ปธ.สภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.เผย นาทีโดนปาไข่ เชื่อฝีมือกลุ่มจัดตั้ง ไม่โทษพ่อเมือง หรือตำหนิ จนท.รัฐไม่กล้าจัดการ เพราะคงลำบากใจ ลั่นเป็นฝีมือของ ปชช.กลุ่มเล็กๆ โดยใช้วิทยุชุมชนปลุกระดม แต่ยอมรับสถานการณ์ไม่ปกติ เตรียมลงพื้นที่สมุทรปราการช่วยลูกพรรคหาเสียงต่อ
คลิกที่นี่ นายชวน หลีกภัย เผยนาทีโดนกลุ่มคนเสื้อแดงปาไข่
วันนี้ (7 ม.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีโดนปาไข่ ระหว่างช่วยลูกพรรคหาเสียงในจังหวัดลำปาง ว่า คนในพื้นที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามคงไม่อยากให้เราหาเสียง แต่ตนไม่อยากให้ไปตำหนิ หรือคาดโทษอะไรกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะผู้ว่าฯ ทั้ง 2 จังหวัดก็มาประชุมที่ กทม.และเจ้าหน้าที่เองก็คงมีประสบการณ์ไม่มากนัก จึงตั้งหลักไม่ได้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะในอดีต คนของนักการเมืองไปทำอะไร เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยกล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าจะโดนคนของนายก็เลยย่อหย่อนมาตลอด เจ้าหน้าที่เองก็ไม่อยากให้ตนเข้าไป แต่ตนก็บอกว่าไม่ได้ เพราะเรามาหาเสียงให้กับลูกพรรคเราไม่ได้มาทำอะไร อย่างไรก็ตาม เห็นว่า การชุมนุมประท้วง แค่ตะโกนด่าว่าก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเคยเห็นอยู่แล้ว แต่วิธีรุนแรง กระทืบรถ ปาสิ่งของ ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติในเวลาหาเสียง
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมและปาไข่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล นายชวน กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวคล้ายเป็นกิจกรรมของคนกลุ่มหนึ่งไปแล้ว เท่าที่สังเกตดูเวลาหาเสียงในช่วงเช้าใน จ.ลำพูน ส.ส.หญิงไปช่วยหาเสียงก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่พอช่วงบ่ายเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่า คนที่เราเห็นธรรมดาๆ จะมีลักษณะอย่างนั้น เหมือนเป็นศัตรูมาร้อยชาติ ซึ่งตนเข้าใจว่าเกิดจากขบวนการที่มีการจัดตั้งมา และเกิดจากวิทยุชุมชนที่ปลุกระดม เพราะทราบว่ามีการปลุกระดมตลอดก่อนที่ตนจะเดินทางไปช่วยหาเสียง ดังนั้น เราไม่ควรกลัวคนพวกนี้ ตนจึงเข้าไปถึงได้เกิดเหตุขึ้นมา
“ผู้การเชียงใหม่ก็กรุณาบอกมาตั้งแต่ต้น ตอนลงเครื่องบินว่า มีกลุ่มเสื้อแดง แต่ผมก็บอกว่า อย่าให้ผมลงเครื่องและออกไปเลย ทางออกที่ชาวบ้านออกทางไหนก็ควรจะออกทางนั้น และใจผมคิดว่าจะได้เจอคนพวกเขาก็ตั้งใจจะบอกว่า เรามาดี น้องๆ อย่าไปทำอะไรที่เสียหายกับจังหวัดตัวเองที่เห็นก็มีผู้หญิง 1 คน ที่ตะโกนจนไม่ฟังอะไร แต่ผู้ชายที่ผมจะคุยกับเขา ก็ไม่ยอมเงยหน้าสบตาจึงไม่มีโอกาสได้คุย ทั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นพฤติกรรมของคนส่วนหนึ่งไม่ใช่คนส่วนใหญ่ คนลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และคนเหนือส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี และห่วงใยผมเยอะ ฉะนั้น ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิด