“สุเทพ” เผยหลังปีใหม่รัฐบาลเดินหน้านโยบาย 99 วันทำได้จริง หยัน “เหลิม” ผู้นำฝ่ายค้านฯ ไม่น่ากลัว พร้อมให้อภิปรายตลอด ยันรัฐบาล ปชป.จะไม่ใช้กำลังสลายม็อบเสื้อแดงที่จะชุมนุมปิดรัฐสภา ปัดไม่มีเงิน 80 ล้านบาท แลกตำแหน่งรัฐมนตรี เหน็บ “นิพิฏฐ์” พูดนอกพรรค
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 ธ.ค.ที่โรงแรมอิมพีเรียล โบท เฮ้าส์ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เรื่องรับปากประชาชนไว้ คือ นโยบาย 99 ทำได้จริง เช่น เรื่องการดูแลผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพ เบี้ยอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และเรื่องเศรษฐกิจค่าครองชีพ การยกระดับฐานะประชาชนโดยเอาเงินอัดฉีดในระดับล่าง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้บอกกับตนว่าหลังเทศกาลปีใหม่และมีการประชุมอาเซียนเสร็จ ก็จะประชุมเรื่องงบกลางปีทันที ซึ่งเรามีตารางเวลาทำ จึงต้องรีบทำ
ต่อข้อถามว่า การที่นายสุเทพเป็นรองนายกฯ ดูแลด้านงานตำรวจ จะมีการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้รอ 1-2 วัน ให้ได้รับตำแหน่งจริงๆ ก่อน ส่วนแนวคิดการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับตำรวจนั้นก็ยังคิดไม่ค่อยเหมือนกัน จึงต้องมีการปรึกษากัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคืออยากให้ตำรวจมีความเข้มแข็ง ไม่ใช่ไปรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ กทม. เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าตำรวจนครบาลจะขึ้นตรงกับ กทม.ที่จะนำมาบริหารเอง นายสุเทพ กล่าวว่า มีรายละเอียดที่จะต้องพูดกัน แต่มีความเป็นไปได้ในลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ เช่น ในแต่ละภูมิภาคสามารถที่จะดูแลกิจการตำรวจของเขาได้ภายในพื้นที่
เมื่อถามว่าจะดูแลเรื่องความปลอดภัยในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาอย่างไร เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าจะมีการปิดล้อมรัฐสภา นายสุเทพกล่าวว่า ตนจะดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ถ้าเขาไม่ให้เข้า เราก็ไม่เข้า แต่ถ้าเข้าได้ เราก็ต้องเข้าไปเพื่อทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ อีกทั้งจะค่อยๆ พูดและทำความเข้าใจกัน เพราะพวกตนมีหน้าที่ดูแลประชาชน และไม่คิดว่าจะเป็นเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง ทุกคนก็เป็นประชาชน
“ยืนยันว่าจะไม่มีภาพการสลายการชุมนุม ไม่มีน้ำตา และไม่มีแก๊สน้ำตา ไม่มีน้ำตาให้ไหลกันอีกแล้วสำหรับพี่น้องประชาชน เพราะไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความไม่พอใจของนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ จะทำให้การทำงานของรัฐบาลต้องสะดุดตั้งแต่เริ่มต้นหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นก็มีบ้าง แต่ออกมาแสดงข้างนอก ไม่ได้แสดงในพรรค จึงดูขึงขังไปหน่อย แต่วันนี้ตนคิดว่าคงจะเรียบร้อย ทั้งนี้ตนยังไม่ได้เจอนายนิพิฏฐ์ แต่เชื่อว่านายนิพิฏฐ์คงเข้าใจอะไรดีขึ้น
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้จะไม่เสียคนที่ทำงานหนักและมั่นคงต่อพรรค นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เสีย พรรคประชาธิปัตย์ได้หล่อหลอมชีวิตจิตใจที่อยู่ในพรรคกันมานาน เราจึงเชื่อมั่นในระบบพรรคของเรา
เมื่อถามว่าเงิน 80 ล้านบาทที่นายนิพิฏฐ์กล่าวอ้าง มีจริงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่ทราบว่าเงินอะไร 80 ล้านบาท มันไม่มี ไม่เคยเห็นตัวเลขเงิน” เมื่อถามย้ำว่าการพูดเช่นนี้ทำให้มีการสงสัยว่า ต่อไปจะมีการเข้ามาแสวงหาประโยชน์หรือตอบแทนบุญคุณหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี และคนในพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น เสียดายถ้านายนิพิฏฐ์พูดในที่ประชุมพรรคจะมีคนซักถามต่อ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ถ้านายนิพิฏฐ์พูดว่ามีเรื่องเงิน 80 ล้านบาทเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนจะไปถามนายนิพิฏฐ์ว่าเป็นเงินอะไร ซึ่งต้องถามว่าเขาสงสัยตนหรือสงสัยใคร ถ้าสงสัยตน ตนก็ต้องไปถามว่าสงสัยเรื่องอะไร และเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตนอย่างไร เพื่อตนจะได้ชี้แจง
ต่อข้อถามถึงการที่นายนิพิฏฐ์เรียกร้องให้นายวีรชัย วีระเมธีกุล ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ออกมาแสดงตัวว่ามีที่มาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องแสดงตนอยู่แล้ว ที่จริงนายนิพิฏฐ์เรียกร้องผิด นายนิพิฏฐ์ต้องเรียกร้องตนหรือนายกฯ เพราะเป็นคนไปเชิญเขามา
เมื่อถามว่านายวีรชัยได้แสดงความอึดอัดใจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์ไปหาแล้วบอกเขาว่า ต้องอดทนนิดหน่อย เพราะเป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่จริงเราเคยเอาคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ครั้งนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องอดทน ซึ่งนายวีรชัยก็ยังยืนยันที่จะรับตำแหน่งรองนายกฯ อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มอื่นๆ ที่จะเข้ามา เราจะให้ความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลของเราต้องยึดหลักธรรมาภิบาล และเรารู้ดีว่าปัญหาใหญ่คือ เรื่องทุจริต คอร์รัปชั่นที่ทำให้รัฐบาลเสียศรัทธา ซึ่งนายกฯ จะดูแลและกวดขันเรื่องนี้เป็นพิเศษ และตนจะร่วมมือกับนายกฯ
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ นายสุเทพกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่น่าห่วง ไม่น่ากลัว จริงๆ ถ้าเราได้ฝ่ายค้านที่เข้มแข็งจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลทำงานด้วยความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ส่วนจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลใหม่นั้น ตนยินดีเพราะทำการบ้านไว้แล้ว