xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ”หวัง “นายกฯ มาร์ค”เร่งล้างบางระบอบทักษิณ-ข้ามผ่านวิกฤติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สมเกียรติ"หวัง “นายกฯ มาร์ค” ฝ่าข้ามวิกฤติ ล้างบางระบอบทักษิณ ยกคำวินิจฉัยยุบ ทรท.ระบุชัดความเลวร้ายระบอบแม้ว 6 ประการ ตามที่ ปชป.ก็เคยชำแหละไว้แล้ว พร้อมเตือนอย่าดูแคลน-ทรยศประชาชน ย้ำวันนี้ยังให้โอกาส ถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญและล้างบางระบอบทักษิณ ก็พร้อมจะจับมือร่วมกันฟันฝ่า ด้าน “ประพันธ์”แนะงานแรกจัดการพวกหมิ่นเบื้องสูง เตือนอย่ากลัวว่าจะถูกกล่าวหาเป็นพวกพันธมิตรฯ ไม่เช่นนั้นอยู่เฉยๆ ดีกว่า

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทาง ASTV NEWS1 วันที่ 17 ธันวาคม 2551 จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ โดยมีผู้ร่วมปราศรัยประกอบด้วย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1 และ นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คั่นรายการด้วยดนตรี “โฮป แฟมิลี่” และปิดท้ายด้วยช่วงสนทนากับกลุ่ม TGO และน้องๆ จาก Young PAD

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้องเอ๊ย ไม่ดังเลย อีกทีพ่อแม่พี่น้องเอ๊ย อย่างนี้ค่ะของจริง อย่างนี้ของจริง วันนี้คุ้นหน้าคุ้นตากันดีที่มานั่งในห้องส่งวันนี้ พ่อแม่พี่น้องที่มานั่งอยู่หน้าเวทีทั้งนั้นเลย เดินเข้ามาอุ๊ย เหมือนอยู่บนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาลเลยค่ะ ส่วนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน อย่าลืมนะคะอาวุธของเราเตรียมให้พร้อม ช่วงเวลา 20.30 น.โดยประมาณ กับรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2551 มีข่าวคราวที่พอจะสรุปให้ฟังได้สั้นๆ หลายข่าวด้วยเหมือนกัน แต่วันนี้พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน พลาดไม่ได้ จริงๆ แล้วไม่อยากพูดนะคะว่าอย่าเปลี่ยนช่องไปไหนเพราะรู้อยู่ว่าไม่เปลี่ยนช่องอยู่แล้ว แต่พูดกันให้ตื่นเต้นเล็กๆ ว่าวันนี้ผู้ปราศรัยของเราจะมีใครบ้าง 2 ท่าน กรี๊ดดังๆ นะคะ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และพี่ประพันธ์ คูณมี ค่ะ ก็เลยบอกกับน้องๆ ทีมงานว่า เอาอย่างนี้แล้วกันไม่ต้องมีพี่แล้วกันวันนี้ 2 คนเอาอยู่ 3 ชั่วโมงครึ่ง น้องๆ เขาก็บอกว่าไม่ได้ๆ เดี๋ยวเสียรูปแบบรายการ พี่มาพูดอะไรหน่อยก็แล้วกัน บอกไม่มีทดเวลาบาดเจ็บสำหรับพี่ประพันธ์นะคะ ถ้ามาช้าตัดเลยนะน้องนะ ตัดเลยนะ

เมื่อกี้ อ.สมเกียรติ มาแล้วค่ะ แต่ก่อนที่จะไปฟังผู้ปราศรัย พี่น้องคะวันนี้จะฝากเรื่องนิดหนึ่ง วันนี้น้องพริกนะคะ น้องพริกนี่ต้องบอกว่าเป็นคนสวยกู้ชาติ ของจริง เสียงจริง ตัวจริง วันนี้เอาใบประกาศนียบัตรมหาวิทยาลัยราชดำเนินมาฝากไว้ ที่อาคารอนุรักษ์ ที่ ASTV นี่แหละคะ ยังเหลืออีกหลายฉบับนะคะ พี่น้องที่บอกว่าแหม เดี๋ยวใกล้เสร็จแล้วค่อยไปซื้อ ปรากฏว่าเขายุบที่ทำเนียบ ตั้งตัวกันแทบไม่ทัน หาใบประกาศกันไม่เจอ น้องพริกเอามาไว้ที่ ASTV แล้วนะคะ ที่อาคารอนุรักษ์ ตึกหน้านี่เองคะ รายได้ทั้งหมดก็เอาเข้า ASTV น้องเขาหาให้ ASTV หลายล้านบาทแล้วนะคะ

ถ้าพ่อแม่พี่น้องคนไหนที่ซื้อไม่ทัน ยังเก็บไว้ไม่ทันเนี้ย มาหาซื้อกันได้ขายราคาเท่าเดิมค่ะ 100 บาทนะคะ เอาละคะ อีกเรื่องหนึ่งมีพ่อแม่พี่น้องทางบ้านฝากข่าวประชาสัมพันธ์มาเยอะ ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่แล้วก็จะมีงานรื่นเริง สังสรรค์ บางคนบอกว่า แหม เลิกม็อบตอนนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ปลายปีจะได้ฉลองปีใหม่ทีเดียวเลย มีหลายเวทีเดี๋ยวจะค่อยๆ ทยอยประกาศกันนะคะ แต่สำหรับพ่อแม่พี่น้องที่อยากจะฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ของการเมืองใหม่ การขับเคลื่อนเวทีการเมืองใหม่ของแต่ละจังหวัด ก็โทรศัพท์เข้ามาฝากได้ที่ 0-2629-4433 และสำหรับพ่อแม่พี่น้องที่ยังคิดถึงกัน อยากทักทายพ่อแม่พี่น้องที่มานั่งในห้องส่งนะคะ ส่งข้อความ SMS มาได้ทางโทรศัพท์มือถือนะคะ พิมพ์ N1 เว้นวรรค ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770

เอาละคะมาดูความเคลื่อนไหวของพี่น้องของเรานะคะ เมื่อค่ำวานนี้นะคะ จ.ตราด เขาก็จัดงานกัน พี่น้องพันธมิตรฯของเราที่ตราด จัดงานกันที่หน้าอู่เกษมยนต์ ที่ไปขึ้นรถกันบ่อยๆ นั่นแหละค่ะ ที่ อ.เมือง จ.ตราด คะ เขาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เขาบอกเพื่อเป็นการพบปะกับเครือข่ายพันธมิตรฯ จ.ตราด เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และทำความรู้จักกันมากกว่าเดิม เพื่อที่จะสานต่อกิจกรรมที่จะมีขึ้นในอนาคต การเดินหน้าการเมืองใหม่ และกิจกรรมเพื่อสังคม และปีใหม่นี้ พันธมิตรฯ ตราด จะจัดกิจกรรมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนนั้นรอฟังข่าวนะคะ เดี๋ยวจะฝากทาง ASTV ประกาศให้อีกครั้งหนึ่ง เดี๋ยวจะต้องมีการประชุมเครือข่ายสมาชิกพันธมิตรฯ จ.ตราด กันซะก่อน

และเมื่อวานนี้ เฉกเช่นเดียวกันค่ะ ที่สวนสุขภาพ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จัดงานขึ้นเป็นวันที่ 2 แล้ว มีแกนนำไปกันอย่างคึกคัก ที่สำคัญคือ พี่ตั้ว เมื่อสักครู่ฝากน้องมา เอาซองมาให้ เขามายื่นให้พี่ตั้วหน้าเวที ฝากเงินให้ ASTV ด้วย พันธมิตรฯ หัวหินท่ายาง 11,170 บาท ขอบพระคุณนะคะ และพันธมิตรฯ กระบี่ จะเตรียมจัดงานฉลองชัยกันนะคะ ก้าวแรกของการเมืองใหม่ประชาภิวัตน์ โดยจะเลี้ยงสมาชิกพันธมิตรฯ ในวันที่ 20 ธันวาคม คือวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ที่สวนสาธารณะธารา เขตเทศบาลเมืองกระบี่ จะมีการแสดงต่างๆ มากมาย แกนนำไปกันหลายคน มีพี่สมศักดิ์ โกศัยสุข พี่อมร อมรรัตนานนท์ พี่พิชิต ชัยมงคล พี่หมี-ยุทธิยงค์ ลิ้มเลิศวาที ก็ไปด้วย และจะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่วีรชนที่ล่วงลับจากเหตุการณ์การชุมนุมด้วย

คุณครูอัมพร แกนนำยังบอกด้วยว่า ถ้าพูดถึงรัฐบาลชุดใหม่ ลองฟังดูพันธมิตรฯ กระบี่คิดอย่างไร คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ฟังให้ดีนะคะ พันธมิตรฯ กระบี่ ที่บอกเป็นฐานเสียงของประชาธิปัตย์อีกจังหวัดหนึ่งนั้น แกนนำบอกว่า ประชุมกันแล้ว สรุปก็คือภาพรวมออกมาดูดีในระดับหนึ่ง การบริหารบ้านเมืองคงจะเป็นไปด้วยดี แต่หากว่ามีเหตุการณ์อะไรที่รัฐบาลทำส่อไปในทางที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายตามที่พันธมิตรฯ ส่วนกลางแถลงเอาไว้ กลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ พร้อมจะเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านทุกเมื่อ ฟังกันให้ดีนะคะ เพราะฉะนั้นพี่น้องที่อยู่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งส่งข่าวมาแล้วก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่า ใช่ เราก็สนับสนุนประชาธิปัตย์นะ ให้เป็นรัฐบาลที่ดี ให้บริหารงานบ้านเมืองดี ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของใคร กลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง เราก็จะยินดีที่จะปรบมือสรรเสริญ เยินยอ

