นายกฯ ศรีลังกา พบ “อภิสิทธิ์” ยันสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้น

นายกรัฐมนตรีศรีลังกา เยี่ยม “อภิสิทธิ์” ยันสัมพันธ์ไทย-ศรีลังกายังแน่นแฟ้น ชี้มีศาสนาเป็นตัวเชื่อม ด้านนายกฯ เสนอตัวหนุนสร้างวัดในกรุงโคลัมโบ หวังแสดงถึงสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนา พร้อมดันการลงทุนร่วมกัน ฝ่ายนายกฯศรีลังการับเร่งเคลียร์ปัญหากบฏภายใน เผยตั้งกรรมการจังหวัดให้ปกครองดูแลพื้นที่ตัวเอง

วันนี้(11 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายรัตนศิริ วิกรามานายากา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เข้าเยี่ยมคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีไทยเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า

โดยในการสนทนานายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายรัตนศิริและคณะ พร้อมแสดงความยินดีที่ไทยและศรีลังกามีการแลกเปลี่ยน การเยี่ยมเยือนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง และยินดีที่ทราบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกาจะเดินทางมาเยือนไทยในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ และพร้อมสานต่อความร่วมมือและนโยบายที่มีอยู่ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นต่อไป ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศ มีศาสนาเป็นตัวเชื่อมโยงความสัมพันธ์ให้เจริญก้าวหน้า มีประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนาร่วมกัน ซึ่งการมาเยือนในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้ไปเยี่ยมเยือนวัดพระธรรมกายและร่วมพิธีอันยิ่งใหญ่ในวันมาฆบูชาและรู้สึกประทับใจที่เห็นคนจำนวนมากต่างอยู่ในความสงบนิ่งระหว่างพิธีการ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า วัดพระธรรมกายมีเครือข่ายที่ก้าวขวางและทันสมัย ทำให้สามารถช่วยเผยแพร่ศาสนาได้กว้างขวางทั่วโลก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการก่อสร้าง International Buddhist Zone ทางตอนใต้ของกรุงโคลัมโบ ที่จัดสรรให้ประเทศต่างๆสร้างถาวรวัตถุที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาของประเทศของตน ซึ่งนายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ มีอีก 11 ประเทศที่ตอบตกลงที่จะมาสร้างวัดในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

ด้านการค้าการลงทุน นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและศรีลังกามีศักยภาพที่จะขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันได้อีก โดยเฉพาะในขณะนี้ที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อาเซียนมีความร่วมมือกับประเทศต่างๆมากขึ้น และขณะนี้เรามีโครงการ ASEAN Integration Programme กับประเทศที่กำลังพัฒนา เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงตลาดในประเทศนั้นๆ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า ประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียนช่วงปลายเดือนนี้ด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งในศรีลังกา ซึ่งนายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้กล่าวถึง ความพยายามของรัฐบาลในการจัดการกับกบฏในศรีลังกาด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งการเจรจา แต่ไม่ได้ผลสำเร็จเท่าที่ควร อย่างไรก็ดีในขณะนี้ รัฐบาลศรีลังกาได้ใช้การพัฒนาเข้าไปแก้ปัญหา โดยเน้นการให้การศึกษาแก่คนในท้องถิ่น รวมทั้งสร้างถนนหนทาง พัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ ให้มีความทัดเทียมกับบริเวณอื่นในประเทศ และได้นำแนวคิดการจัดตั้งคณะกรรมการจังหวัด (Provincial Council) มาใช้ในจังหวัดที่มีปัญหากบฏ เพื่อให้เขาสามารถเลือกตัวแทนของเขาเองขึ้นมาช่วยรัฐบาลบริหารจังหวัดนั้น ซึ่งได้นำมาใช้ในภาคตะวันออกของศรีลังกาแล้วและถือว่าได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี รัฐบาลศรีลังกาจึงจะนำแนวคิดนี้มาใช้ในภาคอื่นๆที่มีปัญหาความขัดแย้งด้วย