เพื่อไทยอดอยากปากแห้งอีก กกต.เบรกจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมืองปี 2552 เหตุไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งล่าสุด แม้จะมี ส.ส.จากพรรคที่ถูกยุบย้ายไปสังกัดจำนวนมาก ร้อนถึง ปธ.วิปฝ่ายค้าน โฆษกพรรคฯ บุกทวงถามร้องขอรับการจัดสรร
วันนี้ (6 ก.พ.) คณะกรรมการกองทุนพรรคการเมืองที่มีตัวแทนพรรคการเมืองร่วมเป็นกรรมการได้มีการประชุม โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นประธาน และนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เข้าร่วม ปรากฏว่าระหว่างประชุม น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้สอบถามถึงเหตุที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนให้กับพรรคการเมืองในปี 2552 ทั้งที่มีส.ส.จากพรรคที่ถูกยุบมาสังกัดจำนวนมาก
โดยนางสดศรี ชี้แจงว่า กรณีที่ กกต.จะจัดสรรเงินกองทุน เพื่อสนับสนนุพรรคการเมือง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คือ มาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ระบุว่าพรรคการเมืองที่จะได้รับจัดสรรเงินสนับสนุนต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั่วไป ทั้ง ส.ส.สัดส่วน และแบ่งเขต ครั้งหลังสุด ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นการทั่วไปครั้งหลัดสุดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.50 เป็นผลให้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้รับการจัดสรรเงิน อีกทั้งไม่ได้จัดทำแผนงานโครงการในการดำเนินการทางกิจกรรมการเมืองในปี 52 เสนอมายัง กกต. ดังนั้น งบประมาณในการสนับสนุนพรรคการเมืองในปี 2552 ของพรรคเพื่อไทยจะยังไม่ได้รับ ถึงแม้ขณะนี้จะมีการับโอน ส.ส.จากพรรคที่ถูกยุบเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาเข้าสังกัดก็ตาม
ด้าน นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผอ.สำนักบริหารการสนับสนุนโดยรัฐ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า หากทางพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ ก็ต้องทำแผนงานโครงการที่จะทำในปี 2553 เสนอมายัง กกต.ภายในเดือน ส.ค.นี้ก็จะได้รับจัดสรรตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยจะเข้าตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 81 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะพรรคเพื่อไทยได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งในกรณีนี้จะได้เฉพาะเงินไว้ใช้บริหารงานในสำนักงาน เช่น ค่าเช่าสำนักงาน หรือสาขาพรรค ค่าโทรศัพท์ ค่าสาธารณูปโภค และค่าไปรษณียากร โดยการจ่ายจะคำนึงถึงค่าใช้ตามความเป็นจริง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมใหญ่ของสาขาพรรคการเมือง ซึ่งจะไม่นำจำนวน ส.ส.ที่ย้ายเข้าไปสังกัดพรรคมานับเป็นเกณฑ์ เนื่องจากจะไปทำให้พรรคเล็กๆ ที่ได้ส่ง ส.ส.ลงรับเลือกตั้งครั้งหลังสุด แต่ได้ ส.ส.ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็เกิดการเสียเปรียบ
ด้านนายอภิชาตกล่าวต่อตัวแทนของพรรคเพื่อไทยว่า ทาง กกต.จะทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตอบกลับไปให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกัน นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. ขอจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ.2552 ให้แก่พรรคเพื่อไทย โดยนายวิทยา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจัดตั้งมาแล้วกว่า 1 ปี มีสมาชิกที่เป็น ส.ส.จำนวน 183 คน ซึ่งก็ปฏิบัติตามระเบียบตามที่ กกต.กำหนด และการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ต้องทำความ เข้าใจกับประชาชน รวมถึงนโยบายที่จะมอบให้กับประชาชน ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ทางพรรคเองยังไม่ได้รับการสนับสนุน และมีหลายพรรคการเมืองก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุน ทั้งนี้มั่นใจว่าพรรคจะได้รับเงินสนับสนุน เพราะเข้าเกณฑ์ตามที่ กกต.กำหนดทุกประการ
วันนี้ (6 ก.พ.) คณะกรรมการกองทุนพรรคการเมืองที่มีตัวแทนพรรคการเมืองร่วมเป็นกรรมการได้มีการประชุม โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นประธาน และนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เข้าร่วม ปรากฏว่าระหว่างประชุม น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้สอบถามถึงเหตุที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนให้กับพรรคการเมืองในปี 2552 ทั้งที่มีส.ส.จากพรรคที่ถูกยุบมาสังกัดจำนวนมาก
โดยนางสดศรี ชี้แจงว่า กรณีที่ กกต.จะจัดสรรเงินกองทุน เพื่อสนับสนนุพรรคการเมือง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คือ มาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ระบุว่าพรรคการเมืองที่จะได้รับจัดสรรเงินสนับสนุนต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั่วไป ทั้ง ส.ส.สัดส่วน และแบ่งเขต ครั้งหลังสุด ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นการทั่วไปครั้งหลัดสุดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.50 เป็นผลให้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้รับการจัดสรรเงิน อีกทั้งไม่ได้จัดทำแผนงานโครงการในการดำเนินการทางกิจกรรมการเมืองในปี 52 เสนอมายัง กกต. ดังนั้น งบประมาณในการสนับสนุนพรรคการเมืองในปี 2552 ของพรรคเพื่อไทยจะยังไม่ได้รับ ถึงแม้ขณะนี้จะมีการับโอน ส.ส.จากพรรคที่ถูกยุบเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาเข้าสังกัดก็ตาม
ด้าน นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผอ.สำนักบริหารการสนับสนุนโดยรัฐ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า หากทางพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ ก็ต้องทำแผนงานโครงการที่จะทำในปี 2553 เสนอมายัง กกต.ภายในเดือน ส.ค.นี้ก็จะได้รับจัดสรรตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยจะเข้าตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 81 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะพรรคเพื่อไทยได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งในกรณีนี้จะได้เฉพาะเงินไว้ใช้บริหารงานในสำนักงาน เช่น ค่าเช่าสำนักงาน หรือสาขาพรรค ค่าโทรศัพท์ ค่าสาธารณูปโภค และค่าไปรษณียากร โดยการจ่ายจะคำนึงถึงค่าใช้ตามความเป็นจริง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมใหญ่ของสาขาพรรคการเมือง ซึ่งจะไม่นำจำนวน ส.ส.ที่ย้ายเข้าไปสังกัดพรรคมานับเป็นเกณฑ์ เนื่องจากจะไปทำให้พรรคเล็กๆ ที่ได้ส่ง ส.ส.ลงรับเลือกตั้งครั้งหลังสุด แต่ได้ ส.ส.ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็เกิดการเสียเปรียบ
ด้านนายอภิชาตกล่าวต่อตัวแทนของพรรคเพื่อไทยว่า ทาง กกต.จะทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตอบกลับไปให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกัน นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. ขอจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ.2552 ให้แก่พรรคเพื่อไทย โดยนายวิทยา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจัดตั้งมาแล้วกว่า 1 ปี มีสมาชิกที่เป็น ส.ส.จำนวน 183 คน ซึ่งก็ปฏิบัติตามระเบียบตามที่ กกต.กำหนด และการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ต้องทำความ เข้าใจกับประชาชน รวมถึงนโยบายที่จะมอบให้กับประชาชน ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ทางพรรคเองยังไม่ได้รับการสนับสนุน และมีหลายพรรคการเมืองก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุน ทั้งนี้มั่นใจว่าพรรคจะได้รับเงินสนับสนุน เพราะเข้าเกณฑ์ตามที่ กกต.กำหนดทุกประการ