แต่เมื่อใดที่คุณกระทำการเพื่อกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง หรือบุคคลบางคน หรือแม้แต่ทำให้การเมืองแบบเก่าๆมันหวนกลับคืนมาอีกครั้งเนี้ย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกจังหวัดในประเทศไทย พร้อมที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านคุณได้เหมือนกันนะคะ ก็ฝาก แต่ก็หลายคนก็ตั้งความหวังเอาไว้ว่า คุณอภิสิทธิ์ วันนี้เริ่มต้นได้ดีทีเดียวเลยนะคะ ต้องถือได้ว่าคุณอภิสิทธิ์ก็มีความตั้งใจดี ที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดความปรองดองขึ้นในบ้านเมือง บ้านนี้ เมืองนี้ เราก็เอาใจช่วยนะคะ

และวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคมนี้ ที่เสียงฮือฮานี่ไม่ใช่อะไรนะคะพี่น้อง อ.สมเกียรติ มายืนข้างๆดิฉันแล้วคะ แหม ขนาดมายืนเฉยๆพี่น้องเรายังขำเลย คิดดูแล้วกัน เอ้าๆ เดี๋ยวพบ ใจเย็นๆ นิดหนึ่งนะคะ เดี๋ยวข่าวฝากจากพี่น้องนิดหนึ่งก่อน วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม นี้คะ เวลาเที่ยงตรงนะคะ พันธมิตรฯหนองมน พัทยา ชลบุรี จะนำอาหารมาเลี้ยงพันธมิตรฯ และทีมงาน ASTV ที่ ASTV นะคะ พันธมิตรฯที่อยู่ใกล้เคียงก็เชิญมาร่วมแจมกันได้ สนุกสนาน สมัครสมาน สามัคคี มาร่วมพบปะสังสรรค์กันนะคะ ในวันศุกร์นี้ตอนเที่ยงคะ ขอบพระคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ

แล้วพันธมิตรฯชลบุรีอีกเช่นเดียวกัน จะจัดงานวันที่ 21 ธันวาคม คือวันอาทิตย์นี้นะคะ ที่ภัตตาคารไต้ฮี้เวลาหกโมงเย็นเป็นต้นไป จัดงานครั้งนี้นะคะ บรรดาผู้ประกอบการในชลบุรีนั้น เขาบอกว่าอยากจะหาเงินเข้ามาช่วยกองทุนสู้คดีให้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พบกันหกโมงเย็นที่ภัตตาคารไต้ฮี้ วันอาทิตย์นี้คะ

ส่วนวันอาทิตย์เช่นเดียวกันที่สงขลา หาดใหญ่นะคะ จะจัดงานสังสรรค์ปีใหม่ เวทีการเรียนรู้การเมือง จับตารัฐบาลใหม่ ที่ลานประวัติศาสตร์ หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป จะมีหลายท่านที่จะไปร่วม พี่สมศักดิ์ โกศัยสุข, อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และพี่เสน่ห์ หงษ์ทอง และวงดนตรีกู้ชาติ จากแดนใต้อีกหลายวงด้วยกันนะคะ

พอพูดถึงเรื่องการจัดงาน พี่น้องขา มีเรื่องจะมาเรียนพี่น้องนิดนึง เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นะคะ หลังจากที่เราจัดงานกันไปหลายต่อหลายจังหวัด ก็จะเชิญน้าซู น้าเสก พี่ตั้ว ไปร่วมเล่นดนตรีด้วยนี่นะ ปรากฏว่าตอนนี้มันมีผู้หวังดีประสงค์ร้ายคะพี่น้อง ฟังดีๆนะคะผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย ไปปล่อยข่าวว่าพี่ตั้ว กับน้าซู น้าเสก เนี้ย เรียกรับเงินทุกครั้งที่ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯต่างจังหวัด ในราคาเจ็ดหมื่นบาท อันนี้พี่ตั้วขอชี้แจงผ่านแอนก็แล้วกันนะคะ พี่ตั้วบอกว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันที่ไปทุกครั้งไม่เคยเรียกรับเงินแม้แต่บาทเดียว เพียงแต่เจ้าของงานเขาจะช่วยค่าน้ำมันรถ ที่จะต้องเช่ารถตู้ไปให้กับทีมงาน ซึ่งก็ให้กันมาเล็กน้อยมาก ก็ไม่มากมายอะไร แต่สำหรับค่าตัวของน้าซู น้าเสก พี่ตั้วเอง ไม่เคยเรียกรับแม้แต่บาทเดียวค่ะพี่น้อง ถ้าใครไปแอบอ้างหรือไปบอกผู้จัดงานว่าติดต่อน้าซู น้าเสก น้าตั้ว เขาจะเอา 70,000 บาท จ่ายมาก่อน อย่าไปเชื่อนะคะพี่น้อง แต่เพื่อเป็นการตัดปัญหา พี่ตั้วบอกเอาอย่างนี้แล้วกัน งานที่รับปากไปแล้วจะไปจังหวัดไหนก็จะไปให้ แต่ที่กำลังริเริ่มว่าจะจัดหลังปีใหม่ ถ้าติดต่อมา พี่ตั้วบอกว่า ขอให้เป็นในส่วนของส่วนกลางจะเป็นผู้ประสานเอง คือจะต้องติดต่อผ่านส่วนกลางที่เดียวเท่านั้น ยังไงคงต้องมีการติดต่อประสานงานกันอีกครั้ง พี่ตั้วบอกว่า เพื่อลบข่าวลือดังกล่าว เพราะว่าด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ น้าซูก็เสียใจที่มีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นพี่น้องที่มีใครไปแอบอ้างแบบนี้ แจ้งนะคะ แจ้งแล้วจัดการได้เลยนะคะ

เอาละค่ะ จริงๆ จะมีอีก 2-3 เรื่อง แต่แหมเดี๋ยว อ.สมเกียรติ ยืนรอนาน เดี๋ยวมุกหายค่ะ ไปพบกับ อ.สมเกียรติ กันเลยดีกว่านะคะ อาจารย์สวัสดีค่ะ เชิญค่ะอาจารย์

สมเกียรติ - สวัสดีครับพี่น้องประชาชนทุกท่าน ผมต้องขอคารวะอย่างสูงต่อพี่น้องประชาชนในประเทศ ต่างประเทศ และในห้องส่ง วันนี้พี่น้องได้รับข่าวดีแล้วใช่ไหมครับ ว่าเรามีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 27 ของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งประชาชนแล้วก็สื่อสารมวลชน รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวังว่าประเทศชาติจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และประชาชนได้ประโยชน์ สมดังที่ท่านพุทธทาสภิกขุ บอกว่า ระบอบประชาธิปไตย ผลประโยชน์ของประชาชนต้องเป็นใหญ่ การที่เราได้รับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ น่าจะเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนในวันนี้ ผมอยากจะเรียนให้พี่น้องทราบว่า เรามีนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนขับไล่มาหลายคนแล้ว นายกรัฐมนตรี คนที่ 23 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 44, 45, 46, 47, 48,49 รวม 6 ปี เราขับไล่มาตลอดเลย แล้วเราก็ได้นายกรัฐมนตรีที่เราไม่ขับไล่ แต่ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน และน่าเบื่อที่สุด คนที่ 24 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พอคนที่ 25 เราขับไล่อย่างดุเดือดเผ็ดมัน ปักหลักกัน แล้วเราก็เรียกเขาในนามว่า สุนัขจิ้งจอกหอกหัก จำได้ไหมครับ นายกรัฐมนตรี คนที่ 25 เราขับไล่กันสุดใจเลย พี่น้องประชาชนต้องถูกทำร้ายร่างกายและเข่นฆ่า แต่ยังไม่เสียชีวิต พอมานายกรัฐมนตรี คนที่ 26 สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เราเรียกว่า รัฐบาลทรราช ฆาตกรที่เข่นฆ่าประชาชน มีการตายถึง 9 คน แล้วบาดเจ็บอีก 500-600 คน อันนี้เป็นปัญหาสำคัญที่สุด

เราคุ้นเคยกับการขับไล่รัฐบาลมานาน แล้วการเมืองใหม่เกิดขึ้น ผู้คนเรียนรู้ผ่านการชุมนุมประท้วง ผ่าน ASTV ผ่านการจัดตั้งเครือข่ายใหม่ของพวกเขา ที่เรียกว่า พันธมิตรฯ มากกว่า 10 ล้านคน การก่อตัวของการเมืองภาคประชาชนเหล่านี้ จึงทำให้รัฐบาลใหม่ถูกคาดหวังสูง ถูกกดดันสูง แล้วถูกตรวจสอบสูงมาก เพราะฉะนั้นจะทำการเมืองเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว เราก็มีความหวัง และให้โอกาส และให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ที่จะฟันฝ่าข้ามวิกฤตการณ์นี้ไป ผมไม่ได้หวังอะไรมากกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หวังแค่ว่า ฝ่าข้ามวิกฤตการณ์ของระบอบทักษิณ และกวาดล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ส่วนเรื่องอื่นๆ ลดลงมานิดหน่อยก็ได้ แต่ต้องจัดการระบอบทักษิณให้สิ้นซากก่อนใช่ไหมครับพี่น้องครับ

ทีนี้เพื่อประกอบการปราศรัยของผม ซึ่งจะเดินสายปราศรัยหลายท้องที่ หลายจังหวัด อยากจะบอกว่า เวลาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลใหม่ เราจะต้องพูดว่า เร็วเกินไปที่ผมจะวิจารณ์ เพราะเขายังไม่ได้ทำงานเลย หน้าตาของคณะรัฐมนตรียังไม่เห็นเลย การจะด่วนวิจารณ์เราเห็นว่าจะไม่เกิดความเป็นธรรมแก่เขา แล้วเราไม่ให้โอกาสเขา เอะอะก็วิจารณ์ก่อนเลย ยังไม่เห็นตัวละคร ยังไม่เห็นความมุ่งมั่น ยังไม่เห็นการแถลงนโยบายเลย แต่เราจะมาฟื้นความหลังที่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เคยกล่าวไว้ในรัฐสภา และเคยต่อสู้ในการยุบพรรคไทยรักไทยมา ผมอยากจะเสนอเอกสารที่เรียกว่า บันทึกประวัติศาสตร์ 2 เล่ม ประกอบการอภิปรายของผม เพราะว่าการอภิปรายของผมต้องระมัดระวัง เพราะว่าเราต้องให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคอื่นเราให้โอกาสพวกมันมานานแล้วใช่ไหมครับ นานแล้ว แล้วเราก็ให้โอกาสทั้งสภาแล้ว ยังเหลือพรรคเดียวที่ยังไม่ได้ให้โอกาสใช่ไหม เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นการเมืองเก่าเราต้องทดสอบดูว่า ลองให้โอกาสเขาดู มันเหลือพรรคเดียวทำไงได้พี่น้อง ใช่ไหมครับ

แต่ว่า ถ้าเราพูดกันแบบอ่อนโยนและเป็นหลักทางพุทธศาสนากตัญญู พูดได้ตรงๆ เลยนะครับ โดยไม่ต้อง หากไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช่ไหมครับ แต่ว่า ฯพณฯ ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะบอกว่า หากไม่มีใครบางคนที่ จ.บุรีรัมย์ ก็ไม่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เช่นกันใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นพอพูดว่า หากไม่มีใครบางคนใน จ.บุรีรัมย์ และกลุ่ม ส.ส.ของเขา ก็ไม่มีนายกฯ ที่ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่ 27 แต่เราก็ไม่อาจจะวิจารณ์เกินนั้นได้ เพราะมันเป็นไฟต์บังคับจริงๆ มันบีบจริงๆ มันบีบจริงๆ ถ้าพูดแบบหัวใจจริงๆ คือว่า ต้องอดทนอดกลั้น และฝ่าฝืนความรู้สึก ลองให้โอกาสโอบามาดูสักครั้งหนึ่ง เป็นยังไงครับพี่น้อง

พี่น้องครับ เอกสารที่ผมจำเป็นต้องเอามาย้ำเตือน ไม่ใช่ย้ำเตือน ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวนะครับ ย้ำเตือนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะย้ำเตือนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เอกสารนี้ก็คือ คำวินิจฉัยคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย และไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ครึ่งหนึ่งเป็นยุบพรรคไทยรักไทย ครึ่งหนึ่งไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เหตุที่ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์และยุบพรรคไทยรักไทย มีอะไรเดี๋ยวผมจะคุยต่อไป เอกสารเล่มที่ 2 สำคัญมากครับ เป็นคัมภีร์ที่พรรคประชาธิปัตย์เขียนขึ้นเอง เขียนในการแถลงปิดคดี ต่อสู้เพื่อไม่ให้มีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในรูปนี้ท่านจะเห็น ฯพณฯ รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีอาวุโสของประเทศไทย คนที่อยู่ด้านมือจับของผม อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ซื่อสัตย์ของประเทศ ชวน หลีกภัย คนกลางไม่ใช่ว่าที่แล้ว นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ของประเทศไทย แล้วคนด้านนี้ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ทุกคนมีประสบการณ์หมด ในเอกสารทั้งหมด 142 หน้า เขาได้พูดถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณไว้ ที่ผมจำเป็นต้องเอามาแสดง ก็ต้องการให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ศึกษาความเลวร้ายของระบอบทักษิณละเอียด ลึกซึ้งที่สุด ดังนั้นมาเป็นรัฐบาลเองต้องจัดการให้เรียบร้อยใช่ไหมครับพี่น้อง ต้องจัดการให้เรียบร้อย เพราะในเอกสารเล่มนี้เป็นเอกสารที่ผมจะลองอ่านดูซัก คำนิยมระบอบทักษิณ ในหน้า 76 ดูก็ได้ พี่น้องลองฟังดูก็ได้นะครับ

ระบอบทักษิณ หมายถึง วิธีการดำเนินการทางการเมืองโดยการใช้เงินซื้อนักการเมือง ซื้อพรรคการเมืองก็คือพรรคเสรีธรรม พรรคชาติพัฒนา พรรคความหวังใหม่ โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม พูดง่ายๆก็คือใช้เงินเป็นใหญ่ ใช้เงินทำลายความชอบธรรมทั้งหมด และการบริหารประเทศที่ยึดตัวตน และยึดแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก ขาดความเคารพในเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหลักการของการตรวจสอบ และถ่วงดุล องค์กรอิสระและประชาชน แต่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ สื่อมวลชน องค์กรของรัฐ แทบทุกองค์กร ประโยคต่อไปสำคัญนะครับ ที่จะเป็นกุญแจสำคัญที่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะต้องคำนึง เพราะว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือของพรรคประชาธิปัตย์เอง โดยไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง ทำลายระบบคุณธรรม สร้างความแตกแยกของในชาติ อย่างไม่เคยพบมาก่อน และมีการทุจริตอย่างมโหฬาร นี่คือนิยามของระบอบทักษิณ

คำที่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะไปจัดการระบอบทักษิณก็คือ ทุจริตอย่างมโหฬาร บริหารโดยใช้ระบบคุณธรรม ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล เห็นไหมครับ พรรคร่วมรัฐบาลเราเห็นๆ กันอยู่นะครับ มันจะต้องมีระบบโปร่งใส ตรวจสอบได้ แล้วก็ชี้แจงให้ประชาชน แล้วก็ประชาชนเข้าตรวจสอบได้ พี่น้องครับในเอกสารเล่มนี้นี่ เป็นคำแถลงปิดคดีของเหล่านักกฎหมาย และนักวิชาการประจำของพรรคประชาธิปัตย์ และนักวิชาการอื่น ที่พรรคประชาธิปัตย์เชิญมาร่วมกันเขียนเรียงความที่ดีที่สุด 142 หน้าเนี้ย เพื่อจะบอกว่าความเลวร้ายและระบอบทักษิณมีอยู่ 6 ประการ

1. ทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราไม่ต้องพูดรายละเอียดกัน

2. แทรกแซงองค์กรอิสระ และองค์กรของรัฐทุกองค์กร

3. แทรกแซงสื่อมวลชน

4. ทำลายระบบคุณธรรม

5. สร้างความรุนแรงแก่สังคม ก็คือ ฆ่าพี่น้องในภาคใต้ แล้วก็ยาเสพติด ฆ่าตัดตอน 2,783 ศพ แล้วก็มุ่งหาผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง

ผมหยิบมาซักข้อก็ได้ ที่ ฯพณฯ ท่านอภิสิทธิ์ จะถูกสังคมถามกัน แล้วผมก็มีความหวังมากก็คือ แทรกแซงสื่อมวลชน อันดับแรกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไปจัดการ NBT ก่อนเพื่อนเลยใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะในช่วงเวลาที่ผมทำงานอยู่ในสภาเนี้ย เราพูดกันเรื่องการแทรกแซงสื่อมวลชน ของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และควบคุม เราต้องไปจัดการกับกรมประชาสัมพันธ์ โทรทัศน์ช่อง 11 NBT ดึงโทรทัศน์นี้ไม่ให้ไปรับใช้ระบอบทักษิณ เอามารับใช้การเคลื่อนไหว และการแสดงออกของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ และผู้เสียภาษีใช่ไหมครับพี่น้อง ผมยังจำคำพูดของ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ดีว่า

"หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะให้แบ่งเวลาให้นายกฯพบประชาชน ฝ่ายค้านพบประชาชน ถ้าเป็นไปได้ ผมขอการเมืองภาคประชาชนพบประชาชนดีไหมครับ"

ถ้าทำได้อย่างนี้นี่ การเมืองจะลดการแบ่งแยกรุนแรงลง เพราะว่าคนจะเรียนรู้เท่ากันทั้งประเทศ พอคนเรียนรู้เท่ากันทั้งประเทศเนี้ย การเลือกตั้งในสหรัฐฯก็ไม่มีปัญหาเลย เพราะคนมันเรียนรู้เท่ากัน แต่ของเราเนี้ยคนมันไม่เรียนรู้เท่ากัน มันจึงใส่เสื้อต่างสีกันใช่ครับพี่น้อง มันถึงใส่เสื้อต่างสีกัน แล้วก็ความคิดเห็นต่างกัน คนหนึ่งอหิงสา อีกคนหนึ่งนิยมความรุนแรง ผมจะบอกให้ว่า ระบอบทักษิณเนี้ย ประกาศต่อสู้กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างยิบตา

อันดับแรกเนี้ยแจกตัวหนอนที่เป็นปูนซีเมนต์ ใส่รถไปก่อนเมื่อวานนี้นะครับ แจกไปเรียบร้อยแล้ว นี่ๆลองชิมลางดูนะ ขนาดเราส่งคนมาแค่ 200-300 คน เรายังจัดการพวกคุณอยู่มือเลย กลัวพวกเราหมดเลย แต่โทษที พวกมันหลงไปซัดพวกมันเองเท่านั้นเอง ใช่ไหมครับพี่น้อง พี่น้องครับเอกสารที่ผมยกอันนี้เป็นเล่มที่สอง ผมได้เรียนแล้วว่าสังคมไทยควรให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เราต้องเอาเรื่องที่เป็นบทเรียนในสังคมมาพูดกัน เล่มที่ผ่านมาเนี้ยเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ศึกษาความเลวร้าย ของระบอบทักษิณและระบอบทักษิณสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ บ้านเมืองอย่างไรนะครับ และหนังสือเล่มนี้คืออะไร คำวินิจฉัย คำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย มีคำที่เป็นกุญแจ คำที่มีความหมายสำคัญที่สุด 2 ประโยคเท่านั้นเอง ที่ผมขอคัดมาหน้า 105 และหน้า 106 ผมคัดมาเรียบร้อยแล้วครับ เตรียมมาจากบ้านแล้ว เขาบอกอย่างนี้ครับ พรรคไทยรักไทย หรือผู้ถูกร้องที่ 1 มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติ ให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้า ดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง พูดง่ายๆคือหาเสียงอย่างไร มาอีกอย่างหนึ่ง แล้วก็หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ทักษิณบอกว่าคนรวยไม่โกง แต่กูจะโกงให้มึงดู ใช่ไหมครับ เขาบอกว่าคนรวยไม่โกง แต่จะโกงให้ดูไง หาเสียงไว้บอกคนรวยไม่โกง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเครื่องเตือนใจของรัฐบาลใหม่ว่า หาเสียงอะไรไว้เนี้ย เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาไว้แล้ว นี่ประโยคที่หนึ่ง

