นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างร่วมรายการ รัฐบาลของประชาชน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ว่า ในการเตรียมความพร้อมในการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า
รัฐบาลได้ดำเนินการเตรียมการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ มาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือจาก ทุกองค์กร ประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้การจัดงานพระราชพิธีเป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้นและเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาส ถวายความจงรักภักดี เพราะพระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชน ทรงอุทิศพระวรกาย ทรงงานด้านการศึกษา สาธารณสุข ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน ในระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2551 รวมทั้งขอให้สถานที่ราชการ ลดธงชาติลงครึ่งเสา และขอความร่วมมือสถานบันเทิงงดเว้นการจัดรายการบันเทิง และี้ขอเชิญชวนประชาชนร่วมถวายดอกไม้จันทน์ในวันพระราชพิธีพระราชทาน เพลิงพระศพฯ โดยสามารถร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึงพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ไว้รอบบริเวณ ท้องสนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง จำนวน 8 ซุ้ม สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมในงานพระราชพิธีที่ท้องสนามหลวง สามารถร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ที่สำนักงานเขตและวัดต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนในต่างจังหวัดสามารถถวายได้ที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด อำเภอ วัด ทั่วประเทศ เช่นเดียวกัน
สำหรับริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 1 - 6 จะมีการแต่งกายตามโบราณราชประเพณี ซึ่งทุกริ้วขบวนมีความพร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเพียงการจัดดอกไม้ประดับรอบพระเมรุที่ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับความเสียหายจากสภาพดินฟ้าอากาศ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วงเช้าของวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธี รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าชมความงดงามของพระเมรุ เป็นระยะเวลา 1 เดือน ในเวลาราชการ และจะมีการนำภาพเขียนโดยศิลปิน 84 คน รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการพระประวัติ พระกรณียกิจ และเครื่องประกอบพระอิสริยศบางส่วน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้รับชม
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับมอบหมายให้จัดงานมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ โดยจะจัดที่บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ รวม 3 เวที เริ่มการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น.ของวันที่ 15 พฤศจิกายน จนถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายน ประกอบด้วย เวทีที่ 1 มีการแสดงหนังใหญ่และโขนเรื่องรามเกียรติ์ เวลา 19.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 ถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551
เวทีที่ 2 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 มีการแสดงวงดุริยางค์เยาวชน T.Y.O. (THAILAND YOUTH SYMPHONY ORCHESTRA) วงซิมโฟนีออร์เคสตร้าของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงดุริยางค์สากลของกรมศิลปากร NSO (NATIONAL SYPHONY ORCHESTRA) และวงดุริยางค์ผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยเป็นการบรรเลงต่อเนื่องจนถึงเช้าของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551
เวทีที่ 3 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา 19.00-21.30 น. มีการแสดงหุ่นกระบอกเรื่องพระอภัยมณี หุ่นละครเล็กเรื่องกำเนิดพระคเณศร์ ของคณะโจหลุยส์ โดยจะเริ่มการแสดงภายหลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ จริง จากนั้นมีการแสดงละครนอกเรื่องสุวรรณหงส์เสี่ยงว่าว-กุมภณฑ์ถวายม้า โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
รัฐบาลได้ดำเนินการเตรียมการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ มาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือจาก ทุกองค์กร ประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้การจัดงานพระราชพิธีเป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้นและเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาส ถวายความจงรักภักดี เพราะพระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชน ทรงอุทิศพระวรกาย ทรงงานด้านการศึกษา สาธารณสุข ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน ในระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2551 รวมทั้งขอให้สถานที่ราชการ ลดธงชาติลงครึ่งเสา และขอความร่วมมือสถานบันเทิงงดเว้นการจัดรายการบันเทิง และี้ขอเชิญชวนประชาชนร่วมถวายดอกไม้จันทน์ในวันพระราชพิธีพระราชทาน เพลิงพระศพฯ โดยสามารถร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึงพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ไว้รอบบริเวณ ท้องสนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง จำนวน 8 ซุ้ม สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมในงานพระราชพิธีที่ท้องสนามหลวง สามารถร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ที่สำนักงานเขตและวัดต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนในต่างจังหวัดสามารถถวายได้ที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด อำเภอ วัด ทั่วประเทศ เช่นเดียวกัน
สำหรับริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 1 - 6 จะมีการแต่งกายตามโบราณราชประเพณี ซึ่งทุกริ้วขบวนมีความพร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเพียงการจัดดอกไม้ประดับรอบพระเมรุที่ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับความเสียหายจากสภาพดินฟ้าอากาศ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วงเช้าของวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธี รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าชมความงดงามของพระเมรุ เป็นระยะเวลา 1 เดือน ในเวลาราชการ และจะมีการนำภาพเขียนโดยศิลปิน 84 คน รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการพระประวัติ พระกรณียกิจ และเครื่องประกอบพระอิสริยศบางส่วน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้รับชม
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับมอบหมายให้จัดงานมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ โดยจะจัดที่บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ รวม 3 เวที เริ่มการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น.ของวันที่ 15 พฤศจิกายน จนถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายน ประกอบด้วย เวทีที่ 1 มีการแสดงหนังใหญ่และโขนเรื่องรามเกียรติ์ เวลา 19.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 ถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551
เวทีที่ 2 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 มีการแสดงวงดุริยางค์เยาวชน T.Y.O. (THAILAND YOUTH SYMPHONY ORCHESTRA) วงซิมโฟนีออร์เคสตร้าของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงดุริยางค์สากลของกรมศิลปากร NSO (NATIONAL SYPHONY ORCHESTRA) และวงดุริยางค์ผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยเป็นการบรรเลงต่อเนื่องจนถึงเช้าของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551
เวทีที่ 3 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา 19.00-21.30 น. มีการแสดงหุ่นกระบอกเรื่องพระอภัยมณี หุ่นละครเล็กเรื่องกำเนิดพระคเณศร์ ของคณะโจหลุยส์ โดยจะเริ่มการแสดงภายหลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ จริง จากนั้นมีการแสดงละครนอกเรื่องสุวรรณหงส์เสี่ยงว่าว-กุมภณฑ์ถวายม้า โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์