ศรีสะเกษ – ชาวศรีสะเกษเกาะติดหน้าจอลุ้นเลือกตั้งนายกฯ คนใหม่ และดีใจที่ได้ “อภิสิทธิ์” เป็นนายกฯ สวนกระแส ส.ส. ศรีสะเกษ “ทาสแม้ว” ที่แห่โหวตเลือก “ประชา” เกือบทุกคน พร้อมเรียกร้องเร่งแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ด้าน นายกเล็กเมืองศรีสะเกษ ฝากการบ้านให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยด่วนที่สุดเพื่อช่วยเหลือ ปชช.ทั้งที่อยู่ในในภาคชนบทและแรงงานในเมืองหลวงที่กำลังได้รับความเดือดร้อนหนักจากพิษวิกฤตเศรษฐกิจ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวศรีสะเกษทุกสาขาอาชีพต่างพากันเฝ้าติดตามลุ้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีประชาชนเฝ้าชมการถ่ายทอดสดการลงคะแนนเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่กันอย่างคึกคัก และพากันลุ้นว่าใครจะได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ หลังจากผลการลงคะแนนของ ส.ส.ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ด้วยคะแนน 235 เสียง ทิ้งห่างคู่แข่ง คือ พล.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งได้เพียง 198 เสียง ห่างกันถึง 37 เสียง ทำให้ชาวศรีสะเกษที่เชียร์ นายอภิสิทธิ์ ต่างพากันส่งเสียงแสดงความดีใจอย่างคึกคัก สวนคะแนนเสียง ส.ส. ศรีสะเกษ ที่โหวตเลือก พล.อ.ประชา เกือบทุกคน
นายนิคม ชาญจิต อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 238 บ.หนองหญ้าลาด ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ดีใจมากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากเป็นคนหนุ่มไฟแรงมีความรู้ความสามารถรอบด้าน จึงเชื่อมั่นว่านายอภิสิทธิ์จะสามารถบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ อยากขอให้ นายอภิสิทธิ์ เร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วนที่สุด คือ ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และปัญหาคนว่างงานที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ หากราคาพืชผลทางการเกษตรมีราคาดีเกษตรกรได้รับความเป็นธรรม และประชาชนมีงานทำมีรายได้ ก็จะทำให้เกิดความสงบสุข และเกิดความรักสามัคคีขึ้นในประเทศไทยได้
ทางด้าน นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ขอฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติโดยด่วนที่สุด เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจของไทยกำลังตกต่ำอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวศรีสะเกษซึ่งส่วนมากอยู่ในระดับรากหญ้าตามชนบทและตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ขณะที่ชาวศรีสะเกษที่พากันไปทำงานอยู่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศก็ถูกเลิกจ้างงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกลับมาอยู่บ้านและไม่มีรายได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องนำเอาปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำมาดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะที่ผ่านมาปัญหาทางการเมืองทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาต่าง ๆ ของประเทศไม่ได้รับการแก้ไขมานานแล้ว และที่สำคัญอยากให้เร่งสร้างความสามัคคีของคนในชาติอย่างเต็มที่ด้วยเพราะหากประชาชนคนในชาติมีความรักสามัคคีกันแล้ว การจะดำเนินการพัฒนาประเทศชาติก็ย่อมที่จะเป็นไปได้โดยง่าย