อดีต มท.1 เพ้อถูกจับขืนใจนั่ง รมว.2 รัฐบาล ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องจดจำ จองเวรม็อบมีเส้นทำให้กลายเป็น ครม.พเนจร 2 สมัย บ่นไม่คิดว่าจะพบจุดจบเช่นนี้ เชื่อมีคนลิขิตชะชีวิตไว้ ปลงสังขารรู้ตัวห่างศาสนามานาน วางแผนชีวิตบั้นปลายหันหน้าเข้าวัดทำบุญล้างซวย
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย ข้าราชการระดับสูงและข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมจัดพิธีอำลาตำแหน่งให้กับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) และนายประสงค์ โฆษิตานนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ที่จะพ้นจากตำแหน่งหลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่ โดย พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า วันนี้ตนมากล่าวคำอำลาตามวิถีของการเมือง ที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะมาเป็นนักการเมือง แต่ก็ต้องมาด้วยความจำเป็น จึงถือเป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตตัวเอง แม้จะเข้ามาทำงานในระยะสั้น ซึ่งช่วงที่ทำงานในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ถูกม็อบมีเส้นเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ทันจะแก้ปัญหาได้สำเร็จนายสมัครก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯเพราะจัดรายการชิมไป บ่นไป ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกที่สุดในโลก จึงทำให้ตอนนั้นตนต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวต่อว่า เมื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ก็เชิญตนเข้าร่วมเป็นรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ทำให้ต้องไปจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรถึง 2 ครั้ง จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน ทำให้รัฐบาลต้องหมดวาระและไปตามวิถีการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า มท.1 คนใหม่เป็นคนมีเมตตาและให้เกียรติกับการทำงานร่วมกับข้าราชการ
“ผมขออภัยที่ต้องทำงานในช่วงสั้นๆ และได้ทำงานร่วมกันในช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวาย แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากข้าราชการ ผู้ว่าฯ นายอำเภอที่ช่วยกันแก้ปัญหาในช่วงที่ม็อบมีการประท้วงและปิดสนามบิน ซึ่งหลังจากนี้ผมจะไปเข้าวัด ทำบุญตามวิถีชีวิตของผม เพราะห่างศาสนามานาน และไม่รู้ว่าจะกลับมาทำงานที่นี้อีกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับวาสนาเพราะมีคนลิขิตชะตาชีวิตไว้ ซึ่งเวลาก็มาเร็วไปเร็ว ผมก็ไม่คิดว่าจะมาจบแบบนี้” พล.ต.อ.โกวิทกล่าว
