xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋าเหนาะ” เก้อ 4 พรรคร่วมเมินมือเย็น - “เพื่อแม้ว” อ้างโดนมือที่ 3 บีบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกนนำ 4 พรรคร่วม เมินดินเนอร์บ้าน “ป๋าเหนาะ” อ้างป่วย-ติดธุระ เจ้าตัวเสียงอ่อยทำเต็มที่แล้วได้แค่นี้ แต่ยืนยันเดินหน้าตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ เตรียมเสนอชื่อนายตำรวจใหญ่และนายทหารใหญ่เป็นนายกฯ ขู่ ปชป.เป็นรัฐบาลบ้านเมืองไม่สงบ แต่พร้อมเชิญร่วมรัฐบาลหากโหวตแพ้ ด้าน ส.ส.เพื่อไทย อ้างแต่ละพรรคโดนมือที่ 3 กดดันไม่กล้ามาร่วมมื้อเย็น ขณะ “เทพเทือก” ยิ้ม อดีตพรรคร่วมเมินกินข้าวป๋าเหนาะ

ตลอดทั้งวันของวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้พยายามติดต่อกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ไม่ว่าจะเป็นอดีตพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และอดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตย ให้ไปร่วมรับประทานอาหารเย็นกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่บ้านพักย่านเมืองทองธานี เพื่อหารือกันถึงการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือที่นายเสนาะเรียกว่า “รัฐบาลเพื่อชาติ” โดยมีทุกพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวได้รับการปฏิเสธอย่างชัดเจนจากพรรคชาติไทยว่า คงไม่สามารถไปร่วมได้อย่างแน่นอน โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยระบุว่า เรื่องมันจบไปแล้ว และทางพรรคได้ประกาศจุดยืนร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 ธ.ค. นายเสนาะ เทียนทอง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่บ้านพักเมืองทองธานี ปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่ว่าจะเดินทางไปหารือนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ แต่ยอมรับได้โทรศัพท์คุยกันกับนายบรรหารแล้ว

นอกจากนี้ นายเสนาะ เปิดเผยว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพื่อมาร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่บ้านพักเมืองทอง ในเวลา 18.00 น.ซึ่งตนได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทย ให้เป็นผู้ประสานพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยนางอนงค์วรรณได้ตอบนายเสนาะว่าติดธุระต้องไปทำฟัน ซึ่งนายเสนาะกล่าวตอบไปว่า ไม่เป็นไรเสร็จแล้วให้ตามมาทีหลัง ให้พานายสมศักดิ์ เทพสุทิน มาด้วย

ขณะที่ นางอุไรวรรณ เทียนทอง รักษาการ รมว.แรงงาน ภริยานายเสนาะออกมาปฏิเสธกระแสข่าวว่านายเสนาะจะพบกับนายบรรหารเพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่ยอมรับว่าในเย็นวันนี้นายเสนาะได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยกันที่บ้านเมืองทองธานี

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 ธ.ค.ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ 7 พรรคว่า จะเป็นแนวทางแก้ไขวิกฤติบ้านเมือโดยเฉพาะความแตกแยกของประชาชนที่แบ่งเป็น 2 ขั้วชัดเจน หากพรรคประชาธิปัตย์ยังดื้อดึงเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบ้านเมืองจะยุ่งมากกว่าที่เป็นอยู่ แล้วจะไม่มีประเทศชาติให้เล่นการเมือง ตนจึงต้องออกมาในฐานะผู้อาวุโส ที่ไม่อยากเห็นประเทศไทยแตกแยกเป็นไทยเหนือไทยใต้ เหมือนเวียดนาม เกาหลี เพราะมองเห็นอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ก็ได้แต่จุดธูปจุดเทียนไม่อยากให้เกิดแบบนั้น เพราะในขณะนี้บ้านเมืองก็เสียหายประเมินค่าไม่ได้อยู่แล้ว

