“มาร์ค” ซื้อใจรากหญ้า เจรจาประนอมหนี้เกษตร

“อภิสิทธิ์” ซื้อใจรากหญ้า เจรจาแบงก์หวังประนอมหนี้เกษตรกร จัดโปรโมชันรัฐจ่ายให้ส่วนหนึ่ง พร้อมโอนหนี้เข้ากองทุนฟื้นฟูฯ

วันนี้ (10 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ส่วนใหญ่ว่าด้วยเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งมีข้อผูกพันอยู่ โดยเฉพาะในกรอบของอาเซียน เรื่องเชิงนโยบายจะมีในส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้มีการเสนอแผนในเรื่องของการฟื้นฟู ครม.ได้มีการอนุมัติไป ส่วนที่เรื่องที่ใช้เวลาพิจารณามาก คือปัญหาหนี้สินเกษตรกร ในกรอบของกองทุนฟื้นฟู อยากให้เข้าใจว่าก่อนหน้านี้ ครม.เคยมีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือไป จะเป็นกลุ่มเกษตรกรไปถึงขั้นถูกยึดที่ดิน เราจึงแก้ไขปัญหาให้ เพราะนโยบายรัฐบาลเขียนไว้ชัดเจน ก็ต้องการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรได้รักษาที่ดินเอาไว้ แต่ที่ค้างอยู่ในขณะนี้จะมี 3 กลุ่ม คือ 1.หนี้สินของเกษตรกรที่กำลังถูกดำเนินคดีโดยธ.ก.ส.2.กลุ่มเกษตรกรที่ถูกดำเนินคดีเรื่องหนี้สิน โดยธนาคารพาณิชย์ และ 3.กลุ่มเกษตรกรมีหนี้สินอยู่กับ ธ.ก.ส.เป็นหนี้เสียและกำลังถูกดำเนินคดี

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ดังนั้น หลักที่ ครม.อนุมัติ ก็คือ จะเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงิน ทั้ง ธ.ก.ส.และ ธนาคารอื่น ว่า จะหยุดเรื่องกระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดีไว้ก่อนได้หรือไม่ หากมีภาระที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาลจะเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระ หรือรับผิดชอบส่วนหนึ่ง นั่นเป็นประเด็นแรก นี่เป็นหลักการสำคัญ ส่วนที่ 2 หนี้ที่ยังไม่เข้าสู่เรื่องคดี ก็อยากให้มีการพิจารณา ในเรื่องการฟื้นฟู ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการทำงานของกองทุนฟื้นฟูฯ พร้อมๆ กับการไปดูความเป็นไปได้ของการโอนหนี้ทั้งหลาย เข้ามาเป็นหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งคิดว่าหากเป็นไปตามแนวทางนี้ เกษตรกรจะมีความมั่นใจว่าเรื่องของคดีความต่างๆ จะยังไม่มีการดำเนินการ พร้อมกันนี้ จะมีกระบวนการฟื้นฟู แล้วถ้าเขามั่นใจในส่วนของกองทุนฟื้นฟูฯมากกว่าจะมีการเจรจาโอนหนี้เข้ามา ถือเป็นข้อยุติในส่วนของเกษตรกรที่มีข้อเรียกร้องและสืบเนื่องจากมติ ครม.ที่ยังไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม

ผู้สื่อข่าวกล่าวถึงยอดหนี้ของเกษตรกรที่มีถึง 17,900 ล้านบาท รัฐบาลจะต้องมีการตั้งงบประมาณรองรับเท่าไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในชั้นนี้เรื่องของงบประมาณยังไม่เป็น สมมติว่าในขั้นแรกการที่รัฐบาลจะเข้าไปดูแล เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องการดำเนินคดี คงไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ ส่วนยอดของเงินต้นทั้งหมด การโอนหนี้พร้อมกับกระบวนการฟื้นฟูสามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีการจัดทำงบประมาณทั้งก้อนไปไว้ตรงนั้น จึงคิดว่าตรงนี้จะสามารถบริหารจัดการได้ ถ้าสามารถใช้กระบวนการเจรจาบวกกับฟื้นฟูได้ จะมีเวลาอีก 2-3 ปี ส่วนหนึ่งหวังว่าเราจะสามารถแปลงนี้เสีย เป็นหนี้ดีได้

เมื่อถามว่า จุดนี้มีการประสานเกษตรกรแล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้มอบหมาย รมว.คลัง และ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ในฐานะรักษาเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูหนี้สินเกษตรกร เข้าไปเจรจา เมื่อถามว่าจะสร้างความพอให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบได้หรือไม่ นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า เราอยากให้เขามั่นใจกับสิ่งที่เขากลัว คือ การถูกดำเนินคดี รัฐบาลจะเข้าไปเจรจากับส่วนที่ 2 ความประสงค์ของเกษตรกรที่ต้องการให้เข้าไปโอนหนี้กับกองทุนฟื้นฟูฯ รัฐบาลไม่ปฏิเสธเพียงแต่มีขั้นตอนในการเข้าไปเจรจาในเรื่องนี้