xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ลั่นไม่มีแก๊งออฟโฟร์ “ชวน” ย้ำไม่มีกลุ่มทุนครอบงำพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” ยืนยัน ปชป.ไม่มีแก๊งออฟโฟร์ ระบุได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกที่พลาดหวังเก้าอี้แล้ว ขณะเดียวกัน ไม่หวั่นถูกโจมตีหนีทหาร มั่นใจไร้ปัญหา ด้าน “ชวน” มั่นใจไม่มีกลุ่มทุนครอบงำพรรค กาวใจเก้าอี้จำกัด คนคัดสรรลำบากในการตัดสินใจ สุดท้ายความแตกแยกทางความคิดถือเป็นเรื่องปกติ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายชวนหลีกภัย ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (21 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิจารณ์โฉมหน้า ครม.ไม่ค่อยสมหวังว่า กรวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่ตนเองได้มีการแลกเปลี่ยนกับหลายๆฝ่ายตั้งแต่ก่อนหน้านี้ โดยอธิบายให้ฟังถึงความจำเป็นต่างๆโดยเฉพาะกับภาคธุรกิจที่ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด ขอย้ำอีกครั้งว่าน้อมรับทุกคำวิพากษ์จารณ์และจะทำงานโดยยืนยันจะทำงานความซื่อสัตย์สุจริต ตระหนักถึงสภาพวิกฤติของประเทศและสิ่งที่ตนได้ตัดสินใจไปเป็นเรื่องของการมีเสถียรภาพในทางการเมืองที่จะเดินหน้าทำงานได้ทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีกระแสเรื่องกลุ่มแก๊งค์ออฟโฟร์ในพรรคประชาธิปัตย์จริงเท็จอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าปฏิเสธว่าไม่มีหรอก ตนเห็นพาดหัวข่าวแล้วยังนึกไม่ออกว่า 4 ท่านไหน ยืนยันไม่มีแก๊งค์ออฟโฟร์ เมื่อถามว่ามีแรงกดดันการบริหารงานอย่างไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ความคาดหวังของประชาชนสูง ปัญหาก็เยอะ การเมืองเพิ่งผ่านสภาพที่เรียกว่ายังมีความวุ่นวายกันอยู่ ฉะนั้นเป็นอุปสรรค์ธรรมดา ตนไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เพียงแต่ขณะนี้ความเป็นห่วงที่สุดคือทำอย่างไรจะเดินตามแผนให้ได้ โยเฉพาะตามกำหนดเวลา

เมื่อถามถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคที่ค่อนข้างที่จะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าได้ทำความเข้าใจกับเพื่อนสมาชิกพรรคทุกท่านเท่าที่จะทำได้และยังมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ได้คุยกับกลุ่มคนที่มีปัญหาแล้วหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เรียกว่าเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหา มีหลายที่ทราบดีว่าตนและกรรมการบริหารพรรคคิดว่าอยู่ในข่ายที่จะเป็นรัฐมนตรีได้ คิดว่าน่าจะคุยเกือบครบแล้ว เมื่อถามว่าได้รับรายงานที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรค ส.ส.ประจวบตีรีขันธ์ ลาออกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี ได้คุยกับนายเฉลิมชัยไปเมื่อคืนก่อน

เมื่อถามว่าเอกชนวิจารณ์ครม.ที่ออกมาค่อยถูกใจเท่าใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากทำงานที่ในลักษณะแลกเปลี่ยนสื่อสารตรงไปตรงมากับประชาชน มีปัญหาตัดสินใจอย่างไรก็รายงานให้ทราบ ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่ ทั้งนี้ตนจะให้เหตุผลและรับฟัง อะไรที่เป็นความห่วงใยสะท้านผ่านคำวิจารณ์มานั้น ตนจะดูแลอย่างเต็มที่ ฉะนั้นความห่วงใยที่วิจารณ์ว่ารัฐมนตรีบางท่านมีประสบการณ์ไหม ตนได้บอกให้รัฐมนตรีท่านนั้นไปจัดทีมงานให้เกิดความเชื่อมั่นอย่างนี้เป็นต้น ส่วนข้อคลางแคลงใจที่ใครจะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ตนยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ตนไม่ยอมแน่นอน ตนเข้าใจดีว่าหลายคนไม่สมหวังกับเรื่อง ครม. แต่ตนได้อธิบายไปพอสมควรและจะต้องเดินหน้าทำงาน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าโอกาสที่ได้รับมาบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อต้องจัดรัฐบาล เพื่อให้มีความมั่นคง ตรงนี้ต้องสามารถผลักดันนโยบายได้นั่นคือหัวใจ

เมื่อถามว่า ห่วงที่ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ประกาศปิดล้อมสภาวันแถลงนโยบายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างที่ย้ำมาหลายครั้ง หากเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นปัญหาอะไรและนโยบายสำคัญของเราคือทางเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีต หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง แต่ไม่ได้หลายความว่าไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อถามว่าจำเป็นต้องย้ายสถานที่ประชุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ท่านประธานสภาฯคงนัดตามปกติ

นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.)ได้นัดรัฐมนตรีเจอกันที่ทำเนียบ เวลา 15.00 น.เพื่อถ่ายรูปร่วมกันก่อนเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณและในวันอังคาร (23 ธ.ค.)จะประชุมคณะรัฐมนตรีทันที ตั้งใจว่าในวันนั้นจะอนุมัตินโยบายเลย และนอกจากเรื่องนโยบายแล้วจะรับทราบรายการภาวะประเทศและการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าเป็นห่วงเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินหรือไม่ เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะจะกำชับรัฐมนตรีอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ นึกว่าการแสดงบัญชีส่วนใหญ่เฉพาะที่เป็น ส.ส.ก็แสดงอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าแบบฟอร์มมันต่างกันมากแค่ไหน คิดว่าคนเป็นนักการเมืองในยุคหลังมานี้ต้องคุ้นเคยอยู่แล้ว แสดงบัญชีกันปีหนึ่งหลายครั้ง เมื่อถามว่าจะต้องดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะบางครั้งมีกรณีการถือหุ้นเล็กๆน้อยๆสุดท้ายต้องหลุดพ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระบบระยะหลังจะใช้การรับรองตนเองทาง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะให้ทุกคนรับรองตัวเอง หากไม่เป็นไปตามนั้นก็ต้องรับผลที่มีตามมาตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า ห่วงเรื่องการนำกรณีไม่เกณฑ์ทหารมาโจมตีอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าถ้าหยิบยกขึ้นมาก็ชี้แจงและได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว มั่นใจว่าไม่มีปัญหา

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสความขัดแย้งภายในพรรคหลังจัดตั้งคณะรัฐมนตรีว่า ต้องถามนายกฯ มีข้อจำกัดอย่างนี้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ต้องยอมรับว่ามีผู้อาวุโสที่มีความสามารถหลายคนไม่มีโอกาส แต่ข้อจำกัดนั้นเกิดจากจำนวนตำแหน่งที่มีน้อย ผู้จัดเองก็ลำบากใจ เข้าใจดีว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ก็ลำบาก แต่เพื่อนเสียดายก็ได้มีการปอบใจกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการคุยกับ ส.ส.ที่มีความขัดแย้งหรือยัง นายชวน กล่าวว่า ได้คุยแล้ว โดยเฉพาะนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.จังหวัดพัทลุง คุยมากที่สุด ก็เข้าใจกันดี ซึ่งนายนิพิฐ จริงๆแล้วตนเป็นคนบอกกับพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุงแล้วว่าเขามีความเหมาะสม มีโอกาส แต่เราคิดว่านั่นเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง แต่เมื่อมีข้อจำกัดอย่างนี้ก็ต้องให้กำลังใจนายนิพิฐ เพราะเป็นคนที่ทำงานหนัก ทั้งนี้เวลาเป็นพรรคฝ่ายค้านใครที่ทำงานหนักกล้าสู้ กล้าอภิปรายเราจะเห็นศักยภาพคนนั้นชัดเจน ฉะนั้นนายนิพิฐเป็นคนหนึ่งที่โดดเด่น เหมือนกับนายจุติ ไกรฤกษ์ ก็เป็นคนที่เราก็เสียดาย ไม่ต้องพูดถึงนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ แน่นอนเขาเป็นคนที่ทำงานเสียสละ

อย่างไรก็ตามตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะโอกาสที่แต่งตั้งไปโดยไม่มีใครบ่นเลยคงจะยากไม่ว่าจะเป็นในพรรคหรือนอกพรรค ต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงานการเมืองอย่างนี้ ยิ่งพรรคที่มีทรัพยากรคนเยอะยิ่งมีปัญหาของคนที่มีความเหมาะสมไม่ได้เป็น แต่หากพรรคมีคนน้อยคนก็ไม่พออีกเหมือนกัน ฉะนั้นคนมากไว้ก็ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นแรงกระเพื่อมกระทบเสถียรภาพรัฐบาลให้สั่นคลอนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คิดว่าปัญหามีอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ถึงกับทำให้เสถียรภพรัฐบาลมีปัญหา เพราะเชื่อมือหัวหน้าพรรค นายกรัฐมนตรี จะดูแลได้ดี แม้กระทั่งกระทรวงที่มีผู้ปรารภว่าตัวบุคคลอาวุโสน้อย มีประสบการณ์น้อยไปก็ตาม แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าไปลดช่องว่างได้

ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้น หากจะมี เห็นว่าไม่เป็นไร เป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย แต่ได้เตือนแล้วในเรื่องการเข้าประชุม เพราะองค์ประชุมที่ที่รัฐบาลเพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก หากฝ่ายค้านไม่มาประชุมอย่าไปบ่น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำให้ครบองค์ประชุม ส.ส.จะต้องมีความรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเปิดเผยจ่ายเงิน 80 ล้านให้พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน กล่าวว่า เพิ่งเห็นข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่เคยได้ยินข่าวมาก่อนและไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เท่าที่อยู่ในพรรคมา กรณีที่ใครหรือนายทุนจะมาครอบงำเป็นทำไม่ได้ในพรรคคนเขาไม่ยอมหรอก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องถามเลขาธิการพรรคเพราะพวกเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนนั้นจะเข้ามา


กำลังโหลดความคิดเห็น