ปธ.วุฒิฯ แนะ ส.ส.ต้องระวังเรื่ององค์ประชุมต้นเหตุสภาล่มวานนี้ มั่นใจในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ พร้อมหนุน กม.จัดเก็บภาษีมรดก เชื่อเป็นรายได้หลักพัฒนาประเทศ ชี้ไม่กระทบคนจน เสนอมูลค่าในการจัดเก็บเริ่มต้นที่หลัก 10 ล้านขึ้นไป
วันนี้ (23 ม.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่มีการนับองค์ประชุมไม่ครบในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ว่า กรณีที่เกิดขึ้นคงเป็นอุปสรรคเล็กน้อย คงไม่มีปัญหาอะไรในระยะต่อไป ส.ส.คงปรับได้ คงทำให้สภาผู้แทนราษฎรต้องระมัดระวังเรื่ององค์ประชุมมากขึ้น ในส่วนของวุฒิคงไม่มีปัญหาองค์ประชุม เพราะสมาชิกมาพร้อมกันอยู่แล้ว ตนคงไม่ฝากข้อคิดถึง ส.ส.เพราะคิดว่าทุกท่านมีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนอยู่แล้ว เมื่อมีการเปิดสมัยประชุมสมาชิกย่อมจะต้องมาร่วมประชุมเพื่อทำหน้าที่ วุฒิสภาตั้งเป้าที่จะพิจารณาเรื่องที่เสนอมาจากสภาผู้แทนราษฎรอย่างรวดเร็ว โดยทุกเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา จะพยายามทำอย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาแต่งตั้งบุคคล หรือการตรวจสอบเรื่องใดวุฒิสภาจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
นายประสพสุข กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะตรากฎหมายภาษีมรดกเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดเก็บภาษีของรัฐว่า ในปี 2542 ตนเคยทำวิจัยเรื่องภาษีมรดก ในการศึกษาที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โดยตนเป็นคนแรกๆ ในประเทศไทยที่อยากให้มีการเก็บภาษีมรดก เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รัฐบาลเก็บภาษีได้น้อย และการเก็บภาษีมรดกไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อคนยากจน โดยเคยเสนอไว้ว่ามรดกที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาทจะไม่เสียภาษี เกิน 10 ล้านบาทจึงจะเสียภาษีในอัตราก้าวหน้า เช่น มรดกเกิน 10 ล้านบาทจะเสียภาษีร้อยละ 2.5 เกิน 20 ล้านบาท จะเสียภาษีในอัตราเพิ่มขึ้น
“การเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าจะไม่กระทบกระเทือนมาก และไม่กระทบกับคนยากจน ผมว่าน่าจะศึกษาเป็นอย่างยิ่ง แต่นี่คือความเห็นของผม ที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับ ส.ส.และส.ว.จะคิดอย่างไร ส่วนตัวแล้วสนับสนุนอย่างมาก” นายประสพสุข กล่าว
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลใดพยายามจะทำเรื่องนี้ก็มักจะเกิดปัญหา ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลนี้ลองพิจารณาเพื่อให้เกิดประโยชน์ เมื่อวันนี้เรามีปัญหาการจัดเก็บภาษีจึงควรนำเรื่องนี้มาพิจารณา ภาษีมรดกจะเป็นภาษีหลักที่สามารถเก็บรายได้ได้ โดยในต่างประเทศก็มีการจัดเก็บมานานแล้ว การเก็บภาษีมรดกจะไม่มีผลกระทบกับคนที่มีมรดกจำนวนไม่มากเว้นแต่ที่มีมรดกหลายสิบล้านเท่านั้น เมื่อถามต่อว่าการเก็บภาษีมรดกอาจกระทบกับคนร่ำรวยที่มีอำนาจบารมีมาก นายประสพสุข กล่าวว่า ประเด็นนี้คงมีผลกระทบบ้าง แต่เมื่อพิจารณาด้วยเหตุและผลการมีมรดกจำนวนมากอยู่แล้วเมื่อภาษีเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือพัฒนาประเทศชาติคงไม่เป็นอะไรมาก
“ตอนนั้นเราคงตายไปแล้ว เอาอะไรไปไม่ได้อยู่แล้ว ทายาทจู่ๆ ได้เงินมา 20 ล้าน เสียภาษีเพื่อรัฐนิดหน่อยไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะทายาทก็ไม่ได้เป็นคนสร้างมา เหมือนเป็นลาภลอย การเสียภาษีให้รัฐจะได้ประโยชน์ต่อประเทศชาติ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะพิจารณาและเสนอมา วุฒิสภาก็จะช่วยพิจารณา” นายประสพสุข กล่าว