“สำราญ” ยอมรับ พรรคประชาธิปัตย์ ให้เกียรติทาบทามนั่ง ผช.รมต.แต่เปิดทางผู้บริหารถ้าเป็นผลลบต่อพรรค-รัฐบาล ก็ต้องหยุด ย้ำ พันธมิตรฯ-ปชป.ไม่มีโควตาต่างตอบแทน ครวญรู้สึกทุเรศกรณีถูกปล่อยข่าวโจมตี คั่ว ผอ.อสมท
วันนี้ (10 ก.พ.) นายสำราญ รอดเพชร อดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่น 2 กล่าวกับ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ถึงกรณีมีชื่ออยู่ในโผตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งจาก ครม.วันนี้ (10) ว่า ไม่ได้ติดตามข่าวเรื่องนี้เลย แต่ยอมรับว่า เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนได้รับการติดต่อสอบถามจากผู้ใหญ่ในพรรคจริง ว่า สนใจจะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ ถ้าสนใจก็ควรจะมาทำงานในตำแหน่งทางการเมือง พร้อมถามว่าสนใจงานด้านไหน
“ท่านคงเห็นว่า ตอนเราลงเลือกตั้งได้มาตั้ง 94,000 กว่าคะแนน ก็คงอยากให้ลุยต่อ ผมก็บอกไปว่าสุดแท้แต่ท่าน ส่วนงานที่น่าจะถนัดก็ออกไปทางด้านการเมือง สังคม วัฒนธรรม และที่สนใจมาก ก็คือ ด้านความมั่นคง ท่านก็บอกโอเคจะพิจารณา ก็ผ่านมาพักหนึ่ง จนกระทั่งวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ผมเกรงว่า ทางพรรค ทางรัฐบาล หรือนายกฯอาจจะอึดอัดใจกรณีผม ผมก็โทรศัพท์ไปแจ้งกับผู้บริหารพรรคท่านดังกล่าว ว่า กรณีผมถ้ามีอะไรที่เป็นปัญหา หรือมีคำถามมาก ท่านอย่าได้เกรงใจ ไม่ต้องแต่งตั้งอะไรหรอก ท่านเอารัฐบาลเป็นหลักก็แล้วกัน ก็บอกไปทำนองนี้ คือ เปิดทางให้ท่าน” นายสำราญ กล่าว
นายสำราญ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่มีบางฝ่ายออกมาต่อต้านในความเป็นแกนนำพันธมิตรฯรุ่น 2 และการที่มีบุคคลจำนวนหนึ่งที่มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯแล้ว ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นโควตาหรือเกี่ยวกับพันธมิตรฯ ถ้าจะตอบแทนหรือเป็นโควตา ก็ต้องหยิบเอา 5 แกนนำบางคนไปเป็นรัฐมนตรี เป็นรองนายกฯ
“คนที่มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ รวมทั้งผมนี่ เราทำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับพรรค เป็นความคิดเห็นในเชิงการต่อสู้ เป็นบทบาทส่วนตัว แน่นอนมีทั้งคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วย มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ทำในสิ่งที่ชั่วร้าย ขณะเดียวกัน ก็อยากขอความเป็นธรรม ให้ดูกันที่ผลงาน อย่างท่านทูต กษิต ภิรมย์ ท่านไปทำงานแล้วก็มีผลงงานที่ดี และพอไปอยู่ตรงนั้นท่านก็หยุดบทบาทตรงส่วนพันธมิตรฯ ก็ไม่เห็นมีอะไร”
อดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ และแม้แต่ในขณะนี้ก็มีบางกลุ่มพยายามปล่อยข่าวลือโจมตีว่าตนจะไปเป็น ผอ.อสมท ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย เข้าใจว่า อาจจะเป็นการเสนอข่าว “ดักทาง” ซึ่งตนรู้สึกทุเรศมาก “จะเป็นไปได้ยังไง เขาต้องสรรหา เขามีสเปกคุณสมบัติที่ผมไม่มีตั้งหลายข้อ และที่สำคัญที่สุด ผมไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดแม้แต่น้อย”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า ยังคาดหวังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีหรือไม่ นายสำราญ ตอบว่า สุดแล้วแต่พรรคและรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพราะที่ต่อสู้เพื่อบ้านเพื่อเมือง ร่วมกับพันธมิตรฯก็ไม่เคยคิด หรือมุ่งหวังตำแหน่งทางการเมืองแม้แต่น้อย หลังเลิกชุมนุมก็ไม่ได้ไปพบวิ่งเต้น หรือเสนอตัวกับใคร เพียงแต่ผู้ใหญ่บางท่านเมตตาโทรศัพท์มาสอบถามเท่านั้น และเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ก็ได้เรียนให้ผู้ใหญ่ในพรรคสบายใจเรื่องของตนไปแล้ว ถ้าจะแต่งตั้งก็ต้องมั่นใจแต่ถ้าไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลและต่อทุกฝ่ายก็ไม่ควร
“ที่ผมบอกผู้ใหญ่ไปก็ชัดเจนแล้ว คุยกันแบบให้เกียรติแต่จริงจัง คือ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรสบายใจ เข้าใจกัน” นายสำราญ กล่าว