“ผมไม่ได้ต้องการจัดตั้งรัฐบาลแข่ง เพราะบอกแล้วว่าไม่ต้องการเป็นนายกฯ ถ้าผมจัดตั้งรัฐบาลได้ มีการโหวตเลือกนายกฯ ในสภาฯ แล้ว พรรคประชาธิปัตย์แพ้ ผมจะเป็นคนเชิญพรรคประชาธิปัตย์ด้วยตัวเองในสภาฯ ให้มาร่วมรัฐบาลด้วยกันเป็นรัฐบาล 7 พรรค หากไม่เชื่อผม แล้วพรรคประชาธิปัตย์ยังดื้อรั้น ต่อให้เอาคนเก่งสุดๆ มาบริหารบ้านเมืองก็ไม่สงบเรียบร้อย ยังแตกแยกกันอยู่ ผู้นำประเทศเดินทางไปเหนือ ไปอีสานไม่ได้ แล้วจะบริหารประเทศได้อย่างไร จะยิ่งกว่าที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ เสียอีก เราต้องการอย่างนั้นหรือ ดังนั้น ทุกพรรคต้องมาตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ ถ้าบ้านเมืองไปดีก็ได้หน้ากันทั้งหมด พรรคประชาธิปัตย์จะต้องหยุดความคิดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่กระสันอยากจะเป็น” นายเสนาะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติสัดส่วน ครม.จะเป็นอย่างไร นายเสนาะ กล่าวว่า ถ้าจะเอาประเทศชาติจะมาพูดเรื่องนี้ทำไม ในบางกระทรวง บางตำแหน่งอาจจะเอาคนนอกมาก็ได้ จะหยุดสักพักไม่ได้หรือ

เมื่อถามว่า รัฐบาลเพื่อชาติจะอยู่นานแค่ไหน นายเสนาะ กล่าวว่า ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ก็จะครบ 1 ปีก็เหลืออีก 3 ปีจะครบเทอม ถ้ามันดี อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเมืองใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายค้าน เพราะทุกพรรคก็คานกันเองอยู่แล้ว แม้ไม่ใช่หลักสากล แต่ต้องยอมรับว่า นี่เป็นวิกฤตของบ้านเรา เพื่อดึงเอาความรู้สึกของประชาชนที่แตกแยกกลับคืนมา ต่อไปทุกคนก็ไปเหนือไปใต้ไปอีสานได้หมด

เมื่อถามว่าตอนนี้คิดว่าความหวังที่จะเห็นรัฐบาลเพื่อชาติริบหรี่หรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่ริบหรี่ หากคนที่ไม่เอาแนวทางนี้แสดงว่าเห็นแก่ตัว ยืนยันว่า การเสนอแนวคิดนี้ตนบริสุทธิ์ใจ ไม่มีแอบแฝง ถูกกดปุ่ม ไม่ได้เป็นนอมินีใคร และคนอย่างตนใครจะมากดปุ่มคงไม่ได้

ต่อข้อถามว่า มีการมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีทหารเป็นเงาอยู่เบื้องหลัง นายเสนาะ กล่าวว่า หากทหารอยู่เบื้องหลังจริงบ้านเมืองยิ่งเจ๊ง ตนเห็นว่าปฏิวัติยังดีซะกว่า ที่สำคัญหากทหารออกมาปราบเสื้อแดงก็จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 15.20 น. แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ทยอยเดินทางมาที่บ้านพักนายเสนาะ เทียนทอง เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายวิทยา บุรณศิริ อดีตประธานวิปรัฐบาล นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รักษาการ รมว.สาธารณสุข นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายไพจิต ศรีวรขาน นายศรีเมืองเจริญศิริ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา พรรคเพื่อไทย

ต่อมาเวลา 16.45 น.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เดินทางออกจากบ้านพักนายเสนาะ โดยปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามที่ว่าได้มีการหารืออะไรกันบ้าง นายสมชายกล่าวเพียงว่าไม่มีอะไร มาเยี่ยมนายเสนาะเฉยๆ เพราะได้ข่าวว่านายเสนาะสุขภาพไม่ดี ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ทราบ

ไร้เงาพรรคร่วมฯ “เพื่อแม้ว” แก้เกี้ยวถูกกดดันจากมือที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสนาะได้รอให้แกนนำ 4 พรรคร่วมฯ เดินทางมายังบ้านพักเมืองทองธานี จนกระทั่งเวลา 19.00 น.แต่ยังคงมีเพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เดินทางมาร่วม และยังไม่มีวี่แววใดๆ ว่าแกนนำพรรคอื่นๆ จะเดินทางมา

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ แกนนำกลุ่มภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย จึงได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยเบื้องต้นนายสุรพงษ์อ้างว่าน่าจะมี ส.ส.จากอดีตพรรคร่วมรัฐบาล 2-3 พรรค มาร่วมหารือในวันนี้ แต่ต่อมากลับบอกว่า สาเหตุที่ไม่มีอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดินทางมา คงเป็นเพราะสถานการณ์ในวันนี้ถูกจับตามองจากการที่สื่อมวลชนมาสังเกตการณ์จำนวนมาก ทำให้ ส.ส.และแกนนำเหล่านั้นไม่กล้าออกมาปรากฏตัว เพราะมีแรงกดดันจากกลุ่มมือที่ 3 จำนวนหนึ่งมาคอยสกัดกั้น จึงคิดว่าการนัดหมายคราวต่อไปจะต้องเก็บเป็นความลับ และยืนยันว่าคำอธิบายดังกล่าวไม่ใช่เพียงเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวว่า เชื่อมั่นถึงร้อยละ 90 ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และยังเน้นย้ำเช่นเดิมว่า สามารถรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ไว้ได้แล้ว 225 เสียง ซึ่งจะแสดงให้เห็นได้ในวันที่มีการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะจนถึงเวลานั้นแรงกดดันจากมือที่ 3 จะไม่มีผลต่อการโหวต เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

หลังจากนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ร่วมรับประทานอาหารกับนายเสนาะ โดยมีโต๊ะว่างอยู่จำนวนมาก จนนายเสนาะเชิญผู้สื่อข่าวร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน พร้อมกันนั้นนายเสนาะ ได้ขึ้นพูดบนเวทีว่า วันนี้เป็นวันสำคัญอีกครั้งหนึ่งในฐานะที่ตนมีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมือง และได้บริหารประเท ร่วมกับนายกฯ หลายคน ที่ผ่านมาตนประกาศจุดยืนชัดเจนขอปลดระวางตัวเองไม่รับตำแหน่งใดๆ แต่ไม่ขอปลดระวางความรับผิดชอบต่อประเทศนี้

ในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค.ซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะถึงหนึ่งปี ประชาชนออกมาใช้สิทธิกันท่วมท้นและเป็นการใช้สิทธิตามชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญสามารถจัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มีปัญหา เพราะนายสมัครประกาศเป็นนอมินี ซึ่งก็เป็นลิขิตของคน ที่จะเอามาเป็นลิขิตของประเทศไม่ได้ จะเอาดวงของคนไปผูกกับปัญหาของประเทศไม่ได้

นายเสนาะ กล่าวต่อว่า ตนได้รับเกียรติจากพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง ซึ่งเห็นว่าขณะนี้ไม่มีหนทางอื่นที่จะแก้ไขนอกจากให้นักการเมือง ซึ่งก็คือ ส.ส.ทั้ง 480 คน มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขอให้หยุดกันชั่วครู่เพื่อให้ประเทศได้หายใจ และเพื่อให้สถาบันความมั่นคงประเทศก้าวต่อไปได้ ทุกพรรคให้ยกเลิกโควตา ใครเก่งด้านไหนก็เอามาเป็นรัฐมนตรีไม่ต้องเอาคนในพรรค

วิกฤตตอนนี้ต้องเอาประเทศไว้ก่อนและเริ่มฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเมือง ดึงความสามัคคีประชาชนกลับคืนมา ที่ผ่านมาปัญหามาจากผู้แทนทุกพรรค ซึ่งทุกพรรคต้องทำความเข้าใจไม่ ไม่ใช่ ส.ส.ใต้ไปภาคเหนือไม่ได้ ส.ส.เหนือไปภาคใต้ไมได้ ประชาชนไม่กล้าใส่เสื้อเหลือง-เสื้อแดง

นายเสนาะ กล่าวอีกว่า เมื่อได้มอบหมายมาก็มาสรรหาคนกลางเป็นนายกฯ และมองไปที่พรรคเพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยฯ ชาติไทยพัฒนา ไม่ใช่แสแสร้างว่าจะให้ตัวเองเป็นนายกฯ แต่อยากให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านให้เป็นหน้าที่สื่อและประชาชน หลังจากนี้ให้ร่วมทำงาน วันนี้ใครจะมาหรือไม่มาไม่ใช่ปัญหาตนไม่ได้ตั้งรัฐบาลแข่งกับใครหนีตนเท่ากับหนีประเทศ

นายเสนา กล่าวว่า ตนโทร.ไปหา พล.ต.อ.ประชา ก็บอกว่าเจ็บคอ ตนก็บอกว่าเจ็บคอไม่เกี่ยวเพราะไม่ได้มาร้องเพลง ส่วน พล.อ.เชษฐา ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าเห็นด้วยทุกอย่าง แต่ตอนนี้บอกอยู่โรงพยาบาล นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคก็ออกมาแถลงว่า หาก พล.อ.เชษฐามา ไม่ถือว่าเกี่ยวกับพรรค ตนจึงรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็ทำได้แค่นี้ หาทางออกให้แล้ว และพรรคใหญ่ก็ยอมถอยเพื่อให้ประเทศมั่นคง ส่วนใครจะล็อบบี้กันเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ก็เป็นอีกเรื่อง

