ปชป.ปัดไม่รู้เห็น สตช.ชงถอดยศ “ทักษิณ” ยันดำเนินการตามปกติ เพราะต้องอาญา “อาคม” เผย ผบ.กองวินัย เป็นญาติจริง แต่ไม่เคยขอร้องให้ฟัน วอนทักษิณอย่าอ้างสถาบัน เพื่อกลับเมืองไทย หากอยากกลับจริงขอให้หารือ “พี่เทพ”
วันนี้ (9 ม.ค.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เตรียมถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อนไทย มองว่า เป็นการกลั่นแกล้ง ว่า สตช.มีกฎระเบียบอยู่แล้ว ในกรณีที่ข้าราชการตำรวจหากถูกศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา และถ้าตนเป็น ร.ต.อ.เฉลิม ก็ต้องออกมาพูดเช่นนั้น จะออกมาบอกว่าทำถูกต้องได้อย่างไร ส่วนตัวเข้าใจว่า ทาง สตช.ได้ดำเนินการพิจารณา กรณีนี้มานานแล้วตั้งแต่ที่มีคำพิพากษาของศาลออกมา แต่บังเอิญว่าขั้นตอนเพิ่งจะแล้วเสร็จ และมีการเสนอเรื่องขึ้นมาในช่วงนี้ หลายฝ่ายจึงมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง แต่ยืนยันว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปสั่งการ หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด
ด้าน นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องนี้กรณี พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บังคับการกองวินัย เตรียมยื่นเรื่องให้ ผบ.ตร.ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จนทำให้คนมองว่า เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ว่า ยอมรับว่า พล.ต.ท.ปัญญา เป็นญาติกับตนจริง แต่ตนไม่เคยสั่งหรือขอร้องให้กระทำการดังกล่าว อีกทั้ง พล.ต.ต.ปัญญา ก็ไม่เคยปรึกษาตนในเรื่องนี้ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะประวัติการทำงานงานของ พล.ต.ต.ปัญญา ถือว่าเป็นคนตรงไปตรงมาคนหนึ่ง อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีฐานความผิดด้านคดีอาญา และการหนีคดี จึงต้องถูกถอดยศอยู่แล้ว แต่การที่ต้องใช้เวลาพิจารณานานจนล่วงเลยมาถึงรัฐบาลชุดนี้ ก็เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี การดำเนินการก็ต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ ต้องรอให้มีการถอนพาสปอร์ตแดงก่อน จึงจะดำเนินการได้ และหากรีบพิจารณาตัดสินก็จะหาว่ากลั่นแกล้งอีก
นอกจากนี้ กรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาโวยวายนั้น นายอาคม เห็นว่า ก็ต้องยอมรับว่า เขารัก พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยใจ หรือเพราะอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม อยากขอร้องไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า อย่าอ้างว่าจะกลับประเทศไทยด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บ่อยๆ เพราะจะทำให้บุคคลที่ไม่เข้าใจอาจรู้สึกไม่ดีต้อสถาบันได้ ดังนั้น การที่บอกว่ารักประเทศไทย อยากกลับประเทศไทย ก็ขอให้กลับมา โดยหากอยากสร้างความสมานฉันท์ ก็ขอให้ประสานผ่าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหาแนวทางในการเจรจากันอยู่ จะถือเป็นหนทางที่ดีที่จะมีโอกาสกลับประเทศไทย และอาจมีโอกาสได้รับพระราชทานอภัยโทษได้