ประโยคที่สอง เมื่อพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พอมีอำนาจบริหารเป็นนายกแล้วเนี้ย จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤตมิชอบ หรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง กับบริหารโดยทุจริต เข้าใจไหมครับ ประกาศบอกว่า จะสุจริต สุจริต ประพฤติดี เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน กลับทำตรงข้าม จึงเป็นอุทาหรณ์ของทุกพรรคการเมืองและรัฐบาล ว่าเข้ามาล้มหมด โดยเฉพาะถ้าเป็นรัฐบาลใหม่ การเมืองภาคประชาชนได้รับการพัฒนาแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ฮึ่มๆ กันทั้งประเทศแล้ว ระยะนี้เขาหลงทางไปจัดเลี้ยงสังสรรค์กันเฉยๆ ส่วนใหญ่เขาฮึ่มๆ กันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการเสนอความเห็นอะไร รัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล โปรดอย่าดูแคลนพันธมิตรฯ เดี๋ยวก็ พูดคำก็ดอนเมือง สองคำก็สุวรรณภูมิ สามคำก็ทำเนียบ ผมไม่ใช่อะไรหรอก กลัวว่าจะเป็นรัฐมนตรีที่เนรคุณคนที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง ใช่ไหมครับ

ผมไม่อยากให้ดูแคลน แล้วผมอยากจะยกสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เคยศึกษาเรื่องการโกงชาติบ้านเมืองของระบอบทักษิณไว้ เพราะว่ารายละเอียดต่างๆ จะมีคนที่ไปเสนอให้รัฐบาลอยู่แล้ว สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง พี่น้องจำได้ไหม เขามาช่วยเราใช่ไหม วันนี้เขาขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อยื่นหนังสือ แสดงว่าเขามีความคาดหวังสูงไหมครับ ถ้าไม่มีความคาดหวังสูง 43 รัฐวิสาหกิจเขาไม่ยื่นข้อเรียกร้องเลย เขาขับไล่เลย เหมือนรัฐบาลก่อน

ขออนุญาตพี่น้องประชาชน อ้างอีกนิดหน่อย เพราะวันนี้ตั้งใจจะไม่มาวิจารณ์นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่อยากจะให้กำลังใจ และฝากข้อคิดว่า ผมมีทั้งส่วนที่เป็นพรรคการเมือง และส่วนที่เป็นการเมืองภาคประชาชน เพราะฉะนั้นการวิจารณ์อะไรต้องระมัดระวัง ตอนนี้เราให้โอกาสแล้ว ผมจะบอกว่า ในหน้า 168 ขึ้นไป พรรคประชาธิปัตย์เคยกล่าวหา และก็พูดง่ายๆ ถล่มรัฐบาลทักษิณมาหลายเรื่อง เรื่องที่ 1. คือกระทำการไม่โปร่งใสในการประกอบธุรกิจของครอบครัว หลบเลี่ยงภาษีตลอดมา แสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและครอบครัว มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นการทุจริตเชิงนโยบาย นี่ข้อที่หนึ่ง ข้อที่ 2. ทุจริตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ เรื่องที่สาม ที่พรรคประชาธิปัตย์หยิบขึ้นมา แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลถึงกล้าเอามาเขียนปิดคดียื่นต่อศาล ข้อที่ 3. การทุจริตจากการประมูลก่อสร้างหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งหมดตรวจสอบแล้วมี 13 เรื่อง แล้วเรื่องที่ 4. สั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่า เป็นเงิน 4,000 ล้าน นี่เรื่องที่สี่ เรื่องที่ 5. น่าสนใจมากครับ เป็นการท้าทายรัฐบาลใหม่เป็นอย่างยิ่ง ทุจริตเชิงนโยบาย แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปตท. การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีกลุ่มธุรกิจที่เป็นพวกพ้องกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยได้ผลประโยชน์จากการจัดสรรหุ้นเป็นจำนวนมาก

และผู้ได้รับผลประโยชน์จากการประกอบ ทำกำไรนับแสนล้านจากรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัฐ เพราะฉะนั้น ปตท.จึงเป็นองค์กรอาชญากรรมแผ่นดิน ขณะนี้ควรจะลดน้ำมันเหลือ 12 บาท ดันอยู่ 18-19 บาท แสดงว่ามันคอร์รัปชั่นอย่างเอิกเกริก จะบุญแก่ประเทศมาก จะสร้างคุณูปการแก่ประเทศมากหากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะจัดการให้ ปตท.มาเป็นของรัฐบาล ใช่ไหมครับพี่น้อง ผมไม่ใช่พูดลอยๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องไม่สมเหตุสมผลนะครับ มันปรากฏอยู่ในเอกสารของพรรคประชาธิปัตย์เองที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเรื่องที่ 6. ครับ เรื่องการแก้ไขพระราชกำหนดกฎหมายโดยเร่งด่วน อนุมัติจัดเก็บภาษีสรรพสามิต กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดง่ายๆ คือว่า แทนที่จะให้สัมปทานโทรศัพท์ดาวเทียม โดยหัก 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ถ้าทำรายได้ 100 บาท หักให้รัฐ 25 บาท ให้มาเสียงเพียงเล็กน้อยเลย แก้ไขเป็นภาษีจากสัมปทานมาเสียภาษีสรรพสามิต ประเทศชาติเสียหายไปหลายหมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นทั้ง 6 ประการนี้ เป็นเรื่องใหญ่มากครับที่สังคมจะได้รอความหวังจากรัฐบาลซึ่งศึกษาเรื่องนี้ดีที่สุด ละเอียดที่สุด

ผมเลยอยากจะเรียนว่า ในวันนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังเป็นองค์กรที่ให้โอกาสนะครับ ให้โอกาสในการทำงานของรัฐบาล แล้วให้โอกาสรัฐบาลนำพาคณะรัฐมนตรีของตนบริหารประเทศโดยความซื่อสัตย์สุจริต และไม่เป็นเหตุให้เกิดความสงสัยของคนในชาติ ระยะนี้พันธมิตรฯ ได้ปรึกษาหารือกันเป็นการเบื้องต้นแล้วครับ เพียงพันธมิตรฯ อยู่เฉยๆ โดยไม่เข้าไปอุ้มชูใคร รัฐบาลก็บริหารลำบากแล้ว เพราะทักษิณประกาศสู้ยิบตา และเอาตาย อันดับแรกจัดการ นปก.200 คน มาจัดการในวันเลือกตั้งก่อน พี่น้องจำได้ไหม ต่อไปความรุนแรงจะเกิดขึ้น ถึงตอนนี้ ถ้ารัฐบาลบริหารประเทศดี คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ไม่แก้รัฐธรรมนูญ แล้วกวาดล้างระบอบทักษิณ พันธมิตรฯ พร้อมจับมือประสานเพื่อฟันฝ่าประเทศชาติ ใช่ไหมครับ แต่ถ้าบริหารประเทศแล้วเอาแต่กลุ่มของตน เอาแต่ผลประโยชน์ของตน ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยยุบพรรคไว้แล้ว ระบอบทักษิณจะมาถล่มกันเอง พรรคการเมืองในสภาจะถล่มกันเอง ถึงวันนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะขออนุญาตเป็นไทยมุง เป็นผู้ดูอย่างเดียวสักครั้งได้ไหมครับพี่น้อง

พี่น้องครับ ยังอยากให้ประชาชนเฝ้าติดตามก่อน การวิพากษ์วิจารณ์ตอนนี้ในเชิงลบเป็นการเร็วเกินไป เราจะต้องให้โอกาสชาติบ้านเมืองในการแสวงหาทางออก ความสงบ และทางออกที่ดีโดยใช้ระบบคุณธรรมบริหารประเทศ เป็นสิ่งที่เรามุ่งมาศปรารถนา ไม่เพียงแต่พี่น้องประชาชนมุ่งมาศปรารถนาเท่านั้น แต่องค์กรอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็จะเฝ้ารอวันนั้น และจะอดทนจนถึงที่สุด แต่ถ้าอดทนไม่ได้เราก็พร้อมจะเป่านกหวีด จากมโนธรรมสำนึกทางใจออกมาใช่ไหมครับ อันนี้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเราไม่ต้องห่วง ผมขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกท่าน ตอนนี้ก็จำลองเหตุการณ์ไปก่อน เราคงเดินขบวนอะไรไม่ได้นะในช่วงนี้ ปรบมือกันแล้วก็จัดการกันไปก่อน ในส่วนของกรณีต่างประเทศ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เตรียมยกชุดใหญ่ไปที่สหรัฐอเมริกา รายละเอียดผมพบ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะมาแจกแจงในโอกาสอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ แล้วในส่วนของการเดินสายต่างๆ ของเรา ผมก็เดินสายจนกระทั่งสิ้นปี ผมเฝ้าดูแล้ว เมื่อวานนี้ไปพูดที่เพชรบุรี เมื่อวันก่อนไปที่นครสวรรค์ มีคนฟังพอๆ กับช่วงที่เราขับไล่สมัคร และสมชายครับ แสดงว่าประชาชนยังตื่นตัวกับการเมืองภาคประชาชน การเมืองเพื่อการตรวจ การเมืองเพื่อการโค่นล้มรัฐบาลชั่ว อยู่ใช่ไหมครับพี่น้อง จิตใจนี้เรายังคงอยู่

