"มาร์ค"ไอเดียเก๋ ส่ง เอสเอ็มเอส ทักทายประชาชน พร้อมเชิญชวนให้ร่วมกันนำพาประเทศให้ผ่านพ้นจากวิกฤตด้วยกัน ด้าน"กรณ์"แจงเป็นแค่แผนการสื่อสาร ยันไม่ได้แทรกแซงธุรกิจ ผู้บริหารมือถือ 3 ค่าย ยินดีให้การสนับสนุน เชื่อไม่น่าโดนข้อหารับผลประโยชน์จากเอกชน
วันนี้ (18 ธ.ค.) มีรายงานข่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือทักทายคนไทยทั่วประเทศ พร้อมเชิญชวนร่วมกันนำประเทศออกจากวิกฤต ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงขณะนี้ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก ด้วยมีบรรดาสื่อมวลชนที่มาปักหลักเฝ้ารอทำข่าวนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่เช้า
จากนั้น สื่อมวลชนหลายคนได้พูดคุยกันถึงกรณีที่หลายคนได้รับข้อความตัวอักษรผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) โดยระบุว่าข้อความดังกล่าวส่งมาจาก Your PM.และมีเนื้อหาว่า “ผมนายกรัฐมนตรีใหม่ ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ/สนใจได้รับการติดต่อจากผมกรุณาส่งรหัสไปรษณีย์ 5 หลัก ของท่านมาที่เบอร์ 9191 (3 บ.)”
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายศิริโชค โสภา คนสนิท นายอภิสิทธิ์ ก็ได้รับการชี้แจงว่า เรื่องการส่งข้อความดังกล่าวนั้นเป็นแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการทักทายประชาชน และให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการนำพาให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนที่มีโทรศัพท์มือถือ ก็จะทยอยได้รับข้อความดังกล่าวทุกคน ผ่านระบบ ทรูมูฟ เอไอเอส และระบบดีแทค
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ที่ประกอบด้วยเครือข่าวเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ในการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแก้วิกฤตชาติกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ทั้งหมดเป็นยุทธศาสตร์ในการสื่อสารระหว่างประชาชนกับรัฐบาล โดยเป็นการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการ ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งได้มีการพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายก็พบว่าไม่ผิดกฎหมาย และไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม พรรคต้องขออภัยประชาชนที่อาจจะไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ และทำให้เกิดความรำคาญ แต่อยากให้เปิดใจกว้างร่วมรับฟังนโยบายของพรรค ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับให้ประชาชนต้องเสียเงินฟรี เพราะเมื่อได้รับข้อความแล้วก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยก็ส่งข้อความตอบรับถึงจะเสียเงิน 3 บาท หลังจากนั้น จะมีข้อความยืนยันว่าระบบได้ตอบรับแล้ว
“เชื่อว่าแนวทางนี้ จะสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่ม โดยช่องทางการสื่อสารมีทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพรรคประเมินว่าช่องทางโทรศัพท์มือถือจะเข้าถึงประชาชนมากที่สุด เพราะขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนร่วม 50 ล้านหมายเลข และเป็นเจ้าของกว่า 30 ล้านคน จึงเชื่อว่าช่องทางนี้ จะเข้าถึงประชาชน เพื่อที่จะพัฒนาประเทศต่อไป พรรคเข้าใจว่าการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ โดยใช้นโยบายเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียง เหมือนกับเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อ 10 ปีก่อน เพราะขณะนี้ได้เกิดความแตกแยกในสังคม ช่องทางนี้จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ทำให้นายกฯ ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น” นายกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซงกิจการของบริษัทเอกชน นายกรณ์กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซง เพราะการหารือกับผู้ประกอบการได้พูดคุยกับระดับแกนนำที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ด้วยความรอบคอบและถูกต้องที่สุด ซึ่งต่างประเทศก็ใช้วิธีการนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เป็นการขอโอกาสให้ประชาชนได้เสนอความเห็นเข้ามาตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ระบุว่าจะรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็มีประชาชนตอบรับเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการครั้งนี้พรรคต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทมือถือ จำนวนเท่าไหร่ นายกรณ์กล่าวว่า พรรคไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร เพราะตัวแทนผู้ประกอบการบอกว่า ได้คำนวณแล้วว่าหลักจากคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วถือว่าคุ้มค่า เมื่อถามย้ำว่า จะเสี่ยงต่อการถูกตีความว่ารับผลประโยชน์จากภาคเอกชนหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่าตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะได้พิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว
