“รองประธานสภาฯ” เห็นแย้ง “เป็ดเหลิม” ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 มี.ค. ชี้เร็วเกินไป ควรเก็บข้อมูลให้มากกว่านี้ พร้อมวอน ส.ส.ฝ่ายค้านอย่าเปิดเกมนับองค์ประชุมบ่อย เหตุกระทบภาพลักษณ์สภา เผยหนุน “มิ่งขวัญ” นั่งนายกฯ แทน “มาร์ค” พร้อมปัดคนในตระกูล “ชินวัตร” ชี้นำทิศทางพรรค
ที่รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาที่ฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมบ่อยครั้งว่า ที่ผ่านมาตนได้ประสานกับวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน เพื่อพยายามขอร้องทั้งสองฝ่ายว่าไม่ควรเล่นเกม เนื่องจากจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของสภาเสียหาย โดยในการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) ตนก็ได้พูดถึงกรณีดังกล่าวเพื่อขอร้อง ส.ส.ในพรรคว่าการนับองค์ประชุมจะต้องทำโดยมีเหตุผล ไม่ใช่นับพร่ำเพรื่อ
ส่วนความเป็นไปได้ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนอาจใช้วิธีการวอล์คเอ้าท์ทันทีที่รัฐบาลแก้เกมด้วยการชิงปิดประชุมสภานั้น ตนเชื่อว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหากตนขึ้นทำหน้าที่ประธานในการประชุมสภาฯเมื่อไหร่ก็จะพยายามควบคุมการประชุมให้เป็นไปได้ด้วยดี และพยายามเตือน ส.ส.ฝ่ายค้านที่มักขอนับองค์ประชุมบ่อยครั้ง เช่น นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แต่ก็เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนก็มีเหตุผลและมีเจตนาที่ดีในการทำหน้าที่ในสภา ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องมีความพร้อมในการทำงานในสภา เพราะหากมีการนับองค์ประชุมแล้วสภาไม่ครบองค์ประชุม รัฐบาลก็จะเป็นผู้เสียหาย แต่หากองค์ประชุมครบ ฝ่ายค้านก็จะเป็นผู้เสียหายเองเช่นกัน
สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 11 มีนาคมนั้น พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะยื่นญัตติในช่วงกลางเดือนมีนาคม เนื่องจากมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เร็วเกินไป ฝ่ายค้านควรมีเวลาในการเก็บข้อมูลที่นานกว่านี้ ข้อกล่าวหาในประเด็นการทุจริตนั้นก็ต้องมีหลักฐานชัดเจน ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เสนอที่จะอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีเจรจาเงินกู้ญี่ปุ่นกว่า 63,000 ล้านเยนนั้น ตนมองว่าการตรวจสอบสามารถทำได้หลายช่องทางไม่ใช่แค่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น ยังสามารถยื่นผ่านช่องทางอื่นนอกสภาได้ด้วย เช่น การให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยมีรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือยัง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ยอมรับว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยได้เสนอรายชื่อบุคคลมาหลายบุคคลในขณะนี้ ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และตน ซึ่งคงต้องไปลงมติในการประชุมกันอีกครั้ง ส่วนกรณีของตนนั้นรู้สึกยินดีที่สมาชิกในพรรคเสนอชื่อ ทั้งๆ ที่ใจจริงแล้วตนไม่อยากเป็นนายกฯ และเห็นว่านายมิ่งขัวญมีความเหมาะสมมากกว่า แต่สุดท้ายหากมติพรรคเพื่อไทยออกมาเป็นอย่างไรตนก็พร้อมปฎิบัติตาม
ส่วนหากพรรคเพื่อไทยมีมติเรื่องใด คนตระกูลชินวัตรจะเข้าไปมีบทบาทด้วยหรือไม่นั้น พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า สามารถเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคได้ แต่ไม่ได้มีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องใดๆ ในพรรค ซึ่งเรื่องนี้ตนก็เคยพูดว่า แม้จะยังเคารพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่พรรคก็ต้องมีระบบ มีความเป็นสถาบัน การตัดสินใจเรื่องใดในพรรคก็ต้องผ่านที่ประชุมพรรคเสมอ