การเคลื่อนไหวของเราเป็นการเคลื่อนไหวที่มีเหตุมีผล ระยะนี้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องตระเตรียมทำใจ เพราะถูกฟ้องหลายคดี เรียกหลายหมื่นล้าน ก็เป็นระยะพักรบ จำนวนหนึ่งก็จัดเลี้ยงกัน เฉลิมฉลองงานปีใหม่ บ้างก็บอกว่า ชนะแล้ว เฉลิมฉลองชนะแล้ว ที่ภาคใต้ ที่ภาคเหนือ บ้างก็บอกว่า ยังชนะไม่สิ้น ม้วนเดียวจบยังไม่จบ เพราะม้วนนี้เป็นด้ายสายสิญจน์ มันยาวมากเพิ่งคลี่ออกมาครึ่งเดียวเท่านั้นเอง มันยาวมากมันยังไม่จบง่าย แต่เหนืออื่นใด ไม่ว่าจะจบหรือไม่จบ แต่วิญญาณของการต่อสู้กันในเครือข่ายพันธมิตรฯ เครือข่ายพันธมิตรฯ นี่ประหลาด เป็นเครือข่ายการนับถือกันเสมือนญาติอย่างยิ่งแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลกนี้ ผมมีเพื่อนอยู่พังงา มีอยู่เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น แต่ผมไม่นับน้องชายผมเป็นเพื่อน เพราะน้องชายผมเป็น นปก.ครับ ผมนับถือพี่สาว ยายของผม ป้าของผม แม่ยกของผมต่างจังหวัด เป็นเครือญาติที่ผมรักอย่างยิ่ง ศรัทธาอย่างยิ่ง แต่ผมไม่นับถือน้องชายผม เพราะมันเสือกไปเป็น นปก. ก็แสดงว่า ระบบเครือญาติใหม่มันเกิดขึ้น เป็นเครือญาติอะไรครับพี่น้องประชาชนครับ เป็นเครือญาติแห่งคุณธรรม เป็นพลังทางศีลธรรมของสังคมครับ นี่คือปรากฏการณ์ที่น่าพิศวงยิ่งใหญ่ และไม่เคยปรากฏในโลกใบนี้มาก่อน ผมจึงขอสดุดีการทำหน้าที่ของวีรชน ผู้บาดเจ็บ และพี่น้องประชาชนนับล้านๆ คน

โอกาสนี้เรากำลังคิดอยู่ 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 ทำยังไงเราจะโอบอุ้มและสถาปนาให้ ถ้าพี่น้องเห็นด้วยก็ปรบมือ ASTV กลายเป็นทีวีของประชาชน กลายเป็นทีวีการสู้รบของประชาชน อันที่ 2 เราจะเอาเครือข่ายของเรามากกว่า 10 ล้านคน มาสร้างหน่วยเศรษฐกิจร่วมกัน สร้างกำไรร่วมกัน คืนทุนร่วมกัน คืนความรู้ร่วมกัน หากเป็นไปได้เราอาจจะรับประทานน้ำกู้ชาติ ข้าวสารกู้ชาติ นะครับพี่น้อง ทุกครั้งที่ผมแวะตามปั๊มน้ำมัน ผมกระหายน้ำ หิวน้ำว่างั้นเถอะ ผมก็ไปซื้อ เขาบอกว่า ่ขอน้ำพันธมิตรฯ 1 ขวด พอน้ำพันธมิตรฯ 1 ขวด วันหนึ่งคนกิน 1.5 แสนขวด กำไรขวดละ 2 บาท มันพอเพียงที่จะทำให้ ASTV เป็นทีวีของประชาชน พอผมพักปั๊บมาที่บ้านปั๊บ ผมก็เคี้ยวข้าวแข็งกู้ชาติอย่างอร่อย ข้าว ASTV ครับพี่น้อง นี่คือสิ่งที่ผมกำลังจะบอกพี่น้องว่า มันเกิดปรากฏการณ์ 2 อย่าง 1. สร้างระบบเครือญาติใหม่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แล้วปฏิเสธชาติพันธุ์วรรณาของตนเอง ปฏิเสธเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกับผมผมไม่ไปเลี้ยงรุ่นกับมันเลย ผมไม่ไป แล้วก็อันที่ 2. ผมสร้างหน่วยเศรษฐกิจใหม่เพื่อทำให้ ASTV และการต่อสู้ของประชาชนได้รับสถาปนาเป็นการเมืองภาคประชาชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ผมขอขอบคุณกำลังใจทุกท่าน ไว้วันใกล้ๆ ปีใหม่จะมาออกอากาศแล้วก็วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจในปีใหม่ แล้วจะมาอวยพรให้ท่านในวันนั้น วันนี้ขอบคุณพี่น้องในห้องส่งมาก มากันหลายหมื่นคนครับพี่น้อง วันนี้มากันหลายหมื่นคน นะครับ ผมนับดูโอ้โหมากจริงๆ แล้วก็ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ต้อนรับในการเดินสายของเราแทบทุกจังหวัดเลย เราจะไปทุกจังหวัดเลย ไม่เว้นแม้กระทั่ง 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ไหนมีพันธมิตรฯ เราจะไปที่นั่นครับ ขอบพระคุณมากครับพี่น้องครับ

รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ช่วงที่ 2 (17-12-51)

จินดารัตน์ – ก่อนที่จะไปพบผู้ปราศรัยท่านต่อไป ที่เขาบอกว่าความหล่อนี่ไม่แพ้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นะคะ เดี๋ยวต้องดูว่าหล่อขนาดนั้นจริงหรือเปล่า นะคะ พ่อแม่พี่น้องคะวันนี้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา, พ.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ชน.นะคะ ในฐานะที่กำกับดูแลควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการเรียกตำรวจผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการดูแลความสงบเรียบร้อย ให้ความปลอดภัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ป้องกันมือที่สามเข้าแทรกแซงสถานการณ์นั้น เรียกตำรวจเข้ามาเพื่อที่จะทำการซักซ้อม ทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรับมือกับ นปช. ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วันนี้นะคะตำรวจเนี้ย ทาง ผบ.ชน. พล.ต.ต.เอกรัตน์ ออกมาบอกอย่างนี้ค่ะ บอกว่าที่ผ่านมาเนี้ยยอมรับว่าตำรวจเนี้ยยังขาดความรู้ ความเข้าใจถึงวิธีการในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากมีตำรวจมาจากหลาย สน. และหลายพื้นที่นะคะ ขาดความเข้าใจถึงวิธีการที่ต้องปฏิบัติ จึงต้องมีการประชุมเพื่อทบทวนหน้าที่ให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น คือจริงๆอยากจะบอกอย่างนี้นะคะพ่อแม่พี่น้อง ถ้าพ่อแม่พี่น้องฟังที่ รอง ผบ.ชน. ท่านนี้พูดเนี้ย เราก็คงจะรู้สึกได้ว่า "หรอ" พวกคุณขาดความรู้ความเข้าใจ แต่คุณเอาตำรวจที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ มาปราบผู้ชุมนุมที่ใส่เสื้อเหลืองในวันที่ 7 ตุลาคม ยิงแก๊สน้ำตาที่ทำจากประเทศจีน ที่ไม่ได้มาตรฐาน จนแขนขาด ขาขาด เสียชีวิต แต่วันนี้คุณบอกว่าคุณต้องซักซ้อมความเข้าใจ ก็ยังดีนะคะ ยังดีที่คุณยังคิดได้ว่าวันนี้จะต้องซักซ้อมความเข้าใจ

แอนเชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน คนเสื้อเหลืองทั้งหลายเนี้ย ไม่ได้มีความรู้สึกว่าอยากจะให้ตำรวจกระทำเช่นเดียวกับที่ คือกระทำกับ นปช. คนเสื้อแดงเฉกเช่นเดียวกับที่กระทำกับพวกเราในวันที่ 7 ตุลาคม เพราะเขาก็คือคนไทยเหมือนกัน เราไม่อยากเห็นหรอกค่ะ เราไม่อยากเห็นความผิดพลาดของตำรวจในวันนั้น จะด้วยจงใจหรือไม่ก็ตาม แต่วันนี้เราก็ดีใจว่าคุณยังมีความซักซ้อม ทำความเข้าใจ การปฏิบัติในการสลายผู้ชุมนุม โดยหลักปฏิบัติสากลนั้นเขาทำกันอย่างไร ขอบคุณตำรวจอีกครั้งนะคะ ที่ยังรู้ว่าวันนี้จะต้องทำหน้าที่ของคุณอย่างไรบ้าง

ถึงแม้ว่ามันจะสายเกินไปสำหรับคนเสื้อเหลืองเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แต่อย่าลืมนะคะ ถึงคุณจะทำตามหลักปฏิบัติสากลแล้วก็ตาม แต่เรายังไม่ลืม เรายังไม่ลืมว่าคุณทำอย่างไรกับพี่น้องของเราไว้ในวันที่ 7 ตุลาคม ฝากเรียนรัฐบาลชุดใหม่ด้วยนะคะว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนอีกเรื่องหนึ่ง ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเรา ที่เราคาดหวังกันเหลือเกินว่า ท่านจะทำหน้าที่ท่านนายกรัฐมนตรีที่ดี สมกับที่คนดีๆเขาคาดหวังกันเอาไว้ ว่าจะต้องสะสางเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เงียบหายไป เพราะใครบางคนขอเอาไว้ อย่าลืมนะคะว่าเรากำลังรอคำตอบอยู่ว่า คุณจะจัดการกับตำรวจชั่วพวกนี้อย่างไรบ้างคะ เอาละคะตอนนี้เรามาพบกับผู้ปราศัยท่านต่อไปนะคะ ปรบมือดังๆนะคะ ต้อนรับพี่ประพันธ์ คูณมีคะ

