับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลนั้น ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตนได้เล่าให้ที่ประชุมฟังโดยที่ไม่มีใครซักถามอะไร แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าไปรับประทานอาหารกับใคร ซึ่งไม่ใช่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โดยเราได้พูดคุยถึงเรื่องทั่วไป รวมถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย

“ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนดังกล่าว ได้ถามว่าในพรรคเพื่อไทยใครมีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้ ผมจึงตอบกลับไปว่าไม่ทราบ ส่วนที่เขามาปรึกษานั้น เพราะเห็นบทบาทของผม เวลา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขอร้องอะไรมา หากทำได้ก็ทำให้ทั้งนั้น ก็ได้บอกแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า ผมไม่ได้โทรศัพท์ไปหา มีแต่ท่านโทรศัพท์มาหา หากโทรศัพท์มาอีกแล้วถามถึงเรื่องนี้ ผมก็จะเล่าให้ฟัง” ร.ต.ท.เชาวริน กล่าว

ร.ต.ท.เชาวริน ยังกล่าวถึงสาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์อยากเปลี่ยนขั้วทางการเมืองว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากความอึดอัดใจต่อการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีแค่ 81 เสียง แต่กลับได้เลือกตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญไปหมด รวมทั้งได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเยอะกว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่มี ส.ส.ถึง 173 คน ที่สำคัญ คือ พรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยเข้าร่วมประชุม ทำให้การนับองค์ประชุมแต่ละครั้งเสียงปริ่มน้ำ ทำให้สภาพการเมืองขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ดูไม่แฮปปี้ เพราะมีปัญหาทั้งเศรษฐกิจ ปัญหาการเมืองรุมเร้า

“หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลมาได้เดือนกว่า แม้พรรคเพื่อไทยค้านไม่ค่อยเป็น แต่ยังมีสภาพขนาดนี้ ไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนในรอบ 30 ปีที่บริหารได้ไม่เท่าไหร่ก็มีอาการร่อแร่ ถ้าฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้เข้มแข้งกว่านี้ รัฐบาลไม่จะทำอย่างไร แสดงว่าเรื่องนี้ภายในพรรคประชาธิปัตย์คงมีการหารือกันจริง ส่วนการเปิดเผยเรื่องดังกล่าว เพราะต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกคอกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ แต่ถ้าแตกกันจริงก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ได้มีเจตนาให้แตกคอกันเอง” ร.ต.ท.เชาวริน ระบุ

ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวอีกว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน และไม่ใช่ 1 บวก 1 เท่ากับ 2 เสมอไป เพราะการเมืองเป็นเรื่องการต่อรอง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โทรศัพท์หาเป็นประจำ แล้วจะแจ้งให้ทราบถึงเรื่องนี้อย่างไร ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ถามมาก็ต้องตอบไป ส่วนหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้วมีความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์จะจับมือพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า คนที่แย่งเมียเพื่อนไป ยังร่วมทำงานกันได้เลย

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงนั้น ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า มี พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ที่เดินทางไป แต่ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ประเทศไหน ทราบเพียงว่าบินจากนิคารากัวมาที่สิงคโปร์ แล้วและจะบินไปถึงฮ่องกงในวันที่ 19 ก.พ. ก่อนที่จะไปดูไบ

ด้าน นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย หนึ่งในคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กล่าวถึงการอภิปรายในประเด็นรัฐมนตรีมีกิ๊กนั้น ค่อนข้างชัดเจนจากการแต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรีล่าสุด ส่วนกรณีปลากระป๋องเน่านั้น แม้จะมีการปรับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบออกไปแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่พ้นผิด เนื่องจากมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายนายอภิสิทธิ์ จากเอกสาร แผ่นพับ ที่แนบไปกับถุงยังชีพของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่างชัดเจน ส่วนเวลาในการอภิปรายนั้นคาดว่าจะใช้เพียง 1-2 วัน เท่านั้น

ขณะที่ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กล่าวถึงประเด็นรัฐมนตรีมีกิ๊ก จะนำมาอภิปรายได้หรือไม่ว่า สามารถอภิปรายได้ เพราะเกี่ยวเนื่องกับคุณธรรม จริยธรรม โดยจะพุ่งเป้าไปที่ตัวรัฐมนตรีเป็นหลัก จะพูดถึงบุคคลที่ 3 เพียงบางส่วน เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นของถนัดสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จะพูดถึงเรื่องการแต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่เกิดจากความใกล้ชิดสนิทสนม ซึ่งมีที่มาที่ไปไม่ต่างจากกรณีเงิน 250 ล้านบาท เพราะได้เลี้ยงเอาไว้คอยช่วยงาน ไปไหนก็ไปด้วยกัน เอาสมบัติเงินทองไปซุกซ่อนเอาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการหลบเลี่ยงกฎหมาย หลบเลี่ยงรัฐธรรมนูญ ซึ่งมี 4-5 คน

ส่วนรัฐมนตรีรายใดมีพฤติกรรมเช่นนี้บ้างนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ในวงการการเมือง รวมทั้งสื่อมวลชนเองก็รู้กันดี เพียงแต่ประชาชนทั่วไป ชาวบ้านต่างจังหวัด ยังไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ นอกจากนี้จะพูดถึงเรื่องคนใกล้ชิดที่ไม่จดทะเบียนสมรส ตลอดจนการปกปิดบัญชีทรัพย์สินที่ฝากไว้กับคนใกล้ชิดที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย สำหรับเรื่องนี้จะไม่พุ่งเป้าไปที่ตัวนายกฯ แต่โฟกัสไปที่หัวขบวนรัฐบาล ถ้าเปิดออกมาแล้วไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต