xs
xsm
sm
md
lg

“เสธ.หนั่น” ฟุ้งเสถียรภาพ รบ.ปึ้ก หลังขั้วการเมืองเปลี่ยน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
อดีต ปธ.ที่ปรึกษาพรรคชาติไทย มั่นใจหลังเปลี่ยนขั้วการเมืองใหม่ เสถียรภาพจะดีขึ้น เพราะทุกองค์กรให้การสนับสนุน เชื่อปัญหาเสียงแตกหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ส.ส.จะต้องกลับเข้าพรรค ไม่หวั่นว่าที่นายกฯ เจอม็อบต้านล่องเหนือ-อีสาน

วันนี้ (15 ธ.ค.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชนะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะไม่มีแรงกดดันใดๆ แม้จะมีกลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมหน้าสภา คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดูแล

เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ชนะการโหวตครั้งนี้ 37 คะแนน จะทำงานได้นานและมีเสถียรภาพหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า น่าจะมีเสถียรภาพ หากทำงานดีก็จะอยู่ได้นาน เพราะเปลี่ยนขั้วรัฐบาลแล้วมันก็น่าจะดีขึ้น การคอร์รัปชันเชิงนโยบายไม่มี อีกทั้งทุกองค์กรก็สนับสนุนกันหมด หากยังเป็นขั้วเดิม 2 เดือนก็น่าจะไปแล้ว แต่ก็ต้องดูที่การจัด ครม.ด้วยที่ต้องดูสักนิด หาก พล.ต.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ขึ้นเป็นนายกฯ เดี๋ยวปัญหาก็จะตามมาอีก ไม่น่าจะอยู่เกิน 2 เดือน

“ส่วนเสียงที่หายไปนั้นเดี๋ยวเสียงก็เพิ่มขึ้นเอง เดี๋ยว ส.ส.บางพรรคที่โหวตสวนสมติพรรคก็จะกลับมาเหมือนเดิม รวมทั้งการเลือกตั้งซ่อมเดี๋ยวก็จะมีเสียง จบการแข่งขัน ส.ส.ก็ต้องกลับมาทำหน้าที่และกลับเข้าไปอยู่ในพรรค ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อแผ่นดินเสียงแตก ทั้งๆ ที่มีมติสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องให้แต่ละพรรคไปหารือกันเอง ส่วนพื้นที่เลือกตั้งซ่อม 3 จังหวัดของ ส.ส.ของอดีตพรรคชาติไทย คือ สิงห์บุรี ปทุมธานี นครปฐมนั้น พรรคก็น่าจะให้พรรคประชาธิปัตย์ส่งคนลงสมัคร เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีคน” พล.ต.สนั่น กล่าว

เมื่อถามว่าตัวเลขในวันนี้ต่ำกว่าสิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ ปชป.ได้ประกาศไว้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มันก็แค่นี้ ตัวเลขก็น่าจะอยู่ในระดับประมาณนี้ เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปภาคเหนือและอีสานได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม สำหรับจะนำนโยบายประชานิยมมาใช้หรือไม่นั้นก็จะต้องหารืออีกทีในการจัดทำนโยบายชุดใหม่

เมื่อถามว่ารัฐบาลใหม่จะยกเลิกพาสปอร์ตแดงของอดีตนายกฯ หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณา
กำลังโหลดความคิดเห็น