“หัวขวด” ไม่เลิกกล่าวหา ทหาร อ้างเอกสารใหม่ แฉแผนสกัด “เสื้อแดง”

“หัวขวด” ขุดเอกสารใหม่โต้ “กองทัพ” อ้างไม่เกี่ยวตรงชื่อสู้วิกฤตเศรษฐกิจ ชี้ รบ.จับมือกองทัพใช้งบอำพราง กำจัดเสื้อแดง หวังผลการเมือง “ไอ้ตู่” เตรียมตั้งกระทู้ถาม รมว.กลาโหม หากไม่ทันเล็งยื่นซักฟอกแทน ลั่น เคลื่อนพลไปทำเนียบแน่ แต่จะไม่ขวางประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แขวะม็อบปิดล้อมสนามบิน ทหารใช้กำลังแค่ 1 กองร้อย แต่ม็อบเสื้อแดงไปนอกทำเนียบ จะใช้ กม.กดหัวให้มันรู้ไป

วันนี้ (16 ก.พ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า กรณีที่กองทัพออกมาปฏิเสธตรงกันว่า โครงการ 2 พันล้านบาท เพื่อสร้างความสมานฉันท์ไม่ได้หวังผลทางการเมือง แต่เป็นการสู้วิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง นั้น แต่ความจริงเมื่อตนไปพบเอกสารชุดหนึ่งจากกกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งได้มีการสรุปแผนปฏิบัติการเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็มีข้อสังเกตสำคัญหลายประการ เช่น รายงานดังกล่าวแบ่งพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลัง โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ระดับ คือ พื้นที่เพ่งเล็ง พื้นที่สนใจ และพื้นที่ปกติ

โดยจะนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแบ่งงบประมาณ ซึ่งน่าสงสัยว่ากองทัพมีหลักเกณฑ์กำหนดพื้นที่ และการกำหนดหลักเกณฑ์ในการแบ่งระดับภาวะเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่อย่างไร ตามที่กองทัพกล่าวอ้างว่าแผนดังกล่าวเป็นการให้ความรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เท่าที่ดูกิจกรรมบางอย่าง เช่น การจัดคอนเสิร์ตรักชาติหรือวงดุริยางค์ ไม่ได้เกี่ยวกับการสู้วิกฤตเศรษฐกิจแต่อย่างใด ตนจึงเชื่อไม่ได้เลยว่า ภารกิจของกองทัพมีเป้าหมายตรงตามชื่อของโครงการ แต่น่าจะเป็นภารกิจเพื่อปลุกระดมความคิดมวลชน เพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่า

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนล่าสุดที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาระบุว่า งบดังกล่าวเป็นงบ กอ.รมน.แต่เมื่อไปตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ปี 2543 ถึงรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่มีการจัดสรรในส่วนงบประมาณในส่วนนี้เลย ดังนั้น กองทัพต้องชี้แจงรายละเอียดเรื่องการจัดสรรงบประมาณด้วย

“ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่ากรณีงบ 2 พันล้านของกองทัพ เป็นการจับมือระหว่างรัฐบาลและกองทัพโดยอ้างอิงเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อดำเนินการเคลื่อนไหวจัดการมวลชนฝ่ายตรงข้าม โดยหวังผลทางการเมือง เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลของประชาชน แต่เป็นหน่วยที่ขึ้นตรงกับกองทัพอีกที จึงกล่าวได้ว่ากรณีงบ 2 พันล้าน เป็นพฤติกรรมอำพราง ซ่อนเงื่อนและไม่ยุติธรรมต่อประชาชน”

นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ตนได้แจ้งความจำนงต่อประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อยื่นกระทู้ถามสดต่อ รมว.กลาโหม แต่หากไม่ทันก็จะยื่นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตามในส่วนของความเคลื่อนไหวเสื้อแดงยืนยันจะชุมนุมในวันที่ 24 ก.พ.เวลา 09.00 น.และจะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลเวลา 10.00 น.แต่จะไม่ขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แม้จะมีกำหนดการจะเคลื่อนขบวนไปกระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อถามว่า มีกระข่าวว่ารัฐบาลเตรียมกำลังตำรวจทหารไว้หลักหมื่นเพื่อสกัดกั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีคนบุกปิดล้อมสนามบินและทำเนียบ มีการเตรียมกำลังแค่ 1 กองร้อย แต่คนจะไปชุมนุมนอกทำเนียบ ไม่ได้บุกเข้าไปใช้กำลังมากขนาดนั้น จะได้เห็นกันไปว่าเป็นอย่างไร กฎหมายต้องบังคับใช้กับทุกคน ถึงจะเรียกว่ากฎหมาย ถ้าใช้กับบางคนเรียก กดหัว และสังคมไทยจะไม่มีใครยอมถูกกดหัวตลอดไป