และนายกฯ ก็ห่วงใย ได้โทรศัพท์มาหา ผมก็เข้าใจดีว่านายกฯ ตั้งใจดีว่า อยากให้ความขัดแย้งคลี่คลาย ซึ่งโอกาสก็เป็นไปได้ แต่เราต้องทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้ให้มากๆ ผมเชื่อว่า บางคนเหมือนถูกปลูกฝังใส่ข้อมูลลงไปในความเชื่อให้พูดอย่างนั้น ปฏิบัติอย่างนั้น เพราะด่าหยาบคาย และวิธีการก็เหมือนกัน ดังนั้น การให้ข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อทำให้ความขัดแย้งจากการเข้าใจผิด คลี่คลายไปในทางที่ดี และอีกส่วนเกิดจากนักการเมืองที่กลัวว่าเราไปหาเสียง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ผมไปก็แค่อธิบายว่า เรามาทำอะไร แต่ก็ไม่ได้ไปแจ้งความ ส่วนเจ้าของรถได้รับความเสียหายก็ไม่เอาเรื่องอะไร แต่ไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีข้อมูลอยู่แล้ว ก็ต้องรอดูว่าเจ้าหน้าที่จะทำอย่างไร
ต่อข้อถามว่า คิดว่า ความรุนแรงจะขยายวงกว้างต่อไปอีกหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ความรุนแรงไม่ใช่เพิ่งเริ่ม แต่หลังจากเปลี่ยนรัฐบาลก็แรงขึ้นกว่าเดิม เพราะความรู้สึกสูญเสีย และพวกของตนเองเปลี่ยนสถานะภาพจากรัฐบาลมาเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำให้รู้สึกโกรธแค้นมากขึ้น แต่ความพยายามของนายกฯ ที่จะทำให้เกิดสามัคคี โดยยึดหลักทุกฝ่ายอยู่ภายใต้กฎหมาย คิดว่า นายกฯเดินไปในจุดที่จะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า แต่ในจุดเริ่มต้นระยะใกล้นี้ต้องให้ประชาชนในจังหวัดนั้นรับรู้ว่าความเสียหายเกิดจากคนส่วนหนึ่งไม่รู้มาจากไหนมาอ้างชื่อจังหวัดเขาให้เสียหาย อย่างเมื่อวาน คนลำปางก็บอกว่า คนที่มาไม่ใช่คนลำปาง ซึ่งคนที่เดินทางไปกับตนจำได้ว่า มีคนที่ไปไล่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ จ.เชียงใหม่ ด้วย แสดงว่า ขบวนการนี้ยังมีอยู่
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาระบุว่า จะตามนายกฯ ไปทุกที่ นายชวน กล่าวว่า ถ้าไปคุ้มกันให้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะไปขับไล่ก็ไม่ดี อยากรู้จักพอเหมาะใช้สิทธิในขอบเขตก็จะเป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเสื้อแดง ทุกฝ่ายต้องเคารพกติกาบ้านเมือง เพราะนายกฯ มาจากความชอบธรรม มาจากเสียงข้างมาก ไม่ใช่ไปลักขโมย ปล้นมาอย่างที่เขาว่า เราต้องยอมรับบทบาทของแต่ละฝ่าย
ต่อข้อถามว่า ยังยืนยันว่า จะเดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียงอยู่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า รับปากเขาแล้วก็ต้องไป อย่างวันนี้ จะเดินทางไปช่วยผู้สมัครเลือกตั้งหาเสียง ที่ จ.สมุทรปราการ ก็ต้องระวังหน่อย มีหลายคนบอกว่า ถ้าเปลี่ยนจากไข่ มาเป็นลูกกระสุนก็เสร็จเลย หรือถ้าเคราะห์ดีก็แค่เจ็บ เจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยระวัง แต่ตนไม่มีสถานะภาพที่จะเอาคนมาคุ้มครอง เพราะเป็น ส.ส.ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อถามว่า นายกฯได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า “คงไม่มี เพราะผมมีหลวงพ่อโกยอยู่แล้ว และผมไปช่วยหาเสียงก็ไปในนามพรรคไม่ได้ไปในนามรัฐบาล”