“เพ็ญ” ที่ได้ดีมาจากก่อม็อบ “ไข่แม้ว” สวมบทนักประชาธิปไตยจ๋า เรียกร้องให้เคลื่อนไหวกันในสภา ด่ากระทบชิ่ง ปชป.สรุปดื้อๆ ปชป.อยู่เบื้องหลังพันธมิตรฯ เนื่องจาก มี “สมเกียรติ” ร่วมเป็นแกนนำ แต่พอ ส.ส.พลังประชาชนจัดม็อบก็ไม่ขัดอ้างเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย
วันนี้ (18 มี.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตแกนนำ นปช.กล่าวถึงบทบาทของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า เป็นธรรมชาติของการเมืองในช่วงนี้ที่พยายามทำให้เกิดการเคลื่อนไหวต่างๆ ส่วนตัวมองว่า ส.ส.ควรศรัทธาในระบบรัฐสภา หากรัฐสภายังไม่เพียงพอในการแสดงออกทางการเมืองก็ไม่ควรเป็นสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่ต้น
“นายกฯ ย้ำเสมอกับ ครม.และข้างนอกว่า ขอให้รัฐมนตรีไปตอบกระทู้ทุกครั้งที่ ส.ส.ยื่นเข้ามา ตรงนี้แสดงแล้วว่ารัฐบาลให้ความร่วมมือกับรัฐสภาและพร้อมเดินตามกลไกรัฐธรรมนูญ ใจจริงแล้วรัฐบาลไม่อยากให้การชุมนุมเกิดขึ้นแต่ก็จะไม่สกัดกั้น” นายจักรภพ กล่าว
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะไปเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ แนวคิดนี้จะเกิดขึ้นและเป็นไปได้หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งนั้น และยิ่งประชาชนเห็นผลงานรัฐบาลมากขึ้นก็จะยิ่งเรียกร้องให้มีทิศทางการประนีประนอมและพูดจาอย่างสุภาพชนมากขึ้น
เมื่อถามว่า นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ระบุว่าจะตั้งกลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย เพื่อโต้ตอบกลุ่มพันธมิตรฯ นายจักรภพ กล่าวว่า รัฐบาลเชื่อมั่นในประชาธิปไตยเต็มที่ ฉะนั้น สิ่งใดที่เป็นความไม่พอใจหรือกังวลใจนั้น เรามีรัฐสภาเป็นเครื่องแก้ปัญหา โดยไม่ต้องเกิดกลุ่มมวลชนใดๆ ขึ้น เพราะบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยมันมีสภาพที่แตกต่างกับช่วงบ้านเมืองอยู่ในยุครัฐประหาร เพราะตอนนั้นไม่มีสภาฯ และไม่มีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง ตอนนั้นมีความจำเป็นที่กลุ่มมวลชนต้องออกมาสู่สนามการเมือง แต่เงื่อนไขตอนนี้ต่างกันราวฟ้ากับดิน เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นเงื่อนไขแบบนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจดำเนินการทางการเมืองแบบนี้ เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องสดับตรับฟังและตัดสินพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่า การชุมนุมนั้นจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมาร่วมและไม่น่าจะมีการจ้าง นายจักรภพกล่าวว่า หากรัฐบาลเข้าไปสกัดกั้นการชุมนุมอย่างเสรีของประชาชนไม่ว่าจะอยู่กลุ่มใดก็ตาม ก็ไม่เป็นประชาธิปไตย หากกลุ่มเหล่านั้นแสดงออกแบบขัดกฎหมายหรือละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น รัฐบาลจึงจะเข้าไปได้ หากกลุ่มเหล่านั้นบอกว่าต้องการเพียงแสดงจุดยืนทางการเมือง หากรัฐบาลเข้าไปสกัดกั้นแบบนี้ก็ไม่ถูก ยืนยันรัฐบาลไม่มีนโยบายแบบนั้น
/0110