“มีคนบอกว่าทหารล็อบบี้ให้เปลี่ยนขั้ว ผมไม่เชื่อ อยากให้ลองนึกภาพรัฐบาลแห่งชาติที่ไม่มีการเมือง และขอร้องให้เลิกสร้างภาพ เอานักวิชาการและหอการค้ออกมาพูดให้เปลี่ยนขั้วและหุ้นจะขึ้น ขอให้เอาของจริงมาพูดจะดีกว่า เพราะหากเปลี่ยนขั้วปัญหาจะแรงกว่าเก่า หากไม่เชื่อในสิ่งที่ตนพูดแล้วจะได้เห็น สื่อควรฟันธงลงไปว่าหากปัญหาเกิดแรงกว่าเก่าใครจะรับผิดชอบ”

นายเสนาะ กล่าวย้ำว่า ไม่เชื่อว่ากองทัพจะมายุ่งในเรื่องนี้ เพราะหากยุ่งสู้ปฏิวัติเสียดีกว่า หากบ้านเมืองไม่ปกติต่อให้เก่งแค่ไหนก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ขอให้เชื่อไอ้เฒ่าคนนี้สักครั้งว่าแนวทางที่ดีคือรัฐบาลเพื่อชาตินายกฯ จะมาจากสองขั้วเดิมไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคการเมืองใหญ่ยืนยันอย่างไรว่ายอมถอยไม่จัดตั้งรัฐบาลนายเสนาะกล่าวว่า เขาแถลงชัดเจนวันนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็มายืนยันว่าจะถอยทั้งหมดทั้งสภาและทุกที่ แต่หากนายกฯ เป็นพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงไปภาคเหนือไป อีสานไม่ได้ เครื่องบินจะลงที่ไหนเพราะมีตัวอย่างการยึดทำเนียบปิดสนามบิน โดยที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้มีให้เห็นมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายเสนาะยืนยันว่าจะพยายามจัดตั้ง “รัฐบาลเพื่อชาติ” ต่อไปโดยชื่อนายกฯ ที่จะเสนอไม่ได้สังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนใครในสภาจะเป็นผู้ตัดสิน เรื่องตัวเลขไม่อยากพูด เพราะตอนนี้ เคาะกะลาตรงไหนดังก็วิ่งกันไป ตนไม่เคยจัดตั้งรัฐบาล เคยด่ากันสาดเสียเทเสียสุดท้ายก็มากอดกัน

นายเสนาะ กล่าวว่า ขณะนี้มีชื่อนายกฯ ในใจสองคน เป็นน้องทั้งคู่ คนหนึ่งเป็นตำรวจใหญ่ ตำรวจและทหารใหญ่ ใครมีข้อเสนอดีกว่านี้ก็ให้เสนอมา เมื่อก่อนมีคนว่าตนเป็นไดโนเสาร์ แต่ตอนนี้ซากไดโนเสาร์หายาก

เมื่อถามถึงทางเลือกจะยุบสภา นายเสนาะ กล่าวว่า ในยามนี้ยุบสภาก็เหมือนเล่นไพ่เจ๊ง แต่ถ้าปฏิวัติเท่ากับเป็นบุคคลล้มละลาย วันนี้ที่บ้านของตนสื่อมานั่งรอกันตั้งแต่เช้าถือว่าดีกว่าคนบอกว่าจะมาแล้วไม่มาเสียอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ส.ส.ต่างก็ทยอยเดินทางกลับซึ่งมีเพียง 30 คน สำหรับเมนูอาหารเย็นมือนี้ สั่งมาจากร้านนิตยาไก่ย่าง ประกอบด้วย กุ้งเผา ปลาเผา ส้มตำไก่ย่าง พะแนงไก่ ทอดมัน และปลาไหลผัดเผ็ด

รวมใจไทยฯ มีมติไม่ไปบ้าน “เสนาะ”

มีรายงานว่า นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้แจ้งมายังสื่อมวลชนว่า ไม่มีมติให้สมาชิกของพรรคไปร่วมงานที่บ้านนายเสนาะ เทียนทอง และยังยืนยันมติเดิมที่แถลงร่วมกับ 4 พรรคร่วมรัฐบาลว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ก่อนหน้านี้ ดังนั้นหากใครไปร่วมงานก็จะถือว่าเป็นการไปเป็นการส่วนตัว

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกจากพรรคอย่างสบายใจหลังจากได้รับการยืนยันว่าไม่มีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปหารือร่วมกับนายเสนาะ ในครั้งนี้

สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล

เสนาะ เทียนทอง



กำลังโหลดความคิดเห็น