ประพันธ์ - สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้อง ประชาชนที่เคารพรักทุกท่านนะครับ และก็กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ชมอยู่ทางบ้าน และก็พี่น้องประชาชนที่ชมอยู่ต่างประเทศทุกท่านนะครับ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้มีโอกาสมาปราศรัยพบปะกับพี่น้องประชาชน ในบรรยากาศที่แตกต่าง และก็เป็นบรรยากาศในห้องส่ง ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยคุ้นเคยเลยนะครับ แม้ว่าจะมีพลังมือตบมาอยู่ในห้องส่ง จำลองบรรยากาศคล้ายกับที่เราชุมนุมกันมา 193 วัน แต่ก็บรรยากาศก็ยังไม่เหมือนบรรยากาศที่ผ่านมา ผมคิดว่าบรรยากาศ 193 วัน ที่เราได้ร่วมกันต่อสู้มานั้น เป็นบรรยากาศที่ไม่ว่าใครก็ตาม ก็คงจะไม่สามารถจัดการแสดงให้เหมือน 193 วัน ที่เราจัดชุมนุมมาได้ เพราะนั่นคือความจริง และชีวิตจริงของพวกเราพี่น้องประชาชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครับ พี่น้องครับ พี่น้องที่เคารพรักครับ

วันนี้ผมมาพูดในบรรยากาศที่เราพึ่งจะได้รับทราบข่าวว่ามีพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และก็คงจะเป็นความคาดหวังและก็ความชื่นชมของพี่น้องประชาชนที่อยากจะเห็นนักการเมืองคนหนุ่ม คนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการที่จะก้าวมาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่ตั้งใจจะทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชนได้ก้าวเข้าสู่บททดสอบ และบทพิสูจน์ ซึ่งผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งตัวผมก็ยินดีและอยากจะให้เวลากับท่าน ได้พิสูจน์ความสามารถท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นผมคิดว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญที่สุด และเป็นโอกาสสูงสุดที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับจากประเทศและจากประชาชน ในการที่จะก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครานี้

แต่สิ่งที่สูงสุดที่สุด สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้อยู่เพียงว่าการที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญ และสิ่งที่สูงสุดที่สุด ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้เห็น ถึงความรู้ความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานของท่าน นั่นคือท่านต้องนำประเทศไทยให้ก้าวพ้นวิกฤตให้ได้ และต้องนำประเทศก้าวไปสู่การเมืองใหม่ ที่ประชาชนคาดหวังให้ได้ จึงจะผ่านด่านทดสอบที่สำคัญนี้ได้นะครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ การที่ได้มีโอกาสเช่นนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมอยากจะตอกย้ำ และกล่าวต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศอีกครั้งหนึ่งว่า แยกไม่ออกจากการต่อสู้อย่างเอาจริงเอาจังของพี่น้องพันธมิตรฯที่กล้าหาญ กล้าเสียสละ และกล้าต่อสู้กับการเมืองที่ถูกครอบงำโดยระบอบทักษิณ แยกไม่ออกจากการต่อสู้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนชาวพันธมิตรฯที่ได้กล้าหาญกล้าต่อสู้กับการเมืองในระบอบเก่าอย่างเอาจริงเอาจัง เพราะฉะนั้นชีวิตของพี่น้องประชาชน 11 ศพ บาดเจ็บสาหัส 21 ราย หรือว่าบาดเจ็บอีกมากมาย พิการอีกมากมายนับร้อยนั้น เป็นต้นทุนที่สูงยิ่ง จะเรียกว่าก้าวขึ้นมาท่ามกลางชีวิตและเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนที่ได้เสียสละก็ว่าได้ ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าต้องตอกย้ำและฝากให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ตระหนักและสำนึกให้มากว่า สิ่งที่มีโอกาสสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ แยกไม่ออกจากการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครับพี่น้องครับ ท่านนายกคนใหม่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือชาวพรรคประชาธิปัตย์ จะคิดอย่างไรก็ตามแต่ แต่ประวัติศาสตร์การเมืองหน้านี้ ไม่อาจที่จะมองข้ามพลังการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ได้ แล้วสองก็คือ พรรคประชาธิปัตย์จะปฏิเสธการที่การเมืองในระบอบทักษิณนั้น ครอบงำประเทศมา 7-8 ปี ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมาไม่ได้โดยเด็ดขาด และพรรคประชาธิปัตย์ โดยคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยปราศรัยเรื่องนี้ที่สนามหลวง ผมจำได้ครับ เพราะผมเป็นคนเขียนเอง เพราะฉะนั้นเมื่อสักครู่นี้ที่ อ.สมเกียรติ เอาอันนี้มา เป็นที่ ASTV พิมพ์ขาย ของผมมีต้นฉบับครับ ในการต่อสู้คดี เพื่อการต่อสู้คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคประชาธิปัตย์ ผมเป็นหนึ่งในทีมทนายความที่มีส่วนอย่างสำคัญในการเขียนคำให้การต่อสู้คดีนี้ ด้วยตัวผมเองเป็นเวลาแรมเดือน ร่วมกับคณะทนายความอีก 10 กว่าท่าน แต่ประเด็นหลักทั้งหมดนี้ ระบอบทักษิณและข้อต่อสู้อื่นๆ 4 ประเด็น ผมเป็นเลขาและเป็นคนรวบรวมทั้งหมด ซึ่งผมไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน และความเป็นจริงอันนี้ และการทำงานในส่วนนี้ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านนายกฯ ชวน และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค คงจะทราบดีว่า ผมประพันธ์ คูณมี ก็เป็นส่วนหนึ่งในทีมทนายที่เป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้และเขียนคำให้การ ต่อสู่คดียุบพรรคคดีนี้ และทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะคดีในคดีนี้มาได้ครับ

ประเด็นสำคัญก็คือว่า ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการจะทวนความจำและตอกย้ำให้พรรคประชาธิปัตย์ และท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ทราบว่า ท่านเองเคยปราศรัยและวิพากษ์การบริหารของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เรียกว่า ระบอบทักษิณ ไว้โดยชัดเจนในคำปราศรัยของท่าน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2549 ที่สนามหลวง ในการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ และมีคำปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายถาวร เสนเนียม รวมด้วย นายถาวร เสนเนียม ปราศรัยที่ภาคใต้ สงขลา ในการวิพากษ์ระบอบทักษิณในทำนองเดียวกัน สาระสำคัญทั้งหมดที่เรากล่าวหาถึงระบอบทักษิณนั้น เป็นไปดั่งที่ อ.สมเกียรติ ได้กล่าวไปแล้วในคำพิพากษาฉบับนี้ ซึ่งเราได้สรุปความเลวร้ายของการเมืองในระบอบทักษิณนั้นไว้ชัดเจน รวมแล้ว 7-8 ประการ 1. คือการเมืองระบอบทักษิณเป็นตัวทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.คือการเมืองระบบทักษิณแทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญตลอดระยะเวลาที่มีอำนาจ ทำให้องค์กรอิสระไม่สามารถตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองได้ และเป็นปฐมเหตุ เป็นต้นเหตุทำให้ระบอบทักษิณทุจริตทำให้บ้านเมืองเสียหายถึง 1.8 แสนล้าน ตามที่ คตส.ได้ตรวจสอบ 3. คือระบอบทักษิณครอบงำสภาและวุฒิสภา ตลอดระยะเวลาที่ทักษิณปกครองประเทศ เขาไม่เคยไปตอบกระทู้ ตอบญัตติ ไม่เคยถูกอภิปราย เพราะเขาครอบงำวุฒิสภาและ ส.ส.ไว้เป็นลูกน้อง เป็นสภาทาส ทำลายหลักการระบอบประชาธิปไตย และหลักการตรวจสอบโดยสภา โดยสิ้นเชิง 4.คือ เขาแทรกแซงสื่อ และทุกวันนี้สื่อที่ถูกระบอบทักษิณแทรกแซงจังทำหน้าที่รับใช้ ปกป้องระบอบทักษิณ และคอยบอนเซาะบอนไซรัฐบาลใหม่อยู่ทุกวัน คุณจะจัดการอย่างไร แล้วต่อมาก็คือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ปกครองบริหารประเทศที่ใช้อำนาจแต่เพียงผู้เดียว และใช้อำนาจนั้นไปเพื่อประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจตนและครอบครัว ญาติพี่น้อง แต่งตั้งคนในวงศ์ตระกูลญาติพี่น้องตัวเองให้ก้าวหน้า ดำรงตำแหน่งในทางราชการหรือในทางการเมือง เป็นที่ชัดเจน ประการต่อมาคือ ระบอบทักษิณเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง แตกแยกในสังคม ในประเทศ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

