“บุญจง” ลั่นแจกเงินแนบนามบัตรไม่แปลก ยันเดินตามนโยบาย

มท.2 ยืนยันการแจกงบประมาณถึงมือประชาชน เป็นการทำหน้าที่ของ รมต.ตามนโยบายของรัฐบาล ลั่นแจกนามบัตรถือเป็นเรื่องปกติเปิดสายรอรับเรื่องร้องเรียนทุกเวลา พร้อมรับการตรวจสอบ เปรยรู้สึกท้อแต่ไม่ถอย

วันนี้ (28 ม.ค.) นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีการแจกเงินพร้อมนามบัตรจนทำให้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองของฝ่ายค้านว่า ไม่มีอะไร ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ ตนเป็นนักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้นเมื่อมีการตรวจสอบก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ

เมื่อถามว่า ยอมรับการตรวจสอบจากทุกคนหรือไม่ โดยเฉพาะนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายบุญจง กล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งว่าตนเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เมื่อทำอะไรไปมีความมั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อใช้สิทธิตรวจสอบก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ตามกฎหมายของทุกองค์กร

เมื่อถามว่า ถ้า กกต.ชี้ว่าผิดก็ยอมรับใช่หรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบให้ถึงเวลานั้นเราก็พร้อมชี้แจง พร้อมเอกสารพยานบุคคลต่างๆ เพราะถือว่าเราทำประโยชน์ให้กับประชาชน ประชาชนได้รับประโยชน์ก็พร้อมทำต่อไป

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าพอใจทำเพื่อประโยชน์ประชาชนรู้สึกอย่างไรที่โดนเล่นงานเรื่องนี้ นายบุญจง กล่าวว่า ทั้งหมดทำตามอำนาจหน้าที่ในการเป็น รมว.มหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหน้าที่ในการบำบัดทุกบำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจนว่า ตนมีอำนาจ หน้าที่บริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้แถลงไว้ชัดเจนหน้า 15 ที่จะต้องดูแลพี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ คนจน คนพิการ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นตนได้ทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อดำเนินตามนโยบายรัฐบาล

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์น่าจะมาช่วยเหลือประชาชนแทนกระทรวงมหาดไทย นายบุญจง กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนได้รับทั้งหมด เป็นเรื่องที่ดำเนินการตามขั้นตอน ระเบียบของราชการ และประชาชนเหล่านั้นเป็นผู้ด้อยโอกาส ทั้งคนยากจน พิการขาขาด คนแก่ คนถูกเลิกจ้าง คนตกงาน ทั้งหมดนี้ประชาชนทำเรื่องรอคอยเป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือน ต.ค. ยื่นคำร้องสอบถามรายละเอียดชาวบ้าน แต่ละคน แต่ละครัวเรือน มีเอกสาร 7-8 แผ่น ก่อนจะเกลี่ยอนุมัติเงินครัวเรือนละ 500 บาท

“วันนี้มีการนำเสนอข่าวของสื่อบางฉบับที่บิดเบือนความจริงเสนอข่าวเกินความจริง ไม่ได้มีการยึดนามบัตร ผมเป็นนักการเมืองมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และผมก็ทำแบบนี้มาเป็นเวลาหลายปี เวลาเข้าพื้นที่ประชาชนจะขอเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเบอร์โทรศัพท์ของผมจะตัวโตกว่าอย่างอื่นทั้งหมด ประชาชนสามารถโทร.คุยส่วนตัวเรื่องส่วนตัว ส่วนรวม บางครั้งญาติไปตายที่ไต้หวันเผาเสร็จ กระดูกจะกลับทำอย่างไรไม่รู้ไม่มีเงิน บางครั้งมีคดีเกิดขึ้นเรื่องเงินกู้ยืม ก็โทร.หาผม รวมตลอดทั้งราคาสินค้าเกษตร ราคามันสำปะหลังราคาตกต่ำก็ปรึกษาในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนประชาชนกับผมก็อยู่กันอย่างนี้ สามารถโทร.หาผมได้ทุกคน ยายมี ยายมา ป้าแม้น ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ” นายบุญจงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมกับปากสั่นด้วยความโกรธเมื่อถามถึงว่าการแจกเงินและการแนบนามบัตรทำให้ถูกมองว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้า

เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายบุญจง กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่หวั่นไหว แม้จะท้อบ้างแต่ไม่ถอย พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติส่วนร่วม เพราะถือว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวม ส่วนฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบก็ตรวจสอบ ส่วนจะเป็นปลาตายน้ำตื้นหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าทั้งหมดทำถูกต้องตามกฎหมายเป็นการช่วยเหลือประชาชน

เมื่อถามว่า สรุปแล้วว่าเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วเป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ใช่หรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนไม่ทราบข้อมูลนั้น แต่รู้ว่าสิ่งที่ทำไม่ผิดกฎหมายอย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวย้อนถามว่า แต่การแจกเงินเป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นายบุญจง กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าวันนี้อยู่ร่วมกันตั้งแต่อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อยู่ร่วมกันหมดแล้ว วันนี้ประชาชนรู้ว่าเป็นเงินของรัฐบาลที่นำมาช่วยเหลือชาวบ้าน มีการประสานงานกัน อีกทั้งบ้านของตนเองเป็นบ้านรัฐมนตรี ตัวแทนชาวบ้าน มีชาวบ้านเขาอยากมา

เมื่อถามว่าทำให้มองดูว่าเป็นการเตรียมหาเสียงล่วงหน้า นายบุญจง กล่าวว่า ภรรยาตนเป็นเจ้าของบ้าน มาช่วยกันแจกโน่นแจกนี่ เมื่อถามว่านามบัตรที่แจกเป็นนามบัตรภรรยาหรือนายบัตรของท่าน นายบุญจงกล่าวยอมรับว่าเป็นเบอร์โทร.ของตน และพร้อมชี้แจงทุกอย่าง