xs
xsm
sm
md
lg

“นักวิชาการ” สุดทน! จี้ “ทหาร” ขวาง “เสื้อแดง” ปิดสภา ฝ่าวิกฤตชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
“นักวิชาการเชียงใหม่” สุดทน จี้ “ทหาร” ออกโรงดำเนินการป้องกัน “เสื้อแดง” ปิดล้อมสภาฯ ไม่ให้มีการเลือก “นายกฯ” ชี้เหตุเพราะสุ่มเสี่ยงต่อการปะทุความรุนแรงซ้ำร้ายในสังคมไทย ระบุชัดต้องเร่งสรรหา “ผู้นำคนใหม่” โดยเร็ว เพื่อช่วยเยียวยาปัญหาของชาติบ้านเมือง ก่อนเตือนสติ “ขั้วตรงข้าม” ไร้ความจำเป็นที่จะยุบสภาฯ เพื่อตัวเอง-พวกพ้อง

วานนี้ (13 ธ.ค.) เครือข่ายนักวิชาการอิสระเพื่อการปฏิรูปการเมือง จ.เชียงใหม่ นำโดยนายจักรวาล วรรณาวงศ์ ได้ส่งหนังสืออิเล็คทรอนิคส์ไปยังสำนักข่าวต่างๆ เพื่อเรียกร้องทางออกของประเทศชาติในห้วงสภาวะวิกฤติว่า ตามที่ได้มีประกาศพระบรมราชโองการให้เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรรับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค.นี้นั้น การจัดประชุมสภาในวันดังกล่าว จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกฝ่ายจะได้เดินหน้าแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศชาติที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน

อย่างไรก็ตาม ก่อนการจัดประชุมดังกล่าว ได้มีความเคลื่อนไหวบางอย่างจากฝ่ายที่กำลังจะเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง ซึ่งพยายามที่จะสร้างกระแสเพื่อให้วิกฤตการณ์ทางการเมืองยังคงอยู่ต่อไป โดยพยายามที่จะให้อำนาจกลับคืนมาที่ฝ่ายของตนดังเดิม โดยไม่สนใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติมากเพียงใด ฉะนั้น เครือข่ายนักวิชาการอิสระเพื่อการปฏิรูปการเมือง จ.เชียงใหม่ จึงได้มีการประชุม และมีข้อห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และขอเรียกร้องดังนี้

1.บัดนี้ทุกฝ่ายที่อยู่ในสังคมที่ต้องการจะให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ จะต้องร่วมมือกันให้การประชุมสภาเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้สรรหานายกฯ คนใหม่โดยเร็ว จะได้จัดตั้งรัฐบาลมาเยียวยาแก้ปัญหาของชาติต่อไป เพื่อไม่ไห้เกิดสภาวะสุญญากาศทางการเมืองแบบที่เกิดขึ้นอีก และเมื่อพรรคการเมืองฝ่ายเสียงข้างมากได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันต่อสาธารณชนแล้วว่า จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นพรรคการเมืองฝั่งเดิม ก็ไม่สมควรแสดงพฤติกรรมในทุกวิถีทางเพื่อดำเนินการขัดขวาง หรือดึงเอาอำนาจกลับในทุกวิถีทาง โดยไม่คำนึงถึงจริยธรรมทางการเมือง

นอกจากนี้เมื่อเป็นที่ชัดเจนว่า หากพรรคการเมืองดังกล่าว ไม่สามารถต่อสู้ หรือช่วงชิงเสียงในสภามาได้ ก็จะกดดันเรียกร้องให้มีการยุบสภา ซึ่งเดิมทีเมื่อสมัยที่เคยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็ไม่เคยตอบสนองข้อเรียกร้องดังกล่าวเลย และในสภาวะปัจจุบันนี้ที่ได้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ซึ่งตรงกับข้อเรียกร้องของประชาชนส่วนใหญ่ให้พรรคการเมืองอันดับสองมาเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ก็เลยจุดที่มีความจำเป็นในการยุบสภาแล้วเช่นเดียวกัน ฉะนั้นการเรียกร้องดังกล่าว จึงเป็นเพียงการพยายามสร้างความได้เปรียบทางเมืองเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงถึงการหาทางออกของประเทศชาติร่วมกันแต่อย่างใด

2.กรณีที่จะมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจากภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่จะเข้า กทม.ไปปิดล้อมรัฐสภาในวันเปิดประชุมสภา เพื่อขัดขวางไม่ไห้ฝ่ายเสียงข้างมากดำเนินการเปิดประชุมเพื่อสรรหานายกฯ นั้น อาจเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงกับสังคมได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นทางฝ่ายความมั่นคงของประเทศ จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ไห้กลุ่มคนเสื้อแดงกระทำการที่ผิดกฎหมาย และสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอีก

ทั้งนี้ภายหลังจากการที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ยุติการชุมนุม สถานการณ์ของประเทศก็คลายตัวเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง จึงไม่สมควร และไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ฝ่ายคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวอีก จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฎหมาย ดำเนินการให้การเปิดประชุมสภาดำเนินไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ ไม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายตำรวจแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ฝ่ายทหารเองก็ต้องจัดกำลังเข้าร่วมป้องกันด้วย โดยไม่ควรนิ่งนอนใจว่าอยู่ในสถานการณ์ปกติสามารถควบคุมได้ เพราะฝ่ายกองทัพก็มีอำนาจที่สมบูรณ์ที่จะออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตามบทบาทของคณะกรรมการร่วม เพื่อติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว ดังนั้นจึงสมควรจะเตรียมกองกำลังเพื่อป้องกันรัฐสภาอย่างเข้มแข็งต่อไป จึงเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น