“ยุวรัตน์” แนะ “มาร์ค” ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ 7 ตุลาฯ สานงาน กก.ชุดเดิมที่สิ้นสภาพตามรัฐบาล “น้องเขยแม้ว” ชี้ยังมีหลายประเด็นติดค้าง ด้าน “หมอพรทิพย์” เซ็ง “จิ๋ว” เมินให้ข้อมูล ป.ป.ช.ทั้งที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการชุมนุม เรียกร้องผู้เกี่ยวข้องทุกคนกล้าหาญ แสดงความรับผิดชอบโดยไม่ต้องรอรายงานสรุป
หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 ให้ แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แต่หลังจากนายสมชาย ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ทำให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวต้องสิ้นสภาพไปโดยอัตโนมัติโดยที่ยังไม่ได้มีผลสรุปว่าเหตุการณ์ 7 ต.ค.ใครผิดใครถูก อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ มีการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ด้วย แต่ ป.ป.ช.เองก็ออกมาระบุว่ายังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรเพราะไม่ได้รับความร่วมมือ
นายยุวรัตน์ กมลเวชช อดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 กล่าวถึงการที่ ป.ป.ช.ออกมาระบุว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 7 ต.ค.ไม่เข้ามาให้ปากคำจึงทำให้คดีนี้มีความล่าช้ามาก ส่วนการทำงานของตนได้สิ้นสุดลงแล้วหลังจากมีรัฐบาลใหม่ ดังนั้นจึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสานต่อการสอบสวนให้แล้วเสร็จ เพราะเหตุการณ์นี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังติดค้างยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่าเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกจึงขอให้ทุกฝ่ายจำเป็นบทเรียนด้วย
ขณะที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตคณะกรรมการฯ 7 ต.ค. เปิดเผยว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งในสมัยรัฐบาลของนายสมชายนั้นได้รับหมายให้ดูแลการควบคุมการชุมนุมในวันนั้น ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ท่านยังไม่เข้าไปชี้แจงหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ ป.ป.ช.
“ขอฝากไปยังนักการเมือง ข้าราชการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวทุกคนว่า ขอให้กล้าหาญ ในการที่จะแสดงความรับผิดชอบในการกระทำที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องรอรายงานสรุปผล เพราะยังไงก็ทราบดีอยู่แล้วว่ามีการสลายม็อบโดยใช้แก๊สน้ำตาทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ห่วงว่าเหตุการณ์อย่างเช่นเดียวกับวันที่ 7 ต.ค.จะเกิดขึ้นอีก เพราะเชื่อมั่นว่าฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดีและเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว” ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าว