“เพื่อแม้ว” ป้องนายสุดชีวิต ชี้โฟนอินไม่ผิด ฟ้องโดนใส่ร้าย

“สุรพงษ์” ป้อง “นช.แม้ว” โฟนอินไม่ผิด อ้างถูกใส่ร้ายต้องหาที่ระบาย ปัดไม่เกี่ยวต้นเหตุเสื้อแดงรวมตัวแต่เลียนแบบเสื้อเหลืองชุมนุม อ้างนายพูดทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ไม่คิดหมิ่นสถาบัน และยังเชื่อสภาล่ม เหตุพรรคร่วมแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว แย้มเต็มร้อย จองกฐินอภิปรายโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน-เอสเอ็มเอส “มาร์ค” ก่อนโปรดเกล้าฯ

วันนี้(23 ม.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินเข้ามาในรายการของสถานีโทรทัศน์ ดีทีวี ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ว่า ตนไม่ทราบความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงนี้ ทราบเพียงว่า จะมีการโฟนอินเข้ามาแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิทธิที่จะทำได้ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกใส่ร้ายมาโดยตลอด และเชื่อว่า เรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินเป็นข้อเท็จจริงที่อยากจะพูดกับสังคม ทั้งนี้ การโฟนอินดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการปลุกระดมคนเสื้อแดง เนื่องจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น เป็นเพียงการเลียนแบบมาจากคนเสื้อเหลืองเท่านั้น

เมื่อถามว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจหมิ่นเหม่ต่อสถาบันศาลและองคมนตรี นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวให้สัมภาษณ์เป็นการนำความจริงมาพูดตามความรู้สึก เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมขณะนี้เป็นเช่นไร ซึ่งทุกคนรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว และไม่สามารถหนีความเป็นจริงไปได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่เหมือนพวกอีแอบที่ปากอย่างใจอย่าง

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่องค์ประชุมไม่ครบ ส่งผลต้องยุติการประชุมสภาเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะหากปล่อยให้สภาพการประชุมเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะกระทบต่อการออกกฎหมายสำคัญๆ ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งสรรผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวของพรรคร่วมรัฐบาล และตนยืนยันว่า การขอนับองค์ประชุมของฝ่ายค้าน ไม่ได้ต้องการตีรวน แต่เป็นการทำตามบรรทัดฐานที่ประชาธิปัตย์เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่จะอภิปรายไม่วางใจรัฐบาล ขณะนี้ฝ่ายค้านมีความพร้อมเต็มที่ ทั้งในส่วนของข้อมูลและตัวบุคคล โดยตนได้จองกฐินในเรื่องของโครงการเช่ารถเมล์ปรับอากาศ 4,000 คัน และการขอความร่วมมือบริษัทเอกชนส่งข้อความเอสเอ็มเอสของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านจะรอให้รัฐบาลทำงานไปก่อน 1-2 เดือน เพื่อให้พบความผิดพลาดที่ชัดเจน เพราะเมื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วสังคมจะได้ยอมรับข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำเสนอ โดยการอภิปรายจะสะเทือนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างแน่นอน