ข้อเท็จจริงอันนี้คือข้ออภิปราย และข้อกล่าวอ้าง และข้อโต้แย้ง ข้อต่อสู้ที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นข้อโต้แย้งว่าระบอบทักษิณเลวร้ายเช่นนี้จริง การพูดทั้งหมด การปราศรัยทั้งหมด รวมทั้งปราศรัยว่าระบอบทักษิณเป็นการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวงมากที่สุด ก็ปรากฏอยู่ในคำต่อสู้คดีนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็รู้ถึงภัยอันตรายอันยิ่งใหญ่ของระบอบทักษิณ และยอมรับว่า ระบอบทักษิณเป็นต้นเหตุ ต้นตอของปัญหาของประเทศชาติ ทั้งหมดนี้ได้สรุปในช่วงสุดท้ายของการต่อสู้คดีเรื่องนี้ว่า การกล่าวปราศรัยของหัวหน้าพรรค ผู้ถูกร้องที่ 1 นั่นก็หมายถึง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือคุณอภิสิทธิ์ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่กล่าวปราศรัยเกี่ยวกับการกระทำและพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดระยะเวลาที่บริหารประเทศ จึงเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น คุณยืนยันและคุณยอมรับแล้วว่าระบอบทักษิณที่คุณกล่าวประณามมาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ปัญหาก็คือว่า วันนี้รัฐบาลประชาธิปัตย์ ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แล้ว ท่านจะจัดการกับระบอบทักษิณ ที่เห็นว่าเป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง และยังทิ้งซากเดนของอำนาจไว้อยู่ในกลไก ทั้งระบอบเศรษฐกิจ ระบอบราชการ ระบอบการเมือง อย่างไร นี่คือปัญหาที่ท้าทายรัฐบาลใหม่ และพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ท่านนายกฯ ได้รับตำแหน่ง ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้หลายอย่าง ผมก็เลยต้องฝากถามไปถึงท่านนายกฯ คนใหม่ว่า ท่านจะจัดการกับระบอบทักษิณที่สร้างความเสียหายไว้กับบ้านเมืองอย่างไร นี่คือคำถามและโจทย์ข้อใหญ่ของนายกฯ ที่ชื่ออภิสิทธิ์ ครับพี่น้องครับ

นอกจากโจทย์ในประเด็นข้อนี้แล้ว ต้องยอมรับว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลทักษิณปกครองบ้านเมือง และต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลสมัคร สมชายนั้น เป็นเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ย่อมรู้ดีว่า ตัวเองตกอยู่ในฐานะขมขื่นเพียงใด ถูกกีดกันเพียงใด ไม่ให้ออกสื่อ ไม่ให้พูด ถูกแทรกแซงในทางการเมืองอย่างไร ถูกเอารัดเอาเปรียบในการแข่งขันเลือกตั้ง ถูกโกงการเลือกตั้งมาอย่างไร ผมเข้าใจว่าท่านคงเข้าใจดีอยู่แล้ว ว่าความขมขื่นที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับไม่น้อยกว่าพี่น้องประชาชนพันธมิตรฯ ที่ได้รับจากระบอบทักษิณ เลวร้ายถึงขนาดมีระเบิดยิงใส่พี่น้องผู้ชุมนุมบาดเจ็บล้มตายมากมาย นี่คือความขมขื่นของประเทศ และแผลร้ายจากระบอบทักษิณครับพี่น้องครับ

ปัญหาก็คือว่า ผมดีใจครับที่ท่านบอกว่า ท่านก้าวมารับตำแหน่งแล้ว สิ่งแรกที่ท่านต้องทำและเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดคือเรื่องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ว่าท่านจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผมก็ต้องมีคำถามแทนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศเหมือนกันว่า แล้วจะจัดการอย่างไรกับกระบวนการทำลายสถาบันที่ออกเผยแพร่ความคิดผ่านเว็บไซต์ และโจมตีสถาบันอย่างรุนแรง รวมทั้งเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ Economist เร็วๆ นี้ ก็ยังดำเนินการอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งคดีของนายจักรภพ นายวีระ และผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยังไม่ถูกฟ้องจนทุกวันนี้ ท่านจะกล้าหาญและกล้าดำเนินการ หรือพูดแต่เพียงให้สวยหรูเท่านั้นครับ นี่ก็เป็นโจทย์ ส่วนพวกเราพันธมิตรฯ หรือพวกเราที่ถูกข้อกล่าวหา รัฐบาลไม่ต้องมาช่วยพวกเรา เราพร้อมจะเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และพิสูจน์ความผิด ความจริงของพวกเราตามกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องเอาไอ้พวกที่ลอยนวลอยู่มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วครับพี่น้องครับ

ที่ผมมาพูดวันนี้ผมไม่ได้ต้องการให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ หรือคุณอภิสิทธิ์ ไปจองล้างจองผลาญ ไม่ใช่ครับ หรือไปแก้แค้นระบอบทักษิณ แต่มันเป็นสิ่งที่ท่านเคยพูดไว้แล้วว่าระบอบทักษิณมันชั่วร้ายอย่างนี้ๆ ท่านจะทำตัวของท่านเหมือนรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ หรือเปล่า เมื่อมีอำนาจขึ้นมาแล้วก็ประนีประนอมกับระบอบทักษิณ และกลัวว่า ถ้าจะดำเนินการกับคนในระบอบทักษิณกลัวจะถูกบอกว่า เป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯ ผมถามว่า ถ้าการจัดการกับคนชั่วที่ละเมิดสถาบัน จัดการกับระบอบการเมืองที่โกงบ้านกินเมือง และจัดการกับความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เอาคนผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ส่งเสริมข้าราชการที่ดีๆ ให้ได้เข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ที่คืนความยุติธรรมให้กับเขา และก็ปฏิรูปสื่อ สื่อซึ่งถูกระบอบทักษิณครอบงำ กลับคืนมาสู่ความมีอิสระเสรี ให้คนดีๆ ให้เขาได้มาจัดรายการ ท่านกลัวท่านจะเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรหรือ ถ้าท่านกลัวว่าท่านจะเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯ ท่านก็ควรจะอยู่เฉยๆ หรือแบบเดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ก็เท่ากับเป็นพวกเดียวกับระบอบทักษิณ ไม่แตกต่างกันเลย

เพราะฉะนั้นการดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้อง เป็นสิ่งที่ท่านนายกคนใหม่จะต้องมีคำตอบให้กับพี่น้องประชาชน สิ่งที่ท่านต้องทำเพื่อภารกิจในการกวาดล้างการเมืองในระบอบทักษิณนั้น ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อเอาใจพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อจงเกลียดจงชังคนใส่เสื้อแดง แต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำเพื่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติต่างหากครับ พี่น้องครับ

เพราะการเมืองโดยระบอบทักษิณนั้น เป็นการเมืองที่ทำลายบ้าน ทำลายเมือง กินบ้าน กินเมือง ทำลายสถาบัน ถ้าคุณไม่กล้าหาญ ไม่กล้าต่อสู้ กับสิ่งเหล่านี้ การเปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่ การมีนายกคนใหม่ก็ไร้ประโยชน์สำหรับคนไทยทั้งประเทศครับ พี่น้องครับ หาได้เกิดประโยชน์อื่นใดเลย เป็นแต่เพียงได้ชื่อว่าได้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นความภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านบอกว่า ท่านจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้โดยจะยุติการเมืองที่ล้มเหลว ต้องขอความอธิบายที่เป็นรูปธรรมว่า การเมืองที่ล้มเหลวคือการเมืองภายใต้ระบอบทักษิณใช่หรือไม่ แล้วถ้าใช่ก็ควรที่จะต้องจัดการ ตามข้อต่อสู้ที่ท่านได้เคยประณามระบอบทักษิณเอาไว้ ถ้ามิเช่นนั้นแล้วก็เท่ากับละทิ้งภาระหน้าที่ แล้วทรยศกับอุดมการณ์ของชาติ บ้านเมืองใช่ไหมครับ

ส่วนการที่จะแก้ไขปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็บอกไปแล้ว จะแก้ไขได้อย่างไร ถ้ายังปล่อยให้มีเว็บไซด์เหล่านี้ โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ ปล่อยให้คนเหล่านี้มีอำนาจ และใช้สื่อใช้วิทยุชุมชนโจมตีสถาบันอยู่ทุกวัน ตรงนี้ท่านก็ต้องกล้าหาญเช่นเดียวกันใช่ไหมครับ พี่น้องครับ พี่น้องที่เคารพรักครับ มาวันนี้ยังไม่ได้เป็นการอภิปรายหรือปราศรัยเพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล นายกอภิสิทธิ์ นะครับ แต่มาเพื่อฝากคำถามและฝากโจทย์ว่า ถ้ายังขวยเขินและเอียงอายที่อยากจะเป็นเพื่อน เป็นมิตรกับพี่น้องพันธมิตรฯแล้ว ผมคิดว่าท่านคิดผิด ท่านควรจะต้องประเมินเสียใหม่ ว่าท่านจะต้องเป็นนายกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของประชาชนประเภทไหน หรือจะอยู่ภายใต้อ้อมกอดของคนประเภทเสื้อแดงหยิบมือเดียว ที่มีแต่ก่อความวุ่นวายไว้กับบ้านเมืองใช่ไหมครับ

ถ้าหากว่าท่านจะบอกว่าจะนำหลักนิติธรรม หลักนิติรัฐมาใช้ จะต้องไม่มีเหตุการณ์อย่างวันที่มีการโหวตนายกฯที่หน้าสภา เสื้อแดงเพียง 10 คน 20 คน ก็สามารถทำลายทรัพย์สิน ทำลายชีวิตร่างกายของผู้บริสุทธิ์อย่างไม่ควรจะเกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้นบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าจะยึดหลักนิติธรรม หลักนิติรัฐ จะต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และในวันแถลงนโยบาย ยิ่งจะต้องไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ใช่ไหมครับ ถ้าหากมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าข้าราชการ ตำรวจ กลไกฝ่ายปกครองวันนี้ ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของระบอบทักษิณ ถ้าท่านไม่กล้าหาญที่จะโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง รวมทั้งคณะกรรมการ องค์การบอร์ดรัฐวิสาหกิจ บอร์ดธนาคารชาติ บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ ที่เป็นคนในเครือข่ายของระบอบทักษิณแล้ว ก็เปล่าประโยชน์กับการมาเป็นนายกในช่วงนี้ ครับพี่น้องครับ

เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้ผมจึงอยากจะฝากไปถึงนายกคนใหม่แต่เพียงว่า วันนี้ต้องประเมินพี่น้องพันธมิตรฯ และบทบาทการชุมนุมการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯเสียให้ถูกต้องว่าเป็นบทบาทอันสร้างสรรค์ เป็นบทบาทที่ควรเคารพ เป็นบทบาทที่ควรยกย่องหรือไม่ ถ้าไม่กล้ายกย่องคนที่ออกมาต่อสู้เสียชีวิต เพื่อปกป้องประเทศชาติ ปกป้องประชาชน ปกป้องระบอบประชาธิปไตย ปกป้องระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ถ้าว่าท่านจะเป็นนายกของใครครับ

แล้วถ้าไม่ให้โอกาสคนดีๆเหล่านี้มามีส่วนร่วมในการปกครองประเทศชาติ มาบริหารบ้านเมือง ท่านจะเอาใครมาทำงานเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง หรือจะยอมอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณเหมือนเดิมครับ พี่น้องครับ ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์ และเป็นคำถามที่อยากจะฝากไปถึงท่านนายกฯคนใหม่ เท่านั้นเองว่า ถ้าอยากจะเป็นนายกที่อยู่ในดวงใจของพี่น้องประชาชน ทั้งประเทศ ท่านไม่อาจทำให้คนทั้ง 60 กว่าล้านเนี้ย รักท่านได้หรอก แต่ท่านต้องทำให้คนอย่างน้อย ส่วนมากที่สุดของประเทศนิยมชมชอบในตัวท่าน เพราะคนที่ไม่ดี ก็ยังต้องมีอยู่ในสังคมเสมอ แต่ต้องทำให้คนดี ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศชื่นชมท่าน ผมก็คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วครับ

แต่การจะเป็นนายกที่จะนำพาประเทศชาติ บ้านเมืองไปได้นั้น ในสถานการณ์อย่างนี้ ต้องกล้าหาญ และกล้าหาญอย่างมีหลัก และอย่างมีคุณธรรม อย่างเคารพกฎและกติกา และกฎหมายของบ้านเมือง บนหลักการนั้นท่านทำไปเลยครับ ถ้าพวกผมหรือพี่น้องพันธมิตรฯทำอะไรผิด ท่านไม่ต้องมาช่วย แต่ถ้าคนอื่นทำผิด ท่านอย่าปล่อยให้ลอยนวลก็แล้วกัน และสุดท้ายที่อยากจะฝากก็คือว่า ท่านต้องยอมรับความเป็นจริงว่า 7 ปี มานี้ ที่ระบอบทักษิณปกครองบ้านเมือง และมีรัฐบาลนั้น วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเราพี่น้องประชาชนพันธมิตรฯได้หยุดระบอบทักษิณ และเปิดโอกาสให้ท่านเป็นนายก วันนี้เป็นวักแรกที่ทักษิณไม่มีใครเป็นรัฐบาล ไม่มีใครเป็นตัวแทนนายกฯ เป็นนอมินีของเขาอีกต่อไป แต่ว่าทักษิณนั้นจะต้องหมดไปจากประเทศไทยแผ่นดินนี้ถึงจะสงบสุข บรรดาคนที่เคลื่อนไหวก่อกวนอยู่นี้เป็นเพียงส่วนน้อย ถ้าตัดท่อน้ำเลี้ยงจากคนที่ส่งมาจากระบอบทักษิณเสีย ก็หมดน้ำยาที่จะเคลื่อนไหว และจะเป็นคนที่ไม่ได้รับการตอบรับจากสังคมส่วนใหญ่ของประเทศ คนที่เคยรับใช้ระบอบทักษิณ เวลานี้อยู่ในกลไกราชการ อยู่ในรัฐวิสาหกิจ อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ อยู่ในกองทุนอยู่ในการเงิน อยู่ในวงการต่างๆ ยังฝังตัวซ่อนตัวอยู่ เมื่อวันนี้ท่านมีโอกาสแล้ว ท่านจะเอาคนพวกนี้ออกไปจากระบบหรือไม่ แล้วเปิดทางให้คนดีๆ เข้ามา ไม่ว่าเขาจะเป็นพันธมิตรฯ หรือไม่เป็นพันธมิตรฯ แม้กระทั่งคนเสื้อแดง

ถ้าเขาเป็นคนดีและพร้อมจะอยู่ในตำแหน่งบริหาร ต้องกล้าที่จะตั้งเขา ไม่ใช่ว่า อ๋อคนนี้เก่ง คนนี้มีความรู้ความสามารถ แต่ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ เลยไม่กล้าให้เขามาทำงานรับใช้บ้านเมือง ถ้าคิดอย่างนั้นก็ฆ่าตัวตายตั้งแต่วันแล้วแล้วครับพี่น้องครับ เพราะฉะนั้นจึงหวังว่า เมื่อท่านได้มีโอกาสและได้อำนาจรัฐนี้อยู่ในมือ จงใช้อำนาจนั้นให้เป็น ใช้อำนาจจัดการตามกฎหมายกับคนชั่ว คนผิด ให้โอกาสกับคนดีได้ทำงานให้กับบ้านเมือง และอย่าคำนึงถึงคนดีเฉพาะพวกตัวเอง คนดีในประเทศมีอยู่ทั่วแผ่นดิน ต้องเอาคนดีๆ มาช่วยกันทำงานให้กับบ้านเมือง จึงจะได้รับความร่วมมือและความสามัคคีจากคนในชาติ เพราะท่านก็พูดแล้วว่า วิกฤตครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ท่านคนเดียวทำไม่งานไม่ได้ และท่านภายในพรรคลำพังก็ทำงานไม่ได้ ต้องสอดส่ายสายตาหาคนดีๆ ทั้งแผ่นดินนี้มาร่วมกันทำงาน ไม่ว่าเขาจะใส่เสื้อสีอะไร ถ้าเขาเป็นคนดีและพร้อมจะอยู่ในแนวทางหลักการเดียวกัน ผมคิดว่าน่าจะเป็นหลักการที่ดีที่นายกฯ พึงจะดำเนินการในขณะนี้ครับ

พี่น้องที่เคารพรักครับ ตลอดเวลา 193 วันมา ผมปราศรัยอภิปรายเพื่อวิพากษ์ระบอบทักษิณและการบริหารของรัฐบาลหุ่นเชิดที่ไม่ชอบธรรม แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ผมอภิปรายและเสนอแนะต่อนายกฯ คนใหม่ที่ไม่ใช่ระบอบทักษิณ ด้วยความคาดหวังว่า ท่านจะไม่ทำตัวประนีประนอมกับความชั่วร้ายในระบอบทักษิณ แต่เมื่อใดที่ท่านยอมประนีประนอมกับระบอบทักษิณ ท่านจะสูญเสียโอกาสจากการที่จะเป็นรัฐบุรุษของประเทศโดยทันทีครับ แล้ววันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดของนายกฯ อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีประชาชนช่วยล้มระบอบทักษิณลงไปให้ แต่ถ้าท่านลืมคุณูปการของพี่น้องประชาชนเหล่านี้ และไม่นำเจตจำนงและเจตนารมณ์ของพวกเรา ไปแปรเป็นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้ต้องการเพียงมีรัฐบาลมาผสมกัน และได้โอกาสเป็นเสนาบดี แต่เขาต้องการเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนไปสู่การเมืองใหม่ที่ดีกว่าวันนี้ ท่านต้องนำประเทศให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้และก้าวไปสู่การเมืองใหม่ การเมืองที่โปร่งใส ที่มีหลักธรรมาภิบาล และมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นี่คือภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พี่น้องพันธมิตรฯ เฝ้าจับตามองท่านอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าท่านจะมองพวกเขาหรือมีท่าทีต่อพวกเขาอย่างไร แต่เขามีเกียรติและมีความยิ่งใหญ่สำหรับประเทศนี้เสมอครับ

วันนี้เขาเฝ้าดูและให้โอกาสท่าน ด้วยคาดหวังว่า ท่านจะเข้าใจความรู้สึกในใจของพวกเขาทุกคน ว่าเขาไม่ได้ตาย เขาไม่ได้เสียชีวิต เขาไม่ได้มาชุมนุมเพื่อบาดเจ็บ พิการ เพียงเพราะให้ท่านทั้งหลายได้มานั่งตำแหน่งเสนาบดีแน่นอน แต่เขามีความมุ่งหวังและคาดหวังจากตัวท่านมากกว่านั้น เหมือนอย่างที่ผมได้กล่าวมา ผมจึงหวังว่า เสียงของพวกเรา และเสียงของผมจะเป็นข้อเตือนใจสำหรับการเข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ ของท่านในวันนี้ อาจจะไม่ใช่ยาหวาน อาจจะไม่ใช่การไปประจบสอพลอพินอบพิเทาท่าน แต่เป็นยาขมที่มาจากความปรารถนาดี และด้วยกัลยาณมิตร หวังว่าท่านคงจะรับฟังและฟังเสียงของพี่น้องประชาชนที่นี่และพวกเรา ขออวยพรแล้วกันให้ท่านประสบผลสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล และบริหารชาติบ้านเมือง แต่ขอให้เป็นความสำเร็จบนความปรารถนาและเจตจำนงของพี่น้องประชาชนที่ได้เสียสละชีวิตต่อสู้มาร่วมกัน อย่าเป็นเพียงความสำเร็จและเจตจำนงของนักการเมืองเท่านั้นครับ ขอบคุณมากครับ







กำลังโหลดความคิดเห็น