“เชาวริน” จวกรัฐบาลให้ ส.ส.อ่านร่าง กม.ลงนามในกฎบัตรอาเซียน หมื่นกว่าหน้า แค่ 2 วัน พร้อมเตรียมเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญ หวั่นไทยเสียประโยชน์ ด้าน “ประชา” ยันนายกฯ ต้องลงนามในข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรค ก่อนเข้าประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการลงนามในกฎบัตรอาเซียน และกฎหมายประกอบในวันที่ 26-27 ม.ค.ว่า ส.ส.และ ส.ว.ได้รับเอกสารร่างกฎหมาย 20 ฉบับ ที่มีความหนาถึงหมื่นกว่าหน้า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเวลาเพียง 2 วันนั้น ตนเชื่อว่า รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และ ส.ส.รัฐบาลนั้น อ่านเอกสารไม่หมดอย่างแน่นอน เตรียมเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญ หวั่นไทยเสียประโยชน์
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวอีกว่า เอกสารเหล่านี้เป็นการพิจารณากฎหมายสำคัญเกี่ยวกับประโยชน์ของประเทศ และประชาชน อยากถามว่ารัฐบาลทำแบบนี้ถูกหรือไม่ ตนมั่นใจว่า แม้แต่นายกรัฐมนตรีเอง ก็พิจารณาเอกสารกองนี้ได้ไม่หมด รัฐบาลอย่าทำงานแบบสุกเอาเผากิน เพราะผลกระทบที่มาจากการกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ รัฐบาลไปยืนยันกับ10 ประเทศอาเซียน ว่า จะประชุมทัน หากมีการรับรองแล้ว มีผลเสียเกิดขึ้น การรีบร้อนทำโดยไม่รอบคอบ และรีบลงนามนั้น ไม่สมเหตุสมผล พรรควิตกเรื่องนี้ ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้พรรคน่าจะโหวตแพ้ แต่ตนจะเสนอว่าควรตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อพิจารณากฎหมายเหล่านี้เพราะอาจเกิดผลเสียกับประเทศ
ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ระบุไว้ว่า การทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศนั้น รัฐบาลจะต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน หากรัฐบาลเร่งรีบให้รัฐสภารับรองกฎหมาย 20 ฉบับ นายกรัฐมนตรี ต้องลงนามในข้อตกลงการประชุมครั้งนี้เป็นลายลักษณ์อักษร ว่า จะรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้น เนื่องจากพรรค มองว่า การเร่งรีบทำโดยขาดความรอบคอบเช่นนี้ จะมีผลเสียมากกว่า
ทั้งนี้ ขอให้ติดตามวันที่ 26-27 ม.ค.ว่า พรรคจะดำเนินการอย่างไรกับรัฐบาล เราจะเน้นไปที่นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับความรับผิดชอบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ยังจะพุ่งเป้าไปที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้ ไปร่วมเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการปิดสนามบิน และโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องเขาพระวิหาร
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรค ก่อนเข้าประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการลงนามในกฎบัตรอาเซียน และกฎหมายประกอบในวันที่ 26-27 ม.ค.ว่า ส.ส.และ ส.ว.ได้รับเอกสารร่างกฎหมาย 20 ฉบับ ที่มีความหนาถึงหมื่นกว่าหน้า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเวลาเพียง 2 วันนั้น ตนเชื่อว่า รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และ ส.ส.รัฐบาลนั้น อ่านเอกสารไม่หมดอย่างแน่นอน เตรียมเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญ หวั่นไทยเสียประโยชน์
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวอีกว่า เอกสารเหล่านี้เป็นการพิจารณากฎหมายสำคัญเกี่ยวกับประโยชน์ของประเทศ และประชาชน อยากถามว่ารัฐบาลทำแบบนี้ถูกหรือไม่ ตนมั่นใจว่า แม้แต่นายกรัฐมนตรีเอง ก็พิจารณาเอกสารกองนี้ได้ไม่หมด รัฐบาลอย่าทำงานแบบสุกเอาเผากิน เพราะผลกระทบที่มาจากการกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ รัฐบาลไปยืนยันกับ10 ประเทศอาเซียน ว่า จะประชุมทัน หากมีการรับรองแล้ว มีผลเสียเกิดขึ้น การรีบร้อนทำโดยไม่รอบคอบ และรีบลงนามนั้น ไม่สมเหตุสมผล พรรควิตกเรื่องนี้ ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้พรรคน่าจะโหวตแพ้ แต่ตนจะเสนอว่าควรตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อพิจารณากฎหมายเหล่านี้เพราะอาจเกิดผลเสียกับประเทศ
ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ระบุไว้ว่า การทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศนั้น รัฐบาลจะต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน หากรัฐบาลเร่งรีบให้รัฐสภารับรองกฎหมาย 20 ฉบับ นายกรัฐมนตรี ต้องลงนามในข้อตกลงการประชุมครั้งนี้เป็นลายลักษณ์อักษร ว่า จะรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้น เนื่องจากพรรค มองว่า การเร่งรีบทำโดยขาดความรอบคอบเช่นนี้ จะมีผลเสียมากกว่า
ทั้งนี้ ขอให้ติดตามวันที่ 26-27 ม.ค.ว่า พรรคจะดำเนินการอย่างไรกับรัฐบาล เราจะเน้นไปที่นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับความรับผิดชอบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ยังจะพุ่งเป้าไปที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้ ไปร่วมเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการปิดสนามบิน และโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องเขาพระวิหาร